โดยกล่าวว่า การทำธุรกิจสุขภาพความงามของ SMEs ในปัจจุบัน จำที่ต้องมีความอดทนเป็นอย่างมาก เนื่องจากอยู่ในตลาด Red Ocean ทั้งผู้บริโภคยังไม่มั่นใจในสินค้า จากที่มีกระแสข่าวของผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้คุณภาพออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการที่เข้ามาอยู่ในธุรกิจนี้ ต้องนำเสนอแบรนด์ที่มีคุณภาพ มาตรฐาน ทั้งปัจจุบันมีสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพและความงามมากมาย แต่ยังมีมีสินค้าเฉพาะด้านไม่กี่ตัวที่มีคุณภาพและสามารถตอบโจทย์ได้จริง การทำแบรนด์เครื่องสำอางของ SMEs จึงควรเน้นไปที่การพัฒนาโปรดัคท์ตัวใดตัวหนึ่ง ให้มีความโดดเด่นและตอบโจทย์ผู้บริโภคได้จริง เนื่องจากหาก SMEs ผลิตเครื่องสำอางหลายๆชนิดพร้อมกันในคราวเดียวก็อาจยากต่อการควบคุณมาตรฐานและเกิดความเสี่ยงในธุรกิจได้ ยกตัวอย่างแบรนด์ Amy Rose แป้งพัฟที่มีความสามารถลบริ้วรอยได้อย่างเรียบเนียน ตอบโจทย์คนที่มีปัญหารอยดำรอยคล้ำไปจนถึงรอยสัก ที่มีสามารถทำยอดขาย 2 แสนตลับใน 2 เดือน จากการทำรีวิวบนโซเชียลมีเดียเท่านั้น หนึ่งใน SMEs ที่เลือกบริษัทคอมเมทให้พัฒนาสินค้า โดยคุณภูริตา เจ้าของธุรกิจกล่าวว่า การทำเครื่องสำอางในปัจจุบันจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนาสินค้าให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ และความยากอีกอย่างคือการทำงานกับคน ซึ่งผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญกับ Partner และ Distributor ต้องคิดว่าจะทำยังไงให้เขาอยู่กับเราไปนานๆ ต้องหมั่นหาประสบการณ์ความรู้เพื่อนำกลับมาส่งต่อคนที่ทำงานร่วมกับเรา หาก SMEs คนไหนที่ประสบการณ์น้อย แต่ต้องการมีแบรนด์เครื่องสำอาง อาจลองเริ่มต้นจากสิ่งที่ทำได้ง่ายๆ แต่ควรเป็นผลิตภัณฑ์ที่เราชอบ ที่สำคัญคือต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้แคบลง ต้องชัดเจนว่าจะขายใคร เป็นเป้าหมายกลุ่มไหน ด้าน คุณสิทธิชัย โพธิ์สุขสิริกุล ผู้จัดการสายกิจกรรมองค์กร ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Development Bank) กล่าวว่า การพิจารณาปล่อยสินเชื่อให้ธุรกิจเครื่องสำอาง นอกจากหลักเกณฑ์ทั่วไปแล้ว ทางแบงก์ยังมีหลักพิจารณาถึงธุรกิจเครื่องสำอางที่มีแหล่งผลิตคุณภาพได้มาตรฐาน ทั้งต้องมีเครื่องหมาย อย.ที่ตรงกันกับสินค้า ต้องระบุกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ธนาคารสามารถปล่อยกู้ได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ SME Development Bank ก็ได้เตรียมสินเชื่อเถ้าแก่ 4.0 วงเงินกู้สูงสุด 1 ล้านบาท คิดดอกเบี้ย 1% ตลอดอายุสัญญา พร้อมสินเชื่ออื่นๆอีกมากมาย