ตาย 60,000 คน/ปี เพราะสูบบุหรี่จนเป็นโรคหัวใจ

by ThaiQuote, 28 พฤษภาคม 2561

ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกลกล่าวว่า องค์การอนามัยโลก กำหนดให้วันที่ 31พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก เพื่อให้รัฐภาคีสมาชิกทั่วโลกร่วมจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ประชาชนเกิดความรอบรู้ถึงอันตรายของบุหรี่ที่มีผลต่อสุขภาพ ในปี 2561นี้ เป็นปีแรกที่เชื่อมโยงโรคหัวใจมาเป็นประเด็นการรณรงค์ ว่า “Tobacco and Heart Disease” หรือ “รักษ์หัวใจ ห่างไกลบุหรี่” เนื่องจากบุหรี่เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตลำดับต้นๆ ของประชากรทั่วโลก โดยแต่ละปี มีผู้เสียชีวิตจากบุหรี่มากกว่า 7 ล้านคน   จากรายงานผลการสำรวจการบริโภคยาสูบของประชากรไทย อายุ 15 ปีขึ้นไป ล่าสุดในปี 2560 ที่ผ่านมา พบจำนวนผู้สูบบุหรี่ 10.7 ล้านคน คิดเป็นอัตราการสูบบุหรี่ ร้อยละ 19.1 ของประชากรกลุ่มนี้ เมื่อพิจารณาแนวโน้มการบริโภคยาสูบของประชากรไทยโดยรวม ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ.2549-2560) พบว่า อัตราการสูบบุหรี่มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องอย่างช้า ๆ เป้าหมายสำคัญในการทำงานจึงมุ่งเน้นกลุ่มเยาวชนอายุ 15 – 24 ปี เพื่อลดนักสูบหน้าใหม่ เพราะการไม่สูบบุหรี่ จะลดอัตราการป่วยและเสียชีวิตจากโรคที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะโรคหัวใจและหลอดเลือดได้   ด้านนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรค ได้ดำเนินมาตรการเพื่อควบคุมการบริโภคยาสูบในทุกมิติ รวมถึงมิติด้านกฎหมาย ซึ่งเป็นมิติสำคัญที่ขับเคลื่อนสังคมไทยให้เป็นสังคม และสถานที่สาธารณะปลอดบุหรี่อย่างแท้จริง การรณรงค์ “รักษ์หัวใจ ห่างไกลบุหรี่” เป็นการรณรงค์ป้องกันควบคุมการเสพผลิตภัณฑ์ยาสูบ ช่วยเหลือผู้ที่เสพติดให้เลิกสูบบุหรี่ และปกป้องประชาชนจากการได้รับควันบุหรี่ เพื่อป้องกันไม่ให้ได้รับสารพิษจากบุหรี่ และเป็นการปกป้องดูแลหัวใจและหลอดเลือดด้วย โดยประสานความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย ทั้งเชิงนโยบาย และการขับเคลื่อนให้ประชาชนตระหนักรู้ถึงโทษ พิษภัย และผลกระทบจากการสูบบุหรี่ และการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 ได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ ได้จัดระบบให้บริการช่วยเลิกบุหรี่ในสถานบริการสาธารณสุขภาครัฐ สามารถขอรับบริการช่วยเลิกบุหรี่ได้ที่โรงพยาบาล สถานบริการสาธารณสุขภาครัฐใกล้บ้านได้ทุกแห่ง และขอรับคำปรึกษาได้ที่ศูนย์บริการเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์แห่งชาติ โทร. 1600   นายแพทย์แดเนียล เคอร์เทสซ์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า วันงดสูบบุหรี่โลกในปีนี้องค์การอนามัยโลก กำหนดคำขวัญในการรณรงค์ว่า “รักษ์หัวใจ ห่างไกลบุหรี่” เน้นย้ำให้เห็นถึงผลกระทบของบุหรี่กับโรคหัวใจวาย และหลอดเลือดสมองอุดตัน เพื่อกระตุ้นให้ประเทศต่าง ๆ เพิ่มความพยายามในการยุติผลกระทบจาก พิษภัยของบุหรี่ โดยเฉพาะการป้องกันเด็กและเยาวชนจากการลองสูบบุหรี่ เข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 โดยคนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าการสูบบุหรี่เป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจตีบตัน ก่อให้เกิดโรคหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมองอุดตัน และโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบ มีคนไทยกว่า 60,000 คน เสียชีวิตจากโรคที่มีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่ หลายคนทุพพลภาพ ไม่สามารถหายใจ ออกกำลังกาย เดินหรือมีชีวิตได้อย่างปกติ ปัจจุบันเยาวชน 25 ล้านคนทั่วโลกหันมาเริ่มสูบบุหรี่ อีกประมาณ 13 ล้านคนสูบบุหรี่แบบไร้ควัน มีผู้เสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากโรคหัวใจเนื่องจากการสูบบุหรี่มากกว่า 2 ล้านคนทั่วโลก การเลิกสูบบุหรี่จะช่วยรักษาหัวใจ โดยหลังจากเลิกสูบบุหรี่ 1 ปี จะลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจวายลงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับผู้ที่สูบบุหรี่   พลตำรวจตรี นายแพทย์เกษม รัตนสุมาวงศ์ เลขาธิการสมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า คนไทยเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดสมองปีละ 100,000 คน คิดเป็นร้อยละ 20 หรือ 1 ใน 5 ของสาเหตุการเสียชีวิตในแต่ละปี ผู้ที่มีอายุระหว่าง 30 - 45 ปีที่สูบบุหรี่มีโอกาสเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดมากกว่าคนที่ไม่สูบถึง 4 เท่า หรือเกือบครึ่งหนึ่งของคนวัยหนุ่มสาวถึงกลางคนที่เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดมีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่ ผู้ที่เป็นผู้สูบบุหรี่มือสอง (Passive or Second Hand Smoker) มีโอกาสเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดพอๆ กับผู้ที่สูบบุหรี่ การสูบบุหรี่เพียง 1 – 2 มวนต่อวันก็เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ บุหรี่ไร้ควัน หรือ E cigarette มีสารนิโคตินซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้เช่นกัน ผู้ที่เคยสูบบุหรี่และสามารถเลิกบุหรี่ได้สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ถึงร้อยละ 30   ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า ข้อมูลจากการสำรวจล่าสุดมีคนไทยที่เคยสูบบุหรี่แต่เลิกสูบได้แล้ว 4.75 ล้านคน จึงขอเชิญชวนผู้สูบบุหรี่ให้ลงมือเลิกในวันงดสูบบุหรี่โลก โดยเริ่มต้นจากการไม่สูบบุหรี่ในบ้าน ซึ่งจะทำให้เลิกสูบได้ง่ายขึ้น
Tag :