นายสมพงษ์ เวียงแก้ว รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กทม.ได้สั่งทบทวนและชะลอโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ส่วนต่อขยาย ช่วงสมุทรปราการ-บางปู วงเงิน 1.37 หมื่นล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือส่วนต่อขยาย ช่วงคูคต-ลำลูกกา วงเงิน 1.19 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่เตรียมจะเสนอสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อขอเปิดประมูลช่วงปลายปีนี้ ทั้งนี้การชะลอโครงการดังกล่าวนั้น เนื่องจากต้องการดูปริมาณผู้โดยสาร โดยพิจารณาและเก็บข้อมูลสถิติจากการเปิดให้บริการสายสีเขียวใต้ ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และสายสีเขียวเหนือ ช่วงหมอชิต-คูคต ว่ามีทิศทางเป็นอย่างไร และจะเหมาะสมในการต่อขยายเส้นทางออกไปหรือไม่ หรือจะทยอยขยายในเส้นทางที่มีจำนวนคนใช้บริการมากกว่าก่อน เป็นต้น สำหรับการเก็บรวบรวมข้อมูลและการศึกษาปริมาณผู้ใช้บริการคาดว่าจะใช้เวลารวมรวบข้อมูล 1-2 ปีก่อนตัดสินใจต่อไป ซึ่งโครงการเหล่านี้จะมีการเปิดประมูลแบบร่วมทุน PPP เพื่อเปิดโอกาสให้เอกชนเข้าร่วมประมูล อย่างไรก็ตาม ตามผลการศึกษาของกระทรวงคมนาคม คาดการณ์จำนวนผู้โดยสารในโครงการส่วนต่อขยายเหนือ-ใต้ในปีแรกที่เปิดให้บริการ คือ ปี 62 ที่จะเปิดใช้สายสีเชียวใต้จะมีปริมาณผู้โดยสาร 9.7 หมื่นคนต่อวัน รวมรายได้ปีละ 2,868 ล้านบาท จากนั้นในปี 64 เมื่อเปิดใช้เชียวเหนือ-ใต้ จะมีผู้โดยสาร 3.5 แสนคนต่อวัน แบ่งเป็นสายเหนือ 2.5 แสนคนและสายใต้ 1.06 แสนคน รวมรายได้ปีละ 5,703 ล้านบาท จากนั้นในปี 2574 จะมีปริมาณผู้โดยสารส่วนต่อขยายรวม 5.34 แสนคนต่อวัน รวมรายได้ปีละ 14,014 ล้านบาท สุดท้ายในปี 84 จะมีผู้โดยสารส่วนต่อขยายรวม 5.9 แสนคนต่อวัน รวมรายได้ปีละ 20,582 ล้านบาท คิดเป็นปริมาณเติบโตด้านรายได้ราว 700% เมื่อเทียบกับปีแรกที่เปิดให้บริการคือในปี 62 ขณะที่ด้านศักยภาพผู้โดยสารนั้นคิดเป็นการเติบโต 66% เมื่อเทียบกับปีแรกที่เปิดบริการต่อขยายเต็มสายคือในปี 64