“กัญชา” รักษาโรคมะเร็งได้จริงอะเปล่า

by ThaiQuote, 26 เมษายน 2559

               กระแสดังกล่าวมาจากงานเขียนหนังสือของ นพ.สมยศ กิตติมั่นคง ที่ระบุว่ากัญชารักษาโรคมะเร็ง ซึ่งมีกระแสข่าวในสังคมออกมาเป็นช่วงๆ แต่ก็เงียบหายไปกระทั่งถูกกลับมาจุดเป็นกระแสในสังคมอีกครั้ง โดย นายแพทย์ สมยศ กิตติมั่นคง  เปิดเผยว่า หนังสือเล่มนี้เขียนจากการศึกษาค้นคว้าข้อมูลจากหลายแหล่ง ทั้งในและต่างประเทศ    โดยพบว่าเมื่อ 3 ปีที่แล้วมีบริษัทยายักษ์ใหญ่ 2 บริษัทในประเทศญี่ปุ่นและอังกฤษได้จดสิทธิบัตรว่ากัญชาสามารถรักษาโรคมะเร็งได้  นอกจากนี้เมื่อปี 2003 ประเทศสหรัฐอเมริกาเองได้มีการจดสิทธิบัตรว่ากัญชาสามารถใช้เป็นยารักษาโรคได้  ล่าสุดได้มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านเว็บไซต์ของรัฐบาลสหรัฐฯระบุยากัญชารักษาโรคมะเร็งได้   ทั้งนี้การจดสิทธิบัตรต่างๆ เชื่อถือได้เนื่องจากก่อนจะจดสิทธิ บัตรเขาจะต้องมีข้อมูลการทำวิจัย และต้องพิสูจน์ว่าทำได้จริง นอกจากนี้ยังมีรายงานล่าสุด   64  งานวิจัย  พบว่า กัญชาสามารถรักษาโรคมะเร็งได้  โดยจะต้องมีการใช้ขนาดและวิธีการที่เหมาะสม  

               สำหรับการใช้กัญชาในการรักษาโรคจะใช้เป็นรูปแบบยาแผนโบราณ คือไปพบหมอ ให้หมอจ่ายใบสั่งยา และนำใบสั่งยาไปรับดอกกัญชา แต่ในกระบวนการใช้ยานั้นเราจะต้องแปรรูป ซึ่งสามารถใช้ 4 วิธี ได้แก่ 1.สูบ  2.การกิน 3. ทา  และ 4 สวนทวารหนัก  มีหลายคนสอบถามข้อมูลแหล่งสื่อ แหล่งรักษา รวมทั้งวิธีการใช้กัญชาในการรักษาโรคมะเร็ง ตนยืนยันว่าไม่ทราบ ทั้งนี้หากใครต้องการใช้กัญชารักษาโรคมะเร็ง วิธีที่แนะนำ คือ สามารถไปที่อเมริกา และประเทศแถวยุโรปเท่านั้น  

                 ขณะที่ในประเทศไทยมีข้อมูลการใช้กัญชารักษาโรคมะเร็งแบบลับ ๆ  มีคนใช้รักษาโรคมะเร็งมากว่า 10 ปี และมีกลุ่มเภสัชกรกว่า 10 ปีที่ใช้รักษา ซึ่งหากตำรวจรู้ถูกจับ ดังนั้นจึงเป็นความลับทั้งคนช่วยและคนรักษา  หากใครมีครอบครองถือว่าผิดกฎหมาย ถูกจับ และติดคุก  ที่ผ่านมาประเทศไทยเคยมีคนไปขอ อย.เพื่อทำการวิจัยเรื่องนี้ เขาบอกผิดกฎหมาย  ดังนั้นในไทยจึงไม่มีการทำวิจัยในเรื่องดังกล่าว

                ทั้งนี้ล่าสุดเมื่อ 12 เม.ย. ที่ผ่านมา   ปปส.หน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงยุติธรรมได้ยื่นร่างประมวลกฎหมายฉบับใหม่เรื่องยาเสพติด ซึ่งคณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างดังกล่าวแล้ว โดยมีมาตราหนึ่งที่น่าสนใจ ระบุว่าให้แพทย์แผนปัจจุบันหรือแผนไทยสามารถสั่งยาที่มีส่วนผสมของกัญชาให้คนไข้ได้ เป็นไปตามมาตรา 76  โดยคิดว่าทางปปส.มีคนศึกษาเรื่องนี้แล้ว   อย่างไรก็ตามจะใช้ได้จริงก็ต้องให้รัฐมนตรีสาธารณะสุขเป็นผู้ประกาศออกมา 

             สำหรับจุดอ่อนของกฎหมายคือต่างประเทศเขียนเป็นสมุนไพร  ขณะที่ประเทศเราใช้ในรูปแบบยาแผนปัจจุบัน   แต่ปัญหาคือจะส่งผลให้เราใช้กัญชาไม่ได้เพราะไทยประกาศใช้ยาแผนปัจจุบัน  ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการศึกษาเป็นผลสำเร็จ แต่ก็เป็นประโยชน์เพื่อป้องกันการนำกัญชามาใช้ผิดวิธี   โดยคนที่จะสามารถใช้ได้ต้องมีใบสั่งแพทย์ก่อนใช้กัญชา

              ขณะเดียวกันทางด้านสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ออกออกมาชี้แจงถึงกระแสดังกล่าว    โดย เภสัชกรสมชาย ปรีชาทวีกิจ รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ปัจจุบันยังไม่มียาจากกัญชาที่ได้รับการขึ้นทะเบียนตำรับยาแต่อย่างใด เนื่องจากยังไม่มีงานวิจัย หรือเอกสารทางวิชาการยืนยันว่าสามารถรักษาโรคมะเร็งได้

             อย่างไรก็ตาม อย.ได้ทราบถึงประโยชน์ของกัญชาและสารสกัดจากกัญชาในการนำมาใช้ในการบำบัดรักษาทางการแพทย์ จึงได้เสนอให้มีการแก้ไขพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ  เปิดให้สามารถนำกัญชารวมถึงสารสกัดจากกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ในการรักษาโรคได้ ตามคำสั่งของผู้ประกอบการวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบการวิชาชีพการแพทย์แผนไทยสาขาเวชกรรมไทย หรือผู้ประกอบการวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์

              ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้จัดทำร่างประมวลกฎหมายยาเสพติดเป็นการรวบรวมกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดหลายฉบับบรรจุไว้เป็นร่างประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับเดียว  อย.จึงได้ส่งร่างพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯดังกล่าวให้ ป.ป.ส.เพื่อประกอบการจัดทำร่างประมวลกฎหมาย ซึ่งร่างประมวลกฎหมายนี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ให้ความเห็นชอบกับหลักการของร่างฯ เมื่อวันที่ 12 เมษายน ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา