"ถวิล" เล่าความจริง "เผาเมือง'53" สวนแสงเลเซอร์ ยันแค่เข้าขอคืนพื้นที่

by ThaiQuote, 15 พฤษภาคม 2563

"ถวิล" อดีตบิ๊กสมช. เล่าความจริงเหตุเผาเมืองปี 53 เผยรายงานทุกอย่างอยู่ใน "คอป." ไม่ต้องยิงแสงเลเซอร์ถามหาความจริง แต่ไปหารายงานอ่านกันเองได้

 

วันที่ 15 พฤษภาคม 2563 – นายถวิล เปลี่ยนศรี สมาชิกวุฒิสภา และในฐานะที่เคยดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เขียนข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงประเด็นที่มีกลุ่มเคลื่อนไหวบางกลุ่มยิงแสงเลเซอร์ “ค้นหาความจริง” ไปยังหลายจุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

โดยเฉพาะบริเวณที่เคยมีเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553 และทำให้รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นต้องเข้าขอคืนพื้นที่ และนำไปสู่การสูญเสียทั้งสองฝ่าย โดยนายถวิล แจกแจงประเด็นนี้ว่า รายงานความจริงในทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีอยู่ในเอกสารของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ที่หาอ่านกันได้ หากจะค้นหาความจริงกันอย่างจริงจัง

“ความจริง ผมก็ไม่อยากพูดอะไรมากระยะนี้ ที่เรากำลังเผชิญสถานการณ์สำคัญของบ้านเมือง ในการต่อสู้เพื่อนำพาบ้านเมือง และผู้คนในสังคมให้รอดพ้น ปลอดภัย จากโรคระบาดไวรัสโควิด-19 และผลกระทบด้านต่างๆ ซึ่งต้องการความรัก สมัครสมาน สามัคคีอย่างยิ่งของผู้คนในประเทศ

แต่ก็ปรากฏว่า ยังมีบุคคลและคณะบุคคล บางกลุ่มไม่รู้จักกาลประมาณหนักเบาของเรื่อง ออกมาจุดไฟสร้างประเด็นปัญหาความขัดแย้งบ้านเมืองไม่รู้จบอยู่อีกดังกล่าว ทั้งไม่อยากวิวาทะด้วยว่า

1.จะมาค้นหาความจริง ความเท็จอะไรกัน ระหว่างนี้ มันถูกกาละ เทศะ หรือไม่

2.ทำไมคนกลุ่มนี้ จึงมุ่งหาความจริงด้านเดียว เพื่อแก้ต่างให้กับกลุ่ม คณะของตัวเองเท่านั้น แต่ไม่สนใจความจริงในเหตุการณ์อื่นๆ ที่เกิดในช่วงเดียวกัน คล้ายกัน เช่น ใครอยู่เบื้องหลังการขัดขวาง ไปถึงการลอบทำร้าย จนมีผู้คนบาดเจ็บ ล้มตายเป็นจำนวนมาก ระหว่างการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย เมื่อปี 2548-2549 หรือการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.

ในช่วงปลายปี 2556 -ต้นปี 2557 หรือแม้แต่เหตุการณ์ที่มีการโกงกิน คอรัปชั่น ในรัฐบาลก่อนหน้านี้ที่ทำให้บ้านเมืองเสียหายยับเยิน จนคนแทบทั้งประเทศต้องออกมาชุมนุมขับไล่กันเป็นเดือนๆ ฯลฯ ไม่เห็นคนกลุ่มนี้ไปค้นหาความจริงเหล่านั้น มาเล่าให้ฟังบ้าง

เอาล่ะครับ ข้ามประเด็นพวกนั้นไปดีกว่า

ทีนี้ เมื่อปี 2553 ขณะนั้น ผมเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ จึงเป็นเลขานุการคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. โดยตำแหน่ง ผมอยู่ในเหตุการณ์โดยตลอด ตั้งแต่เริ่มมีการชุมนุมของกลุ่ม นปช. เมื่อ วันที่ 12 มีนาคม 2553 จนสิ้นสุดการชุมนุมเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2553 มีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นมากมายระหว่างนั้น

เมื่อท่านอยากตามหาความจริง ผมก็อยากแนะนำท่านว่า ให้ท่านไปหาอ่าน “รายงานของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.)” ซึ่งถือว่าเป็นกลางและเป็นอิสระ ท่านก็จะได้ทราบความจริง จะได้ไม่ต้องไปเที่ยวยิงเลเซอร์ ตามตึก อาคาร สี่แยกถนนหนทางต่างๆ เพื่อตามหาความจริง และกล่าวหาฝ่ายต่างๆให้วุ่นวายอีก

เหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่ม. นปช. ครั้งนั้นมีเหตุการณ์เล็กๆ มากมายหลายเหตุการณ์ ประกอบเข้าเป็นเหตุการณ์ใหญ่ บอกกล่าวกันสั้นๆไม่หมดไม่สิ้น แต่ถ้าท่านอยากทราบ ผมก็พอสรุปให้ท่านทราบบางเรื่องได้ เช่น

1. การชุมนุมครั้งนั้น เป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ ผมไม่ได้พูดเองหรือใครพูด แต่เป็นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยศาลชี้ทุกครั้งที่มีผู้ไปร้องว่า เป็นการชุมนุมที่ไม่สงบ และไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และเมื่อรัฐร้องขอให้ศาลสั่งการให้ผู้ชุมนุมยุติการชุมนุม ศาลยังชี้ว่า เนื่องจากเป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบ รัฐจึงสามารถสลายการชุมนุมได้ โดยปฏิบัติให้เป็นไปตามขั้นตอนและวิธีการตาม กฎหมาย ไม่จำเป็นต้องมาขอให้ศาลสั่งอีก

2. การชุมนุมครั้งนั้น มีการปรากฏตัวของชายชุดดำ ซึ่งหมายถึงผู้ที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ครอบครองและมีการใช้อาวุธสงครามร้ายแรง ต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ จริง โดยในการปฏิบัติการ คนเหล่านั้นมักพลางใบหน้าและร่างกายด้วยเสื้อผ้าสีดำ ชายชุดดำปรากฎตัวในหลายสถานที่ และในหลายเหตุการณ์ ที่สำคัญ คือการปรากฏตัวที่สีแยกคอกวัวเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 และใช้อาวุธสงครามทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายนาย รวมทั้งพันเอกร่มเกล้า ธุวธรรม ยศในขณะนั้น

3. ไม่มีการสลายการชุมนุมครั้งนั้นแต่อย่างใด การปฏิบัติของเจ้าหน้าทีมีเพียงการขอคืนพื้นที่เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 เมื่อผู้ชุมนุมได้ใช้พื้นที่บนถนนสำคัญหลายเส้นทาง ติดต่อกัน จนรบกวนการสัญจรเดินทางของประชาชนจนเกินควร แต่กลับถูกต่อต้านอย่างหนักจากผู้ชุมนุม จนนำไปสู่การสูญเสียทั้งผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ ไม่ได้เป็นการบุกเข้าไปของเจ้าหน้าที่เพื่อสลายการชุมนุมแต่อย่างใด

ทั้งนี้ แม้แต่วันที่ กลุ่ม นปช.ยุติการชุมนุมเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2553 ก็เป็นการยุติการชุมนุมเอง หลังจากที่เจ้าหน้าที่กระชับวงล้อมการชุมนุมที่แยกราชประสงค์อยู่หลายวัน เพื่อให้ผู้ชุมนุมยุติการชุมนุมไปเอง แต่ยังปรากฏการยิงก่อกวนและทำร้ายเจ้าหน้าที่ตามจุดต่างๆ ที่ตั้งปิดการชุมนุมอยู่เสมอ โดยเฉพาะจากบริเวณสวนลุมพินี.

ในวันดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงบีบวงล้อมเข้าไปทางด้านถนนราชดำริ ระหว่างโรงพยาบาลจุฬา ฯกับสวนลุมพินี เพื่อกดดันไม่ให้มีการชุมนุมบริเวณนั้น และทำร้ายเจ้าหน้าที่อีก. และได้ยุติการกระชับพื้นที่อยู่แค่นั้น ไม่ได้มีการบุกเข้าไปสลายการชุมนุมอย่างที่บางฝ่ายกล่าวหาแต่อย่างใด

ยังคงมีข้อเท็จจริงอื่นๆอีกมากในเหตุการณ์ครั้งนั้น เช่น มีการเผาบ้านเผาเมืองหรือไม่ มีการปลุกปั่นยุยงให้มีการใช้ความรุนแรงหรือไม่ และจากใครบ้าง การเสียชีวิตของผู้อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้น เกิดจากอะไร และไม่แต่ผู้ชุมนุม แต่เจ้าหน้าที่ก็เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก เพราะอะไร ผมคงเล่าเหตุการณ์ย่อยๆพวกนี้ไม่หมด แต่หากใครอยากทราบความจริงเหล่านี้ ท่านก็ไปหาอ่านจากรายงานของ คอป. ตามที่ผมได้บอกไว้ ก็ได้ครับ”

 

ข่าวที่น่าสนใจ