พลิกเศรษฐกิจไทยก้าวต่อไปอย่างยั่งยืน ปลูกถั่วเหลืองแก้หนี้ ดันนิวเคลียร์สู้ต้นทุนพลังงาน

by สินนภา ดีเลิศพัฒนา, 19 กุมภาพันธ์ 2567

เศรษฐา ฉายวิสัยทัศน์ ปรับโครงสร้างประเทศไทยสู่ความยั่งยืน พลิกเพิ่มรายได้เกษตรกรไทย ่ผ่านถั่วเหลืองไทย ปลอดจีเอ็มโอ พร้อมแก้หนี้ครบวงจรเพิ่มพลังงานสะอาด และดันพลังงานนิวเคลียร์ แก้โจทย์ต้นทุนพลังงานสูง หวังสร้างสุขให้ไทย ส่งต่อซอฟต์พาวเวอร์คนทั่วโลกชื่นชมอัตลักษณ์ไทย

 

 

ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกยังมีความผันผวน และเต็มไปด้วยความขัดแย้งทางการเมือง มีความเสี่ยงต่อการเกิดสงครามในหลากหลายขั้ว ตลอดจนปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ยังเป็นประเด็นอันท้าทายที่่จะทำให้ทั่วโลกวางนโยบายเปลี่ยนผ่านเศรษฐกิจสีเขียว (Green EConomy) ที่มุ่งเน้นด้านการลดการปล่อยคาร์บอน ใช้พลังงานสะอาด เพื่อลดอุณหภูมิโลกให้เย็นลงสำหรับประเทศไทย

 ไทยที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทั้งภายในและภายนอก รัฐบาลมุ่งหน้านำพาเศรษฐกิจไทยให้ก้าวต่อไปได้อย่างยั่งยืนด้วยความตั้งใจจริง ให้ความสำคัญกับภาคการเกษตร ไม่เพิกเฉยต่อปัญหาหนี้ ทั้งหนี้ของครัวเรือนและหนี้ของธุรกิจ

 รวมถึงให้ความสำคัญกับการฟื้นตัวของธุรกิจภายหลังจาก Covid19 ในมุมมองของภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคเอกชน มุ่งปัญหาในเรื่องของหนี้สิน เศรษฐกิจ ยาเสพติด ค่าแรงขั้นต่ำ รวมไปถึงปัญหาการเกษตรและการลงทุนเพื่ออนาคต ตลอดจนการใช้ Generative AI ซึ่งเป็นข้อพึงระวังและข้อถกเถียงที่จะก้าวให้ทันเมกะเทรนด์โลก

 

 

 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายในงาน RESHAPING THAILAND A SUSTAINABLE FUTURE ถึงปัญหาต่างๆ ที่ต้องแก้ไขเพื่อพลิกเศรษฐกิจไทยก้าวต่อไปอย่างยั่งยืน ว่า ปัญหาด้านความเหลื่อมล้ำเป็นปัญหาเรื้อรังที่อยู่กับสังคมไทยมาอย่างยาวนาน เปรียบเทียบภาพได้กับพีระมิด ที่คนชั้นรากฐานก็มีศักดิ์ศรี อยากให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันแก้ไขปัญหา รัฐบาลไม่สามารถทำด้วยตัวคนเดียวได้ หน่วยงานรัฐ หน่วยงานราชการ หน่วยงานความมั่นคง องค์กรอิสระต่างๆต้องร่วมมือกัน

 

 

ปฏิรูปเกษตร ถั่วเหลืองอินทรีย์พันธุ์ไทย
เปิดประตูโอกาส ตีตลาด GMO

ส่วนสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจไทยคือ ภาคเกษตรกรรม เนื่องจากเกษตรกรเป็นภาคส่วนสำคัญที่ต้องให้การดูแล มุ่งไปที่รายได้สุทธิ อีกทั้งยังเล็งเปิดตลาดใหม่ สร้างอุปสงค์ ใช้เกษตรแม่นยำ

 ทั้งในส่วนของลดค่าปุ๋ย ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ การตรวจสอบหน้าดิน พัฒนาพืชพันธุ์ข้าว ถั่วเหลืองมีโอกาสสร้างจุดพลิกสำคัญให้กับเกษตรกรรมของไทย เพราะเป็นที่ต้องการของตลาด และถั่วเหลืองในตลาดโลก โดยที่ผ่านมา ถั่วเหลืองส่วนมากในไทยเป็นถั่วนำเข้า GMO (Genetically Modified Organism) หรือ มีการตัดต่อพันธุกรรม อนาคต

 รัฐบาลตั้งเป้าสร้างพันธุ์ถั่วเหลืองที่มีประสิทธิภาพสู่ตลาด ช่วยเหลือเกษตรกรไทย ให้ความรู้นำ ใช้เทคโนโลยีมาพัฒนาให้ถั่วเหลืองไทยให้สามารถต้านกับแมลงและวัชพืช เพิ่มผลผลิตต่อไร่ ควบคู่กับการยกระดับราคาถั่วเหลืองที่ผลิตในประเทศ เพื่อส่งเสริมหันมาปลูกพืชแห่งอนาคตเพิ่มขึ้น

“ใช้เวลาในการปฏิรูปเกษตรกรรมไทยโดยเฉพาะถั่วเหลือง โดยทั่วโลกมีความต้องการถั่วเหลืองหลายล้านตัน"

 ในอนาคตถั่วเหลืองจะมีส่วนสำคัญในการขยายตัวทางด้านอุตสาหกรรมอาหาร เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในอาหารแห่งอนาคต นับเป็นเป็นตัวตั้งต้นของอุตสาหกรรมการเกษตร ถั่วเหลืองเป็นพืชที่กินน้ำน้อย ปลูกแล้วบำรุงดิน ถ้าเราปลูกถั่วเหลืองสลับกับข้าวจะทำให้ประหยัดเรื่องของค่าใช้จ่ายในการใช้ปุ๋ยได้”

 

 

 

แก้โจทย์วัฎจักรข้าวโพดครบวงจร
เพิ่มรายได้สู่ ตัดวงจรเผาPM2.5

 นอกจากนี้ ยังมีโอกาสในการเข้าไปแปรรูปผลผลิตเศษจากการปลูกข้าวโพด เช่น ตอซังข้าว ไปพัฒนาสู่พลังงานชีวมวล (ไบโอแมส) แก้ไขปัญหาอย่างครบวงจร ตั้งแต่ภาคการเกษตร สร้างรายได้เพิ่มขึ้น จนไปถึง การแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ลดการเผาทำให้ช่วย ลด PM2.5ได้ เป็นการปฏิรูปประเทศไทยอย่างยั่งยืน คาดหวังเกษตรกรไทยมีรายได้สุทธิเพิ่มขึ้น 3 เท่าภายใน 4 ปี

ในหลายๆพื้นที่ได้ประสบกับภัยธรรมชาติ เจอน้ำท่วม เจอภัยแล้ง เป็นปัญหาที่รัฐบาลต้องเข้าแก้ไข ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อวางมาตรกรป้องกัน นอกเหนือจากเรื่องงบประมาณและการจัดการที่ดีแล้วต้องบริหารจัดการด้วยความใส่ใจ

 

 

พลิกสู่พลังงานสะอาด 50%ใน 5 ปี

 ให้ความสำคัญด้านพลังงานสะอาด เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศเลวร้ายไปมากกว่านี้ เพราะการตัดสินใจลงทุนไม่ได้ดูเพียงแต่มาตรการทางภาษีของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (Board of Investment : BOI) แต่ยังรวมถึงธุรกิจเกี่ยวกับศูนย์ข้อมูล (Data Center) ตลอดจนโรงงานผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า EV ควบคู่ไปกับราคาพลังงานที่เหมาะสม ซึ่งสิ่งที่ประเทศไทยได้เปรียบกว่าประเทศคู่แข่งคือประเทศไทยไฟไม่เคยดับ และปริมาณไฟฟ้าที่จะสามารถผลิตได้ทั้งจากพลังงานน้ำ และ โซลาร์ฟาร์มลอยน้ำ มีศักยภาพรองรับได้ครึ่งหนึ่งของการใช้ไฟฟ้าของประเทศไทยได้ในอีก 5 ปีในอนาคต

 รัฐบาลต้องหาเทคโนโลยี หาแหล่งพลังงานใหม่เพื่ออนาคตที่สดใสของอุตสาหกรรมไทย อีกทั้งยังเป็นจุดที่สามารถดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศได้ เนื่องจากพลังงานสะอาดเป็นปัจจัยหลักที่นักลงทุนให้ความสนใจ ทั้งในส่วนของการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี ตามหลัก ESG และความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ของประเทศไทยภายในปี 2593 และ 2608 ตามนโยบายของรัฐบาล

 

 

 

 

มองนิวเคลียร์ ทางเลือกราคาถูกพลังงานไทย

 เล็งเห็นถึงพลังงานนิวเคลียร์ที่เป็นพลังงานสะอาดราคาถูก โดยนายกรัฐมนตรีมีแผนเดินทางไปฝรั่งเศสเพื่อดูโรงงานนิวเคลียร์ ย้ำคำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ลงทุนสร้างอนาคตสดใสให้ภาคอุตสาหกรรมไทย

 ปัญหาหรือจุดอ่อนของตัวธุรกิจที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไข คือการลงทุนสร้างรถไฟความเร็วสูง สนับสนุนการส่งออก รวมถึงสร้างสนามบิน โดยนายกรัฐมนตรีอยากให้นักท่องเที่ยว

“Journey(ท่องเที่ยว) อย่างมีความสุข” ณ ปัจจุบัน ผู้โดยสารผ่าน (Transit Passengers) ในประเทศมีไม่ถึง 1% เล็งแก้ปัญหาที่ไฟลท์การบิน ปรับตารางการบิน ปรับค่าธรรมเนียมในการขึ้น - ลงของอากาศยาน (Landing Fee) และถือเป็นการโฆษณาประเทศในอีกนัยหนึ่ง

 ตั้งเป้าลงทุนดึงนักร้องแนวหน้าของโลกมาเล่นคอนเสิร์ตที่ประเทศไทย เนื่องจากคอนเสิร์ตในช่วงที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวที่มาชมคอนเสิร์ตโดยเฉพาะมากกว่า 70% โดยที่ผ่านมาการท่องเที่ยวการเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการให้ฟรีวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวถือเป็นกลไกหลักจากความพยายามของรัฐบาล

 นอกจานี้การดึงดูดนักท่องเที่ยวยังมีอีกแนวทางนึงคือการจัดคอนเสิร์ตระดับโลก ซึ่งที่ผ่านมาเรามีคอนเสิร์ตที่ได้รับความนิยมทั่ง โคลเพย์ เอ็ดชีราส โดยถ้าดูตัวอย่างจากสิงค์โปร์จะเห็นได้เลยว่าเมื่อมีการจัดคอนเสิร์ตศิลปินดังระดับโลกจะทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มขึ้นได้ ประเทศก็มีรายได้กระจายไปในเศรษฐกิจ หมูปิ้งข้างทางก็มีโอกาสมีรายได้มากขึ้น และน่าจะคุ้มค่าที่จะต้องจ่ายเงินเพื่อซัพพอร์ตในการจัดคอนเสิร์ตระดับโลก

 นายเศรษฐา ทวีสินกล่าวปิดท้ายว่า “RESHAPING THAILAND ไม่ใช่แค่เรื่องการลงทุน แต่เป็นการดูให้ครบทุกมิติในหลายเรื่อง ตั้งแต่ฐานรากพีระมิดจนถึงราคาผลผลิต รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะดึงศักยภาพปรับโครงสร้างให้เป็นจุดมุ่งหมาย ให้มีความอยากอยู่ในประเทศ มีสิทธิเสรีภาพในการเลือกประกอบอาชีพได้ มีสิทธิเสรีภาพที่จะเลือกเพศวิธีได้”