อัยการสาวย้อนเกล็ดขายประกัน ถึงติดคุก-ปิดกิจการ

by ThaiQuote, 18 กันยายน 2561

ข้อมูลจากอับสาว จ.แม่ฮ่องสอน ระบุว่า"เมื่อสองวันก่อน มีประกันบริษัทหนึ่งโทรมาเสนอขายประกันกับเรา เราบอกว่าไม่เอาประกันอุบัติเหตุ มีแล้วพนักงานบังคับ เน้นว่าทุกคนที่มีบัตรเครดิตของกรุงศรี กสิกร กรุงไทยต้องมี เราบอกว่าไม่เอา ค่าธรรมเนียมเท่าไหร่ มันบอก 2,950  เราบอกไม่สนใจ เขาพูดรายละเอียดหน้าบัตรเครดิตเราถูกต้องหมด แล้วให้เราพูดตกลงว่า จะรับเอกสารไปดู และย้ำว่า ถ้าพี่ไม่ชอบไม่ต้องจ่ายเงิน เราเลยถามกลับว่า จ่ายเงินไงเหรอ เขาบอกจ่ายหน้าเคาเตอร์ เราถามว่า ไม่ใช่มาตัดบัตรพี่นะมันบอก ไม่ตัด สบายใจได้ และจะมีเจ้าหน้าที่โทรติดตามผลตลอด ไม่ต้องห่วง'   อัยการ ระบุต่อว่า ซักพัก ประกันได้โทรศัพท์มาบอกว่า ได้ตัดเงินจากบัตรไปแล้ว 2,950 บาท เราก็เม้งว่า เฮ้ย คุณไม่มีสิทธิ์ มันวางหูใส่ แล้วไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย จึงโทรหาบัตรเครดิต ซึ่งมีการตัดบัตรไปจริง เราจึงบอกเล่าเรื่องทั้งหมด ทางบัตรเครดิตจึงติดต่อทางบริษัทประกันให้ เราคุยกับบริษัทประกัน มันปัดความรับผิดชอบ บอกว่าเป็นของโบรกเกอร์ที่นึง เราโทรไปหาโบรกเกอร์ พอบอกว่าขอร้องเรียน มันวางหูใส่เลย เราเลยโทรไปอีกรอบ มันบอกคืนเงินแล้ว แต่ทางบัตรเครดิตบอกว่าไม่มีการวางเงินคืนแต่อย่างใด เล่นผิดคนละนะน้อง และนี่คือวิธีฆ่ามันแบบเลือดเย็น ใครเจอแบบนี้ แนะนำให้ทำ ฆ่ามันให้หมดจากสังคม   สเต็ปแรก เราเข้าไปหาข้อมูลบริษัทโบรกเกอร์แล้ว เก็บไว้หมด ตั้งแต่กรรมการผู้จัดการ ที่ตั้ง จำนวนเงินที่จดทะเบียน วัตถุประสงค์การจดทะเบียน   สเต็ปสอง เราโทรไปธนาคารแห่งประเทศไทย ถามวิธีการจัดการธนาคารที่เอาข้อมูลบัตรเราไปเปิดเผย และตัดเงินเราโดยไม่ได้รับอนุญาต   สเต็ปสาม โบรกเกอร์โทรมาขอโทษ เราก็พูดไปว่า ไม่ต้องขอโทษ เสียหายไปแล้ว พี่จดเบอร์และเวลาโทรไว้หมด เอาชื่อพนักงานที่ใช้เบอร์ต่อไปนี้ โทรมาตามเวลาต่อไปนี้มาให้หมด และกรรมการบริษัทคุณชื่ออะไร บริษัทอยู่ไหน มันไม่กล้าตอบ บอกว่าขอโทษ แค่อยากได้เงิน เลยทำ   เราเลยบอกว่า เอาชื่อ นามสกุล และเลขใบอนุญาตให้เป็นนายหน้าประกันภัยของทุกคนที่โทรหาพี่มา ไม่งั้นพี่จะบอกกรรมการบริษัทน้อง กรรมการบริษัทน้องมี 6 คน ชื่อ สกุลนี้ และที่ตั้งบริษัทอยู่นี่ใช่ไหม มันช็อค แล้วบอกว่า ใช่ จนเราได้ชื่อคนที่มันหลอกตัดเงินเรามาครบทุกคน พร้อมเลขใบประกอบการทั้งหมด   จากนั้น เราก็บอกว่า น้องรู้ไหมว่าการกระทำของพวกน้องเป็นการกระทำความผิดอาญาแผ่นดิน และร้ายแรงมาก จะชดใช้ค่าสินไหมพี่เท่าไหร่   มันบอกมันไม่มีเงินหรอก เราบอก นั่นมันเรื่องของคุณ คุณพูดเองว่าอยากได้เงินเลยทำ แบบนี้ ถ้าพี่บอกว่าพี่ก็ไม่มีเงินเหมือนกันล่ะ คุณเลวมาก เห็นแก่ตัว ไม่ต้องกลัวนะ พี่จะเอาเรื่องทุกทาง   ทางแรกพี่เอาคดีอาญาแน่ มานอนเล่นคุกไหมที่แม่ฮ่องสอน บรรยากาศดีนะ ทางที่สอง ที่จะส่งจดหมายรายงานพฤติกรรมพวกน้องไปที่บริษัทน้อง มันบอกว่าสงสารเถอะค่ะ พวกหนูจะโดนพักงานอยู่แล้ว เราบอกว่า เรื่องของคุณ ยังไม่สาสม   ทางที่สามโบรกเกอร์คุณกับบริษัทประกันใช่ไหม พี่จะร้องกรมการประกันภัยให้ถอนใบอนุญาตประกอบกิจการของบริษัทคุณ ทางที่สี่ พี่จะร้องให้ถอดใบอนุญาตประกอบอาชีพประกันภัยน้อง ทางที่ห้า พี่จะฟ้องแพ่งเอาค่าเสียหายให้ถึงที่สุด แล้วเราก็ไปแจ้งความ บอกตำรวจว่า ถ้ามันไม่ที่สุดห้ามหยุดเด็ดขาด และเราก็ส่งทั้งเมล์และจดหมายลงทะเบียนไปลุยทั้งโบรกเกอร์และบัตรเครดิต   วันนี้โบรกเกอร์โทรมา ทำเป็นเรียก..ว่าท่าน (ถ้าไม่รู้ฐานะ จะยอมคืนไหม?!?!) มันบอกได้หมายตำรวจ จะขอใช้สินไหมทดแทน และขอโทษ เราบอกว่า ไม่ต้องขอโทษ มันผิดไปแล้ว   มันพยายามจะให้ค่าสินไหม เราบอกว่าค่ะ ที่เรียกไปนั่นน้อยไปนะพี่ว่า แต่เอาเหอะ อย่างไรก็ตาม พี่จะเอาคดีอาญากับผู้เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด   มันบอก ให้โอกาสน้องเค้าไม่ได้เหรอครับ หมดหนทางเลยนะ "เรื่องของคุณ" คนทำผิดต้องได้รับการลงโทษตามกฎหมายอย่างสาสม มันบอก สงสารเด็กนะครับ เราบอก ไม่เด็กนะคะ บรรลุนิติภาวะแล้ว ไม่ปราณีค่ะ ถ้าพี่ไม่ใช่อัยการ พี่เป็นตาสีตาสา ละโดนทำแบบนี้ พี่จะเป็นอย่างไง คิดบ้างสิว่าคนอื่นเขาเดือดร้อน แบบนี้ต้องเชือดเป็นตัวอย่าง ใครหน้าไหนจะได้ไม่ทำอีก สงสารชาวบ้านนะคุณ สวัสดีค่ะ   ติดตามการเชือดโบรกเกอร์และบัตรเครดิตภาค 2 ต่อไป"