1. ไม่เหยียบคันเร่งบ่อย อ้าวไม่ให้เหยียบคันเร่งแล้วให้เหยียบอะไรล่ะ แล้วมันจะเรียกขับรถได้ยังไงหลายคนอาจสงสัย ก็อยากจะอธิบายความว่าในช่วงที่รถติดหรือรถคันหน้าเริ่มชะลอความเร็วให้เราปล่อยขาออกจากคันเร่งเพราะรถจะสามารถแล่นไปเองได้ซักพัก แล้วค่อย ๆแตะเบรกเบา ๆ และพยายามรักษาระดับความเร็วให้คงที่ตลอดเส้นทาง 2. ขับแบบนิ่ม ๆประหยัดกว่า ความหมายคือพยายามรักษาระดับความเร็วให้คงที่หรือขับรถให้รอบเครื่องยนต์อยู่ในระดับของแรงบิดสูงสุดของรถรุ่นนั้น ๆ ส่วนมากระดับที่ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุดคือ 60-80 ก.ม./ช.ม. ความเร็วระดับนี้นอกจากจะช่วยประหยัดน้ำมันยังได้ทั้งความปลอดภัยอีกด้วย 3. อุ่นเครื่องก่อนวิ่ง หลังจากสตาร์ทเครื่องแล้วแนะนำว่าให้อุ่นเครื่องก่อนขับ 1-2 นาที หรือขับด้วยความเร็วต่ำในช่วง 1-2 กิโลเมตร ซึ่งจะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้มากทีเดียว 4. ยิ่งเย็น ยิ่งแพง เข้าใจตรงกันว่าเมืองไทยอากาศร้อนแต่เรื่องของความเย็นของแอร์ก็มีส่วนกับการประหยัดน้ำมันได้เหมือนกัน ยิ่งเย็นก็ยิ่งกินน้ำมัน ขอแนะนำเลยว่าปรับอุณหภูมิและความแรงให้พอดีๆดีกว่า 5. ยิ่งเบิ้ลยิ่งซด ใครบอกคุณล่ะว่าการเบิ้ลรถมันดูเท่ห์ นอกจากมันไม่ได้ดูเท่ห์แล้วแถมยังกินน้ำมันเชื้อเพลิงไปโดยเปล่าประโยชน์แถมเครื่องยนต์ของรถสุดรักยังพังเร็วด้วย  ขับรถให้เหลือเงินเยอะๆ เท่ห์กว่ากันเยอะ 6. อย่าแต่งรถเกินความจำเป็น การเพิ่มอุปกรณ์หนัก ๆก็มีส่วนทำให้เครื่องยนต์ต้องรับภาระมากขึ้น หรืออุปกรณ์บางอย่างก็ทำให้เกิดการต้านลมขณะวิ่งก็ทำให้กินน้ำมันมากกว่าปกติ 7. เติมน้ำมันเต็มถังทุกครั้งที่มีโอกาส หลายคนอาจงง ๆว่าแล้วเกี่ยวอะไรกับการประหยัดน้ำมัน ก็เพราะเมื่อน้ำมันเต็มถัง แรงดันในถังจะมีเยอะและน้ำมันที่ถูกไปใช้ก็จะไม่ลดลงเร็วกว่าปกติ อีกทั้งยังช่วยรักษาปั๊มเชื้อเพลิงในถังไม่ให้ร้อน ซึ่งช่วยให้ปั๊มเชื้อเพลิงไม่เสื่อมก่อนอายุใช้งานที่ควร 8. หมั่นตรวจสอบลมยาง ลมยางที่พอดีจะดีกว่าลมยางอ่อนเพราะลมยางอ่อนมีแรงเสียดทานมากทำให้เครื่องยนต์ต้องใช้พลังงานมากกว่าปกติ แค่ 8 วิธีที่แนะนำมาลองนำไปใช้กันดู มันอาจจะช่วยให้เงินในกระเป๋าของคุณอยู่คงทนมากขึ้น ไม่จากไปก่อนเวลาอันควร ข้อมูลจาก www.sanook.com