ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (24 พ.ค.)ตำรวจกองปราบปราม นำโดย พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม นำ กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 100 นาย พร้อมหมายศาลเข้าตรวจค้น นิมนต์พระชั้นผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัด ประกอบด้วย วัดสามพระยา , วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร , วัดสัมพันธวงศาราม และ วัดอ้อน้อย จว.นครปฐม เบื้องต้นมี รายงาน ว่าเจ้าหน้าที่ได้นิมนต์ พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดสามพระยา เจ้าคณะกรุงเทพฯ และ กรรมการมหาเถรสมาคม กับพระลูกวัด ส่วนวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เจ้าหน้าที่ไม่พบเจ้าอาวาส แต่ได้นิมนต์ พระเมธีสุทธิกร (สังคม ญาณวฑฺฒโน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดสระเกศฯ และพระวิจิตรธรรมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส มาที่กองปราบปราม เพื่อสอบปากคำแล้ว ส่วนกรณีของ พระพุทธอิสระ หรือ "พระสุวิทย์ ธมฺมธีโร" แห่งวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม เจ้าหน้าที่ได้นิมนต์มาสอบปากคำ ตามหมายจับคดีกรรโชกทรัพย์ คาด เป็นกรณีกรรโชกทรัพย์ 1.2 แสนบาท โรงแรมเอสซีปาร์ค ช่วงชุมนุม ทางการเมือง ร่วมกับ คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กกปส. เมื่อปี 2558 โดยล่าสุด จนท.พนง.สอบสวน ได้แจ้งข้อหา พระพุทธอิสระ  อั้งยี่ และ ซ่องโจร ทางด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ตำรวจกองปราบปราม นำหน่วยคอมมานโก ตรวจค้นและจับกุมพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่อาจเกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัด ที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร วัดสามพระยา วัดสัมพันธวงศาราม และวัดอ้อน้อย ว่า เขาไปตรวจเรื่องเงินทอน ตนยังไม่ได้รับรายงานรายละเอียดว่ามีความคืบหน้าแค่ไหน ส่วนจะเชิญไปให้ปากคำกี่รูปนั้นเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่อข้อถามว่าการดำเนินการกับผู้ใหญ่ขณะนี้เกี่ยวข้องกับนโยบายการจัดระเบียบ แม้แต่ในวงการพระสงฆ์ด้วยหรือไม่ รองนายกฯปฏิเสธว่า ไม่เกี่ยว เป็นเรื่องของการทุจริต ส่วนกรณี เจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุม หลวงปู่พุทธอิสระมาที่กองปราบฯด้วย พล.อ.ประวิตรยังคงปฏิเสธว่า ไม่รู้ เดี๋ยวคงรู้รายละเอียด ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการไปก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องของการตรวจสอบ หากไม่ผิดก็ไม่เป็นไร ถ้าผิดก็ว่าไป เจ้าหน้าที่ตำรวจเขารู้ว่าควรทำอย่างไร