“สมคิด” ลั่น! ปี 62 โปรไฟล์ไทยสู่ระดับโลก

by ThaiQuote, 15 พฤศจิกายน 2561

ดร.สมคิด ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษภายในงานสัมมนา "THAILAND 2019 : เมื่อคนเปลี่ยน แลนด์สเคปธุรกิจโลกเปลี่ยน ธุรกิจไทยจะก้าวไปอย่างไร" ระบุว่า ในปี 62 ถือเป็นปีที่มีความสำคัญอย่างมากสำหรับประเทศไทย เนื่องจากเป็นปีที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพหรือประธานอาเซียน จึงถือว่ามีความสำคัญในการยกระดับโปรไฟล์ไทยขึ้นไปสู่ระดับโลก และเป็นโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับประเทศญี่ปุ่นและจีน ซึ่งถือว่าเป็นประเทศเศรษฐกิจหลักในการขับเคลื่อนภูมิภาคเอเชีย ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานับว่ามีความลึกซึ้งเป็นอย่างมากจากการเจรจาการและร่วมมือกัน ขณะที่ล่าสุดได้มีการเดินทางไปยังประเทศจีน โดยมีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนจาก High Network JC หรือการค้า ไปสู่ระดับความร่วมมือระหว่างกระทรวงและกระทรวง รวมไปถึงความสัมพันธ์กับอนุภูมิภาค หรือ Subregion ในประเทศจีน ซึ่งหากไทยสามารถเป็นศูนย์กลางของ CLMVT ในการประสานประเทศต่างๆ ได้ ไทยจะมีโปรไฟล์ที่ใหญ่ขึ้นและเป็นจุดสนใจของประเทศยักษ์ใหญ่ เช่น จีน ญี่ปุ่น ที่จะใช้ไทยให้เกิดประโยชน์สูงสุด ดร.สมคิด รองนายกรัฐมนตรี ยังมองว่าประเทศจีนในขณะนี้ มีความต้องการเชื่อมโยงเส้นทางจากประเทศจีนไปยังประเทศอื่นๆ โดยใช้เส้นทางรถไฟ หรือเรียกว่าโครงการเส้นทางสายเศรษฐกิจ (One Belt One Road : OBOR) โดยสิ่งสำคัญ คือ การค้าและการลงทุนจะขยายไปตามเส้นทางดังกล่าว ซึ่งขณะนี้เส้นทางที่จะเป็นไปได้มากที่สุด คือ การเชื่อมโยงเส้นทางทางภาคใต้ของไทย หากสามารถทำให้ไทยและจีนเชื่อมโยงกันได้ ก็จะเป็นการสร้างเสน่ห์ให้กับประเทศ ที่นอกเหนือไปจากการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ขณะเดียวกัน ภายในปีนี้จะมีการผลักดันการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ระหว่างอาเซียน กับ 6 ประเทศคู่เจรจา คือ จีน, อินเดีย, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ให้สำเร็จตามเป้าหมาย ซี่งจะส่งผลทำให้ RCEP มีเขตการค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกเท่าที่เคยมีมา โดยขณะนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดี เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นได้ส่งสัญญาณชัดเจนในการผลักดันให้ RCEP เกิดขึ้นจริงในปีนี้ หรืออย่างช้าปีหน้า ดร.สมคิด "เมื่อไรที่ RCEP เกิด One Belt One Road พาดผ่าน และประเทศไทยสามารถทำตัวของเราเองให้เป็นหัวใจของ CLMVT ได้ อันนี้คือโอกาสมหาศาล ซึ่เคยพูดว่าประเทศเล็ก-ใหญ่ไม่สำคัญ สำคัญคือ เราต้องแสดงให้เห็นถึงนัยสำคัญกับ Geopolitics ของโลก และวันนี้กำลังเกิดขึ้น" รองนายกรัฐมนตรีกล่าว พร้อมระบุว่า นอกจากนี้ ประเทศจีนยังต้องการที่จะเปิดประเทศ ซึ่งถือเป็นเชิงสัญลักษณ์ในการที่จีนจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลก จากการผลักดันการค้าในประเทศ ฮ่องกง มาเก๊า และกวางตุ้ง ให้เกิดขึ้น โดยไทยเองแม้ว่าจะเป็นประเทศเล็ก แต่ก็พร้อมที่จะสนับสนุนให้เกิดการค้าเสรี และต้องการบอกกับประเทศจีนว่า การดำเนินยุทธศาสตร์ที่สำคัญของจีนนั้นจำเป็นต้องอาศัย Connectivity โดยไทยเป็นกลุ่มของ CLMVT ขอให้ใช้ตรงนี้ให้เกิดประโยชน์ นายสมคิด กล่าวเพิ่มเติมว่า ในเรื่องของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่เป็นปัญหาในขณะนี้ ไทยจะใช้โอกาสนี้ในการดึงดูดการลงทุนต่างชาติ โดยวันที่ 19 พ.ย.นี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จะเสนอบอร์ดเพื่อออกมาตรการดังกล่าว ซึ่งจะทำให้เป็นโอกาสที่ดีอย่างมากสำหรับประเทศไทยในปีหน้า ดร.สมคิด ขณะที่ยังมองเป็นโอกาสสำหรับภาคเอกชนไทยด้วยในการเปลี่ยนแปลง ซึ่งที่ผ่านมา รัฐบาลได้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย ตลอดจนกฎระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ เพื่อรองรับ อีกทั้งรัฐบาลยังคงผลักดันในเรื่องของการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายภาครัฐ และการลงทุนในรัฐวิสาหกิจให้เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งหากสามารถรักษาภาพการลงทุนภาครัฐและเอกชนไว้ได้ สิ่งที่จะตามมาคือความเชื่อมั่นของภาคประชาชน https://www.youtube.com/watch?v=ujUY2yni7zM&feature=youtu.be   ข่าวที่เกี่ยวข้อง สมคิดหารือ 2 ผู้นำจีน หนุนระบบ 5 จี ขับเคลื่อนประเทศ  “สมคิด” ลั่น ไทยศูนย์กลางอนุภาคลุ่มน้ำโขง เชื่อมจีนสู่อาเซียน