แกร็บ เปิดแคมเปญ ‘ผ่อนขับรับรถ’ สินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้าแบบผ่อนจ่ายรายวัน และ ‘เช่าครบจบบนแอป’ ราคาเริ่มต้นเพียง 125 บาทต่อวัน

by วันเพ็ญ แก้วสกุล , 1 พฤศจิกายน 2566

ผลสำรวจ พาร์ทเนอร์คนขับแกร็บให้ความสนใจและต้องการเปลี่ยนมาใช้ EV สูงถึง 85% แต่ติดข้อจำกัดรถ EV มีมูลค่าสูง แกร็บ จึงมาพร้อมข้อเสนอ ‘ผ่อนขับรับรถ’ โปรแกรมสินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้าแบบผ่อนจ่ายรายวัน และ ‘เช่าครบจบบนแอป’ บริการเช่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ราคาเริ่มต้นเพียง 125 บาทต่อวัน เปิดโอกาสการเข้าถึงรถ EV ไม่ต่ำกว่า 8,000 คัน ภายในปี 2568

 

 

แกร็บ หนึ่งในผู้ให้บริการขนส่งออนดีมานด์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดให้บริการทั้งด้านเดลิเวอรี บริการการเดินทาง และบริการทางการเงินดิจิทัล ครอบคลุมกว่า 500 เมืองใน 8 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม

ด้วยรูปแบบการให้บริการและความนิยมของผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทุกเที่ยววิ่งที่พาร์ทเนอร์ หรือที่เรียกว่า ไรเดอร์ ออกให้บริการนั้นได้มีส่วนในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งผู้บริหารแกร๊บในไทยตระหนักในประเด็นนี้พร้อมกับจัดหาโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ ทั้งการดำเนินธุรกิจและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน

“ภาวะโลกร้อนและปัญหาสิ่งแวดล้อมถือเป็นประเด็นระดับโลกที่ทุกภาคส่วนตื่นตัวและให้ความสำคัญอย่างยิ่งในปัจจุบัน”

 



นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในฐานะผู้ให้บริการแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางและขนส่ง แกร็บตระหนักถึงบทบาทในการป้องกันและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจในทุกประเทศ รวมถึงส่งเสริมให้คนในวงจรธุรกิจมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาและบรรเทาปัญหาสิ่งแวดล้อม

แม้ปัจจุบันจะมีพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บให้ความสนใจและต้องการเปลี่ยนมาใช้ EV สูงถึง 85% แต่ยังคงมีหลายปัจจัยที่ยังเป็นข้อจำกัด ทั้งราคารถที่ค่อนข้างสูง สมรรถนะของรถไม่ตอบโจทย์การให้บริการ รวมถึงระบบโครงสร้างและสถานีชาร์จที่อาจยังมีไม่เพียงพอ

แกร็บ ประเทศไทย จึงประกาศแนวคิด Triple Bottom Line ส่งเสริมและผลักดันประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะโครงการ ‘Grab EV’ ที่เปิดตัว 2 โปรแกรม ‘ผ่อนขับรับรถ’ และ ‘เช่าครบจบบนแอป’ เพื่อกระตุ้นคนขับ-ผู้จัดส่งอาหาร 10% พาร์ทเนอร์ทั้งหมด หันมาใช้รถ EV เพื่อให้บริการภายในปี 2568 หวังเป็นส่วนหนึ่งที่เข้ามาเปลี่ยน…เพื่อสิ่งแวดล้อมและชีวิตที่ดีกว่า

ทั้ง 2 โปรแกรมใหม่นี้จะเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินให้คนขับสามารถเข้าถึง EV ได้ง่ายขึ้น

· ‘ผ่อนขับรับรถ’ (Drive-to-Own) โปรแกรมสินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้าแบบผ่อนจ่ายรายวัน เจาะกลุ่มคนขับที่ต้องการให้บริการผู้โดยสารด้วยรถ EV โดยแกร็บร่วมมือกับ Moove ผู้ให้บริการด้านสินเชื่อยานยนต์ และ Rever Automotive ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า BYD เปิดโอกาสให้พาร์ทเนอร์คนขับสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อใช้ให้บริการรับส่งผู้โดยสารได้โดยไม่ต้องใช้ประวัติทางการเงิน แต่จะพิจารณาอนุมัติสินเชื่อจากประวัติในการให้บริการกับแกร็บ

โดยพาร์ทเนอร์คนขับไม่ต้องวางเงินดาวน์ และผ่อนจ่ายได้แบบรายวันผ่านการหักรายได้จากการให้บริการในแต่ละวัน โดยีระยะเวลาผ่อนนานสูงสุด 72 เดือน

 



พร้อมด้วยสิทธิประโยชน์เสริมอื่นๆ อาทิ ฟรีค่าซ่อมบำรุงรถ รวมถึงครอบคลุมการทำประกันรถยนต์ ประกันสุขภาพและประกันชีวิตให้กับพาร์ทเนอร์คนขับ

· ‘เช่าครบจบบนแอป’ (End-to-End EV Bike Rental) โดยแกร็บร่วมกับ 3 ผู้ผลิตรถยนต์ และผู้นำแพลตฟอร์มสลับแบตเตอรี่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ได้แก่ STROM, H SEM Motor และ Swap & Go เพื่อให้บริการเช่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสำหรับพาร์ทเนอร์คนขับที่ให้บริการจัดส่งอาหารผ่าน GrabFood จัดส่งพัสดุผ่าน GrabExpress หรือรับส่งผู้โดยสารผ่าน GrabBike

โดยโปรแกรมเช่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า กำหนดราคาเริ่มต้นเพียง 125 บาทต่อวัน ให้บริการกับกลุ่มไรเดอร์ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในการให้บริการเดลิเวอรีหรือรับ-ส่งผู้โดยสาร พร้อมสนับสนุนค่าบำรุงรักษารถ การทำประกันรถยนต์ชั้น 3+ พร้อมมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลให้คำแนะนำตลอดการใช้งานโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

โดยคาดว่าช่วยให้พาร์ทเนอร์คนขับสามารถเข้าถึง EV ได้ไม่ต่ำกว่า 8,000 คันภายในปี 2568 นอกจากนี้ได้ชวนผู้ใช้บริการร่วมรักษ์โลกผ่านฟีเจอร์ “Grab EV rides” ที่พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มโอกาสค้นหารถ EV ในพื้นที่มาให้บริการเป็นตัวเลือกแรก

นางสาวเมธิณี อนวัชกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจการเดินทางและบริหารพาร์ทเนอร์คนขับ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า ทั้ง 2 โปรแกรมเกิดขึ้นจากการดลองทำโครงการนำร่องเพื่อส่งเสริมการใช้ EV ในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2563

โดยได้ศึกษาพฤติกรรมการใช้งานและความต้องการของพาร์ทเนอร์คนขับมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราเข้าใจอินไซต์ของผู้ใช้งานจริง ตลอดจนปัญหาและข้อจำกัดต่าง ๆ และพยายามใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้ในการพัฒนาโครงการ Grab EV เพื่อส่งเสริมการเข้าถึง EV ในกลุ่มพาร์ทเนอร์คนขับให้มากขึ้น

ทั้งนี้ การจะทลายข้อจำกัดในด้านการเงิน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในอุปสรรคสำคัญในการเข้าถึงรถ EV ได้ แกร็บ ต้องร่วมมือกับพันธมิตรหลักในการพัฒนา เพื่อให้ได้มาซึ่งโซลูชั่นที่ช่วยแบ่งเบาภาระให้กับพาร์ทเนอร์คนขับได้จริง

ตั้งเป้าว่า โปรแกรม “ผ่อนขับรับรถ” จะเริ่มเปิดให้พาร์ทเนอร์คนขับแกร็บสามารถจองรถยนต์ไฟฟ้าจาก BYD ได้ในได้ในช่วงต้นปี 2567 และคาดว่าจะทำให้พาร์ทเนอร์คนขับสามารถเข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าได้ทั้งสิ้น 5,000 คันภายในปี 2568

ส่วนโปรแกรม “เช่าครบจบบนแอป” จะช่วยให้พาร์ทเนอร์คนขับแกร็บสามารถเข้าถึงรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าของทั้งสามพันธมิตรหลักได้กว่า 3,000 คันภายในปี 2567