แนะ คสช.ปลดล็อกให้ พรรคการเมืองทำกิจกรรม เพื่อความเท่าเทียม

by ThaiQuote, 26 ตุลาคม 2561

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ และแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) นำสมาชิกพรรครปช.ทำกิจกรรมเดินคารวะแผ่นดิน ในขณะที่พรรคอื่นไม่สามารถดำเนินการในลักษณะเดียวกันได้ ว่า เป็นการเลือกปฏิบัติของฝ่ายคสช. และตำรวจ  ถ้าเป็นพรรคอื่นคสช. ก็คงส่งทหารไปแจ้งความ และตำรวจก็คงจะรีบดำเนินคดีในทันทีเพราะหาชุมนุมเกินห้าคน และอาจให้กกต.ดำเนินการด้วย

ทั้งนี้ สิ่งที่นายสุเทพ กับพรรค รปช.ทำความจริงไม่ใช่เป็นสิ่งที่ควรอนุญาตให้ทำเท่านั้น แต่ควรส่งเสริมให้ทำ เพราะนายสุเทพตั้งพรรคการเมืองแล้วเดินไปพบชาวบ้าน และแม้จะเป็นการไปหาเสียงคสช. และกกต. ก็ควรส่งเสริมให้เขาทำเพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในการเลือกตั้ง เพราะกลัวเค้าจะได้รู้ว่าพรรคของนายสุเทพ มีใคร หน้าตาอย่างไร และมีนโยบายอย่างไรบ้าง แต่คสช. กลับยังไม่ยอมปลดล็อกคำสั่ง

อย่างไรก็ตาม ตนไม่อยากเรียกร้องให้ยุติการเลือกปฏิบัติโดยการไปจับนายสุเทพมาดำเนินคดี เพราะผิดหลักการประชาธิปไตย คสช. ควรหารือกับกกต. ในการยกเลิกและแก้ไขคำสั่งต่างๆที่จะทำให้นักการเมืองและพรรคการเมืองทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการเลือกตั้งได้

นายจาตุรนต์กล่าวถึง ยุทธศาสตร์ของพรรคพท. ในการที่จะใช้คณะกรรมการบริหารพรรคชุดเดิม แล้วให้คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคไปนั่งเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ว่า ไม่ทราบชัดเจน เพราะไม่ได้รับการสอบถามความคิดเห็นในเรื่องนี้จากทางพรรค แต่เท่าที่ติดตามดู จากข่าวก็คิดว่าพรรคจากตระกูลไทยรักไทย (ทรท.) ถูกยุบได้ง่าย ก็คงมีแนวความคิดที่จะหลีกเลี่ยงในการเอาคนสำคัญของพรรคไปนั่งเป็นคณะกรรมการบริหาร

นอกจากนี้ ที่ผ่านมาตนไม่เคยมีการแสดงความเห็นอะไรในเชิงที่เป็นการปล่อยข่าวกัน ข่าวที่บอกว่าจะมีคณะกรรมการบริหาร และคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคควบคู่กันไปด้วยก็ไม่เป็นความจริง ก็เพียงคณะกรรมการยุทธศาสตร์เตรียมการเลือกตั้ง แต่ไม่มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค ที่เหนือกว่าคณะกรรมการบริหารพรรคอย่างแน่นอน  ขณะนี้มีการปล่อยข่าวในลักษณะผิดๆถูกๆปนกันอยู่

สำหรับวันที่ 28 ตุลาคมนั้น ทราบว่ามีการเตรียมการประชุมและมีการนัดหมายพร้อมแล้ว หลังจากนี้ในความเข้าใจของตนคิดว่าไม่มีเหตุเพียงพอในการยุบพรรคพท. แต่ข่าวเรื่องการยุบพรรคมีความเข้มข้นมากขึ้น เนื่องจากคนของคสช. มีการพูดถึงเรื่องนี้ ซึ่งก็อาจจะทำให้หลายคนกังวล และหาทางหนีทีไล่ แต่คนที่พร้อมจะสู้ไปกับพรรคพท.ก็มีจำนวนมาก ซึ่งก็คงต้องติดตามสถานการณ์ และมองอนาคตกันต่อไป