สตาร์บัค เปลี่ยนคนไทยซื้อกาแฟ พกแก้วส่วนตัว ตั้งเป้าลดขยะ 50% ในปี73

by ESGuniverse, 25 มีนาคม 2567

สตาร์บัคส์ เปิดตัวแคมเปญ LITTLE CHOICES. BIG CHANGES ร่วมสร้างความยั่งยืน สนับสนุนให้ลูกค้านำแก้วส่วนตัวมาใช้ที่ร้าน ตั้งเป้าลดขยะใช้ครั้งเดียวทิ้ง 50% ภายในปี พ.ศ. 2573

 

 

คนไทยส่วนใหญ่ซื้อเครื่องดื่มไม่ว่าจะเป็นน้ำ หรือกาแฟเฉลี่ยวันละแก้ว หรือ 365 แก้วต่อปี นับเป็นมูลค่าที่สูง ธุรกิจด้านนี้จึงแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาด งัดกลยุทธมากมายมามัดใจลูกค้า ทั้งการสร้างบรรยากาศร้าน เพิ่มรสชาติ เพิ่มเมนู การบริการ การคัดสรรวัตถุดิบอย่างดี ไปจนถึงกระบวนการผลิตที่มีจุดเด่นเฉพาะตัว ลูกค้ายิ่งซื้อ ขยะแก้วพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งยิ่งมากตามมา แต่ปัจจุบันมีเพียงไม่กี่แบรนด์ที่นึกถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมและให้ความสำคัญด้านความยั่งยืน หนึ่งในนั้นคือ สตาร์บัคส์ ยักษ์ใหญ่กาแฟชื่อดัง

นางสาวเนตรนภา ศรีสมัย กรรมการผู้จัดการ สตาร์บัคส์ ประเทศไทย กล่าวว่า สตาร์บัคส์ มีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินงานด้านความยั่งยืนผ่านกาแฟทุกใบ ไม่ใช้แล้วทิ้ง จึงเปิดตัวแคมเปญ LITTLE CHOICES. BIG CHANGES ชวนลูกค้านำแก้วส่วนตัวมาใช้ที่ร้านสตาร์บัคส์ทั่วประเทศ โดยถือเป็นวาระสำคัญสอดคล้องเป้าหมายด้านความยั่งยืนของสตาร์บัคส์ ในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ การใช้น้ำ และขยะใช้ครั้งเดียวทิ้ ลง 50% ภายในปี 2573 พร้อมมอบส่วนลด 10 บาท สำหรับลูกค้าที่นำแก้วส่วนตัวมาใช้ที่ร้านสตาร์บัคส์ทุกสาขาทั่วประเทศ

“ สตาร์บัคส์มีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินงานตามคำมั่นสัญญาของแบรนด์ต่อพาร์ทเนอร์ (พนักงาน) ลูกค้า ชุมชน ชาวไร่กาแฟ และโลกของเรา ผ่านกาแฟทุกๆ แก้ว โดยแคมเปญ LITTLE CHOICES. BIG CHANGES. ถือเป็นวาระที่สำคัญต่อเป้าหมายด้านความยั่งยืน และช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวกด้านสิ่งแวดล้อมให้คืนกลับ มากกว่าที่เรารับมา”

ทำสิ่งเล็กๆ สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่

นางสาวเนตรนภา เชิญชวนทุกคนเข้าร่วมแคมเปญ LITTLE CHOICES. BIG CHANGES. ด้วยการเลือกทำสิ่งเล็กๆ ที่จะช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ เช่น การเลือกใช้แก้ว ForHere เมื่อสั่งเครื่องดื่มนั่งดื่มในร้าน หรือใช้แก้วส่วนตัว (Personal Cup) เมื่อสั่งเครื่องดื่มกลับบ้าน

“ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญให้กับสิ่งแวดล้อม ในปีนี้ Starbucks ตั้งเป้าลดขยะใช้ครั้งเดียวทิ้งลง 50% หรือกว่า 3 ล้านแก้ว และมอบส่วนลด 10 บาทสำหรับลูกค้าที่นำแก้วส่วนตัวมาใช้ในทุกสาขาทั่วประเทศ ส่วนภายในปี 2573 ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ การใช้น้ำ และขยะลง 50% “

26 ปีลดขยะแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง 29 ล้านใบ

สตาร์บัคส์ ให้บริการมากว่า 26 ปี ปัจจุบันมีสาขารวมทั้งสิ้น 490 สาขา เตรียมเพิ่มสาขาใหม่ 30-40 แห่งต่อปี และร้านกาแฟสตาร์บัคส์ในประเทศไทย ได้รับการรับรองเป็นร้านกาแฟสีเขียว หรือ Greener Stores จำนวน 12 สาขา โดย Greener Stores คือร้านกาแฟของสตาร์บัคส์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ควบคุมด้วยระบบการบริหารจัดการพลังงานที่จัดเก็บข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อการคงสถานะการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด รวมไปถึงการระบุการใช้พลังงานที่บกพร่อง เพื่อปรับปรุงการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพดีขึ้นในครั้งต่อไป

และในปีนี้ สตาร์บัคส์ ประเทศไทย ตั้งเป้าลดขยะใช้ครั้งเดียวทิ้ง (เช่น แก้วพลาสติก) ลง 50% ซึ่งสถิติตั้งแต่ปีพ.ศ. 2541 ที่สตาร์บัคส์ได้เปิดตัวในประเทศไทย ลูกค้าสตาร์บัคส์มีส่วนร่วมในการลดขยะแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งไปแล้วกว่า 29 ล้านใบ จากการใช้แก้วส่วนตัว

 

 

 

Grounds for Your Garden

นอกจากนี้ สตาร์บัคส์ได้เปิดตัวโปรแกรม Grounds for Your Garden ลูกค้าสามารถนำกากกาแฟที่สตาร์บัคส์กลับไปผสมดิน เพื่อปลูกต้นไม้หรือทำสวนที่บ้านได้ โดยในปีพ.ศ. 2566
สตาร์บัคส์ได้แจก กาก กาแฟไปแล้วกว่า 4,000 กิโลกรัมทั่วประเทศ

GroundsForYourGarden เป็นสิ่งที่พาร์ทเนอร์สตาร์บัคส์ปฏิบัติตลอดมาในทุกๆ วัน เพื่อเชื่อมโยง ประสบการณ์ สตาร์บัคส์ กับลูกค้าทุกวัย ผ่านพันธกิจของการร่วมกันรักษ์สิ่งแวดล้อม เนื่องจากการให้บริการเครื่องดื่มลูกค้าในแต่ละวัน ทำให้ที่ร้านสตาร์บัคส์จะมีกากกาแฟจำนวนมากที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้

“สตาร์บัคส์ ประเทศไทย ได้นำกากกาแฟมาพัฒนาผลิตเป็นโต๊ะ และถาดรองจานสำหรับใช้ภายในร้าน และที่รองแก้วเป็นสินค้าเฉพาะฤดูกาล นอกจากนี้ กากกาแฟยังมีส่วนประกอบสำคัญสำหรับการปลูกต้นไม้ จึงขอเชิญชวนลูกค้าร่วมกันปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวร่วมกัน”