เด็กติดเกม!!! แก้ได้ ไม่ใช่ปัญหา

by ThaiQuote, 22 เมษายน 2560

ช่วงนี้เป็นช่วงปิดภาคเรียนหรือปิดเทอมของลูกๆหลานๆ แน่นอนว่ากิจกรรมของเด็ก และเยาวชน ในเวลาดังกล่าวคงหนีไม่พ้น “การเล่นเกม” จนบางครั้งความเพลิดเพลินในกิจกรรมดังกล่าว ทำให้พ่อแม่ ผู้ปกครองเป็นห่วง และกังวลใจเพิ่มมากขึ้นเมื่อล่วงเลยเข้าสู่เวลาปกติที่จะต้องเล่าเรียน แล้วจะมีวิธีแก้ไขอย่างไร นต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า ปัญหาเด็กติดเกม เป็นปัญหาที่พ่อแม่ผู้ปกครองเป็นห่วงมาโดยตลอด อาการที่เข้ามาขอรับการบำบัดได้แก่ การมีปัญหาการเรียน ผลการเรียนตก มีปัญหาพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงที่สัมพันธ์กับการเลียนแบบเกมที่รุนแรง ปัญหาเด็กถูกหลอก ถูกล่วงละเมิดทางเพศผ่านคนแปลกหน้าที่รู้จักแค่ในเกมออนไลน์หรือแชทไลน์ ทั้งนี้ เด็กที่เล่นเกมตั้งแต่เด็ก ๆ จะส่งผลกระทบชัดเจนกับการพัฒนาความคิด สมาธิ ความจำ ความอดทนพยายาม ปัญหาการเรียน เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นปัญหาทั้งหมดจะรุนแรงขึ้น เริ่มเห็นชัดในเรื่องของปัญหาพฤติกรรมและอารมณ์ก้าวร้าว รุนแรง หุนหันพลันแล่น และเสี่ยงโรคร่วมทางจิตเวช เช่น โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล รุนแรงถึงขั้นโรคจิตเวช และฆ่าตัวตาย นอกจากนี้ยังสัมพันธ์กับพฤติกรรมก้าวร้าว ใช้ความรุนแรงเลียนแบบเกม เสี่ยงเป็นผู้ก่ออาชญากรรม หรือตกเป็นเหยื่อของอาชญากร เสียสมาธิ ผลการเรียนแย่ลงอย่างชัดเจน โดยการเล่นเกมนานเกินกว่า 2 ชั่วโมงต่อวันในวันหยุดจะเพิ่มความเสี่ยงติดเกม 2.5 เท่า การเล่นเกมนานเกินกว่า 1 ชั่วโมงต่อวันในวันธรรมดา จะเพิ่มความเสี่ยงติดเกม 1.8 เท่า อาการติดเกมคือต้องเล่นเกมนาน ๆ และนานขึ้นเรื่อย ๆ และมักจะเสียอารมณ์ทุกครั้งที่พ่อแม่บอกให้เลิก ที่สำคัญเสียหน้าที่ของตนเอง ข้อแนะนำสำหรับผู้ปกครอง ควรแนะนำให้เด็กเล่นเกมที่เหมาะสมกับวัย คือในเด็กอายุน้อยกว่า 3 ปี ไม่แนะนำให้เล่นเกมคอมพิวเตอร์ อายุ 3-6 ปี เล่นได้เฉพาะเกมส่งเสริมการศึกษา โดยมีผู้ปกครองควบคุม อายุ 6 ขวบขึ้นไป เล่นเกมอื่น ๆ ที่ถูกกำหนดไว้สำหรับเด็กแต่ละวัย หลีกเลี่ยงเกมที่มีความรุนแรง ขณะเดียวกันในอายุ 13 ปีขึ้นไป หลีกเลี่ยงเกมที่มีเนื้อหาความรุนแรงมากเกินไป เช่น ฉากต่อสู้นองเลือด และห้ามเล่นเกมที่มีการวางแผนฆ่าศัตรู เพศสัมพันธ์ คำหยาบคาย การพนัน และยาเสพติด วันธรรมดา สามารถเล่นได้ น้อยกว่า 1 ชั่วโมงต่อวัน ขณะที่วันหยุด น้อยกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน ไม่ควรเล่นต่อเนื่องนานเกินกว่าชั่วโมง สำหรับคำแนะแนะนำของเด็กและวัยรุ่นนั้น ควรฉลาดเล่นและรู้วินัย หลีกเลี่ยงเกมออนไลน์ที่มีลักษณะทีมผู้เล่นหลายคน ไม่ควรเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ไม่นัดพบกับคนแปลกหน้าที่รู้จักผ่านเกมออนไลน์ ควรบอกพ่อแม่เมื่อพบสถานการณ์ที่ไม่น่าไว้ใจ เช่น ถูกข่มขู่ คุกคาม รีดไถ การซื้อของในเกม อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ผู้ปกครองควรติดตามพฤติกรรมการใช้เงินของลูก สถานที่ร้านเกมแถวบ้าน/ โรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ ไม่อนุญาตให้เล่นเกมในห้องส่วนตัว ตั้งกติการ่วมกัน ไม่ควรเล่นเกมก่อนทำการบ้าน/ก่อนเข้านอน ตลอดจน ชวนทำกิจกรรมสร้างสรรค์ทดแทน เช่น งานอดิเรก ออกกำลังกาย กีฬา จิตอาสา และไม่ควรอนุญาตให้เล่นเกมขณะทำกิจกรรมอื่น หรือ ขณะเดินบนทางสาธารณะ ทั้งนี้ ขอรับบริการปรึกษาได้ที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง

Tag :