นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า ได้สั่งการให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เรียกผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ทั่วโลก ให้เดินทางกลับมาไทยในช่วงเดือนตุลาคม 2561 เพื่อมาประเมินการส่งออกในช่วงสุดท้ายของปี 2561 และแนวโน้มการส่งออกของปี 2562 เพื่อร่วมกันจัดทำแผนการขับเคลื่อนการส่งออก โดยต้องการให้มีการทำแผนล่วงหน้า เพื่อให้การทำงานเกิดความต่อเนื่อง และสามารถขับเคลื่อนการส่งออกของประเทศได้   ในการประชุมนอกจากการจัดทำแผนขับเคลื่อนแล้ว จะมีการประเมินแนวโน้มการส่งออกของปี 2562 ด้วยว่าจะมีอัตราการเติบโตเป็นอย่างไร ท่ามกลางเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจคู่ค้าที่เป็นอยู่ในขณะนี้ และต้องมีการประเมินปัจจัยลบต่างๆ ที่จะมีผลกระทบต่อการส่งออกในปี 2562 ด้วย เช่น ผลกระทบจากสงครามการค้า มาตรการกีดกันทางการค้า แนวโน้มราคาน้ำมัน และแนวโน้มอัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น เพราะปี 2562 การผลักดันให้การส่งออกเติบโตเหมือนปี 2561 คงจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ต้องมีแผนทำงานและทำให้ดีที่สุด นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า   รมว.พาณิชย์ กล่าวอีกว่า ” เราจะมุ่งผลักดันการส่งออก โดยใช้นโยบายหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ มุ่งเจาะตลาดเมืองรอง เมืองใหม่ๆ และเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม และส่งเสริมธุรกิจบริการ ทั้งดิจิทัล การดูแลสุขภาพ การท่องเที่ยว และร้านอาหารไทย เป็นต้น ซึ่งแต่ละประเทศจะต้องมีแผนการทำงานที่ชัดเจนในแต่ละเรื่อง และมาทำแผนขับเคลื่อนร่วมกัน”   รมว.พาณิชย์ เผยอีกว่า สาเหตุที่สั่งการให้ประเมินและจัดทำแผนการขับเคลื่อนการส่งออกของปีต่อไป เพราะปี 2562 จะเผชิญกับเรื่องสงครามการค้า อาจมีผลกระทบต่อการค้าโลกที่ชะลอตัว ขณะที่ยังไม่มีปัญหาในเรื่องกำลังซื้อดีขึ้นตามราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวสูงขึ้น และเศรษฐกิจคู่ค้าผ่านจุดต่ำสุดไปได้แล้ว สำหรับแผนการขับเคลื่อนการส่งออก จะกำหนดกลยุทธ์การเจาะตลาดให้ชัดเจน เพื่อผลักดันเป้าหมายการส่งออกปีหน้าไม่ให้ต่ำกว่า 8-12%   โดยจะมุ่งเน้นการกำหนดประเทศในการเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจร่วมกัน อาทิ จีน ญี่ปุ่น อาเซียน อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย เป็นต้น