“สมคิด” ลั่น! ตลาดทุนไทยศักยภาพสูงสุดในอาเซียน

by ThaiQuote, 15 พฤศจิกายน 2561

ดร.สมคิด  จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงาน "มหกรรมการลงทุนแห่งปี SET in the City 2018" ระบุว่า ได้หารือกับกระทรวงการคลังว่า ให้พิจารณาคงไว้และปรับรูปแบบกองทุนรวมหุ้นระยะยาว ( LTF ) ที่จะหมดสิทธิประโยชน์ทางภาษีสิ้นปี 2562 โดยต้องการให้เหมาะกับคนทุกวัยทั้งวัยหนุ่มสาวและผู้สูงอายุ เพื่อให้เป็นการออมในระยะยาว รองนายกฯ กล่าวอีกว่า ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกกำลังถดถอย ตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวน อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นลดลงร้อยละ 1.2 เยอรมนีลดลงร้อยละ 0.5 เพราะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า และยังมีความผันผวนของตลาดเงินตลาดทุนในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ (EM) แต่ตลาดทุนไทยแข็งแกร่งมาก เป็นรองแค่ญี่ปุ่น บริษัทจดทะเบียนไทยมีกำไรสุทธิโตถึงร้อยละ 10 มีเงินปันผลสูง มีสภาพคล่อง มีการระดมทุนผ่านตลาดทุนสูงสุดในอาเซียน ซึ่งแม้ว่าจะเกิดปัญหาเศรษฐกิจโลก แต่เชื่อว่าประเทศไทยจะประคองสถานการณ์ได้และต้องมองหาโอกาสภายใต้ลมพายุนี้ นายสมคิดกล่าวว่าในอนาคตไทยกำลังจะเป็นศูนย์กลางของ Acmecs หรือกลุ่มประเทศแม่น้ำอิรวดี เจ้าพระยา และแม่น้ำโขง ที่ประกอบไปด้วย ไทย พม่า ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ทำให้เกิดความเชื่อมโยงด้านผลิตภาพการผลิต หรือ Productivity ซึ่งจะสร้างความน่าสนใจให้กับประเทศไทยมากขึ้น ดังนั้นไทยจะต้องเชื่อมโยงทุกประเทศเข้าด้วยกัน และดึงเรื่องการลงทุนและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้เกิดความยั่งยืนกับเศรษฐกิจ ก็จะทำให้ GDP เติบโตได้ร้อยละ 4 ถึง 5 อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรียังฝากให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ยกระดับเป็นศูนย์กลางการระดมทุนของอาเซียน โดยจะต้องดึงบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ทั้งในและต่างประเทศมาจดทะเบียนในประเทศไทย โดยให้ทำงานร่วมกับ ก.ล.ต.และกระทรวงการคลัง   ข่าวที่เกี่ยวข้อง “สมคิด” ลั่น! ปี 62 โปรไฟล์ไทยสู่ระดับโลก