โมเดลจัดการขยะ เริ่มจากวัดขับเคลื่อนสู่ชุมชน เพิ่มการคัดแยกขยะวิบวับ แลกอุปกรณ์ดูแลสุขภาพ

by ESGuniverse, 22 เมษายน 2567

 

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร ปลูกฝังการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมคนในชุมชน ให้จัดการแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง ผ่านโครงการ Care the Whale สถานีขยะล่องหน คุ้งบางกะเจ้า #4 เดินหน้าขับเคลื่อนต้นแบบจากวัดสู่ชุมชน เพิ่มหมวดการคัดแยกขยะประเภท Multi-Layer Plastic หรือขยะวิบวับ ตั้งเป้าขยะมาเข้าสู่กระบวนการคัดแยกเพิ่มกว่า 40% จากปีก่อน

 

ประเทศไทย มีจังหวัดชายฝั่งกว่า 23 จังหวัด จัดเป็นหนึ่งในประเทศที่สร้างขยะทะเล อันดับต้นๆ ของโลก สร้างปริมาณขยะทางทะเลและขยะมูลฝอยสูงเป็นอันดับ 6 ของประเทศที่มีปริมาณขยะเยอะที่สุดในโลก มีขยะมากถึง 27.40 ล้านตันต่อปี และในจำนวนนี้เป็นขยะพลาสติกมากถึง 2 ล้านตัน

 

ขยะที่พบ 10 อันดับแรกของทะเลไทย ได้แก่ ขวดพลาสติกเครื่องดื่ม (ร้อยละ 22.00%) ถุงพลาสติก (ร้อยละ 19.42%) ขวดเเก้ว (10.96%) ห่อ/ถุงขนม (7.97%) เศษโฟม (7.55%) กระป๋องเครื่องดื่ม (7.46%) กล่องอาหารประเภทโฟม (6.92%) หลอด (6.45%) ฝาพลาสติก (5.67%) เชือก (5.61%) จะพบว่าขยะจำพวกพลาสติกและโฟมมากกว่าร้อยละ 50% (กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, 2563)


ภาครัฐตื่นตัวรณรงค์เลิกใช้ พลาสติก 7 ชนิดภายในปี พ.ศ. 2570

ปัจจุบันภาครัฐตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้ จึงได้มีการกำหนดมาตรการทั้งทางกฎหมาย เพื่อควบคุมปริมาณการผลิตและการใช้พลาสติก และจัดทำ Roadmap การจัดการขยะพลาสติก (พ.ศ. 2561 – 2573) โดยขอความร่วมมือทั้งจากภาครัฐ เอกชน และประชาชนให้เลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว (single – use plastics) 7 ชนิด ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2561 ได้แก่ พลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่ม ไมโครบีดส์ ผลิตภัณฑ์พลาสติกที่มีส่วนผสมของสารประเภท อ็อกโซ่ (ภายในปี พ.ศ. 2562) ถุงพลาสติกหูหิ้วความหนาน้อยกว่า 36 ไมครอน กล่องโฟมบรรจุอาหาร (ภายในปี พ.ศ. 2565) แก้วพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว และหลอดพลาสติก (ภายในปี พ.ศ. 2568) และยังตั้งเป้าให้ขยะพลาสติกทั้ง 7 ชนิดสามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ให้ได้ 100% ภายในปี พ.ศ. 2570

Care the Whale สถานีขยะล่องหน คุ้งบางกะเจ้า


ด้าน ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ วัดจากแดง บมจ. สหพัฒนพิบูล บมจ. โอสถสภา และ บมจ. พริ้นซิเพิล แคปิตอล ส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตคนในชุมชน ณ คุ้งบางกะเจ้า จ.สมุทรปราการ ภายใต้โครงการ “Care the Whale สถานีขยะล่องหน คุ้งบางกะเจ้า” ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ด้วยการปลูกฝังการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมคนในชุมชน ให้จัดการแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง

 

โดยปีนี้เพิ่มการคัดแยกขยะประเภท Multi-Layer Plastic หรือ ถุงวิบวับ ที่มีจำนวนมากและทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันสามารถนำไปรีไซเคิลได้ ตั้งเป้าปี 2567 ชุมชนส่งขยะมาเข้าสู่กระบวนการคัดแยกเพิ่มกว่า 40% จากปีก่อน


วัด เพิ่มการจัดการถุงวิบวับ

 

พระราชวัชรบัณฑิต (ประนอม ธัมมาลังกาโร) เจ้าอาวาส วัดจากแดง กล่าวว่า ขออนุโมทนาบุญและขอขอบคุณหน่วยงานภาคเอกชนในความร่วมมือโครงการ “Care the Whale สถานีขยะล่องหน คุ้งบางกะเจ้า” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4

 

ที่ผ่านมา ประชาชนในชุมชนคุ้งบางกะเจ้า มีส่วนร่วมและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการบริหารจัดการขยะ และให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมโดยรอบ ที่จะนำไปสู่ความยั่งยืนในระดับชุมชนอย่างแท้จริง สอดคล้องกับการทำงานของวัดจากแดง ที่เป็นศูนย์เรียนรู้การบริหารจัดการขยะ และพัฒนาองค์ความรู้ต่อเชื่อมการทำงานกับหน่วยงานต่างๆ นำมาซึ่งนวัตกรรมตามแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน

 

ปี 2566 โครงการ “Care the Whale สถานีขยะล่องหน คุ้งบางกะเจ้า” คัดแยกขยะจากชุมชนได้ถึง 354,265 กิโลกรัม โดย 86% เป็นขยะเศษอาหาร ซึ่งทางวัดได้นำขยะดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการทำน้ำหมักชีวภาพเพื่อใช้ประโยชน์ทางการเกษตร

 

ในปี 2567 วัดจากแดง มีความยินดีที่โครงการสนับสนุนให้ชุมชนแยกขยะประเภทถุงวิบวับ หรือซองบรรจุภัณฑ์ที่เรียกว่า Multi-Layer Plastic เพิ่มเติม ซึ่งวัดสามารถนำมาผ่านกระบวนการแยกเป็นเชื้อเพลิงและอะลูมิเนียมเพื่อใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

 

เพิ่มพันธมิตรเชี่ยวชาญ บริหารจัดการอย่างเป็นระบบ

 

นายกีรติ โกสีย์เจริญ ผู้ช่วยผู้จัดการ หัวหน้ากลุ่มงานบริหารกิจกรรมเพื่อสังคมและหัวหน้ากลุ่มงานสื่อสารองค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่งเสริมให้ภาคธุรกิจดำเนินงานความยั่งยืน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG)

 

สำหรับโครงการ “Care the Whale สถานีขยะล่องหน คุ้งบางกะเจ้า” จ. สมุทรปราการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ดำเนินโครงการร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เพื่อส่งเสริมสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนคุ้งบางกะเจ้า ด้วยการปรับพฤติกรรมคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทางและนำแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียนมาใช้ในคุ้งบางกะเจ้า

 

ตลาดหลักทรัพย์ฯ สามารถนำองค์ความรู้ เครื่องมือในการบริหารจัดการ และดึงพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาช่วยสนับสนุนการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ทำงานสอดประสานกับชุมชนในพื้นที่

 

ต้นทุนในกระบวนการคัดแยกสูง

วิธีรีไซเคิลซับซ้อนกว่าพลาสติกประเภทอื่น

 

ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่งเสริมการบริหารจัดการขยะในคุ้งบางกะเจ้ารวม 378,759 กิโลกรัม ลดปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ 341,559 kgCO2e เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 37,951 ต้น และในปี 2567 มีเป้าหมายว่าโครงการจะสามารถขับเคลื่อนให้ชุมชน หน่วยงาน ร้านค้า จัดการคัดแยกขยะได้ 500,000 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นกว่า 40% จากปีก่อน และเพิ่มประเภทขยะที่เข้าสู่กระบวนการคัดแยกให้ครบยิ่งขึ้น โดยเพิ่มประเภทถุงวิบวับ หรือ Multi-Layer Plastic ที่มีจำนวนมากเพราะเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ทั่วไปสำหรับเครื่องอุปโภคบริโภค

 

แต่ที่ผ่านมายังไม่ถูกนำไปรีไซเคิล เนื่องจากมีต้นทุนในกระบวนการคัดแยกสูง วิธีการรีไซเคิลซับซ้อนกว่าพลาสติกประเภทอื่น หวังว่าการขับเคลื่อนโครงการในปีนี้จะลดผลกระทบของขยะต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนได้อย่างยั่งยืน นายกีรติกล่าว

 

เสริมความรู้วัยเยาว์ แบ่งเบาภาระค่าครองชีพ

 

นางชัยลดา ตันติเวชกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทในฐานะที่เป็นพันธมิตรกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ดำเนินโครงการตั้งแต่ปีแรก ได้เห็นพัฒนาการและผลลัพธ์ทางสังคมและสิ่งแวดล้อมในคุ้งบางกะเจ้า ทั้งด้านปริมาณขยะที่ชุมชนคัดแยกและส่งมายังวัดจากแดงเพิ่มขึ้นทุกปี และการขยายการเข้าถึงชุมชนโดยให้ความรู้ถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มาจากขยะตกค้าง

 

โดยบริษัทได้ส่งเสริมความรู้และการจัดการขยะแก่เยาวชนผ่านโรงเรียนในพื้นที่คุ้งบางกะเจ้า นำไปสู่การสร้างจิตสำนึก ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคนในชุมชนในเรื่องการบริหารจัดการขยะ นอกจากนี้ ได้สนับสนุนสินค้าบริษัทในเครือให้กับชุมชน เพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ และในปีนี้จะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการให้ความรู้เรื่องการจัดการขยะประเภทใหม่ที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ เพื่อให้การแก้ปัญหาเป็นไปอย่างยั่งยืน

 

ขยะแลกชุดตรวจสุขภาพ


นางสาวอติยา อาวัชนาการ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านความยั่งยืน บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การร่วมเป็นพันธมิตรในโครงการ “Care the Whale สถานีขยะล่องหน คุ้งบางกะเจ้า” สอดคล้องกับปณิธานขององค์กรที่ต้องการสร้างคนที่มีจิตใจของความเป็นผู้ให้เพื่อช่วยเหลือคน ชุมชน และสังคม และมุ่งขับเคลื่อนความยั่งยืนให้กับชุมชนผ่านความเชี่ยวชาญของบริษัทในด้านการเป็นผู้ดูแลสุขภาพ

 

กิจกรรมนี้ เป็นการสร้างความตระหนักรู้ในการแยกขยะ เชื่อมโยงกับการดูแลสุขอนามัย ปีนี้ บริษัทต่อยอดแนวคิดโครงการขยะแลกสุขภาพ สนับสนุนสิ่งของดูแลสุขภาพไม่ว่าจะเป็น เครื่องวัดความดัน ปรอทวัดไข้ และเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถติดตามสถานะสุขภาพเบื้องต้นของตนเองได้ และลงพื้นที่ออกตรวจสุขภาพให้กับพระสงฆ์ในวัดจากแดง ซึ่งเป็นศูนย์กลางสถานีขยะล่องหนและการคัดกรองสุขภาพคนในชุมชน

 

โดยเจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ มีการให้ความรู้ถึงการจัดการขยะติดเชื้ออย่างถูกวิธี อีกทั้งยังเปิดให้ชุมชนนำขยะที่ผ่านการคัดแยกมาส่งที่ ณ จุดตรวจสุขภาพอีกด้วย

 

แยกขยะแผงยา ต่อยอดทำขาเทียม


นอกจากนี้ เพื่อเป็นการต่อยอด การจัดการขยะประเภทถุงวิบวับกับทางวัดจากแดง ทางโรงพยาบาลจะได้ริเริ่มโครงการแยกขยะแผงยา และรับเป็นจุด Drop Point สำหรับขยะกลุ่มดังกล่าว เพื่อส่งต่อให้ทางวัดจากแดงได้นำไปจัดการต่อผ่านเครื่องนวัตกรรมไพโรไลซิสรุ่นใหม่ และได้อะลูมิเนียมเพื่อส่งต่อทำประโยชน์อื่นๆ เช่น ขาเทียม เป็นต้น

 

หมุนเวียนขยะขวดแก้วรีไซเคิลได้ 100%

นางสุธิดา เสียมหาญ ผู้อำนวยการสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทความมุ่งมั่น เรื่องการจัดการขยะขวดแก้วในรูปแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เพราะขวดแก้วเป็นวัสดุที่สามารถนำมารีไซเคิลได้ 100% และไม่จำกัดจำนวนครั้ง

โดยปีที่ผ่านมา ชุมชนคุ้งบางกะเจ้าได้ส่งมอบขยะขวดแก้วมากถึง 20,623 กิโลกรัม และสำหรับปีนี้ คาดว่าจากการร่วมรณรงค์และขับเคลื่อนโครงการฯ มาอย่างต่อเนื่อง จะช่วยส่งเสริมพฤติกรรมการคัดแยกขยะของชุมชนให้มีการนำขยะขวดแก้ว มาส่งที่สถานีขยะล่องหนเพิ่มมากขึ้น โดยบริษัทฯ ได้สมทบทุน 50 สตางค์ ต่อน้ำหนักขยะขวดแก้ว 1 กิโลกรัม และแปลงเป็นผลิตภัณฑ์ในเครือให้กับวัดจากแดง ตามมูลค่าน้ำหนักของขยะขวดแก้วที่สถานีขยะล่องหนรวบรวมได้

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเชื่อมโยงเครือข่ายที่เป็นบริษัทรีไซเคิลเข้ารับซื้อขยะขวดแก้วจากวัดจากแดง เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล ผลิตเป็นขวดแก้วใหม่ ซึ่งยอดขยะจากโครงการฯ ที่กลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลในแต่ละปี เป็นเครื่องยืนยันถึงพลังสำคัญของชุมชนในการดูแลใส่ใจสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี

 

คัดแยกขยะพลาสติก 7 ประเภท


โครงการ “Care the Whale สถานีขยะล่องหน คุ้งบางกะเจ้า” เชิญชวนให้ชุมชนคุ้งบางกะเจ้า คัดแยกขยะ 7 ประเภท ได้แก่ ขวดพลาสติกขุ่น ขวดพลาสติกใส ถุงพลาสติกใส ขวดแก้ว เศษผ้า เศษอาหาร และถุงวิบวับ หรือ Multi-Layer Plastic ส่งให้วัดจากแดง เพื่อรวบรวมคะแนนรับของอุปโภคบริโภคจากหน่วยงานพันธมิตร ผ่าน 3 สถานี ได้แก่

สถานีขยะล่องหน ณ วัดจากแดง สถานีขยะล่องหนสัญจร ณ ตลาดบางน้ำผึ้ง ทุกวันเสาร์ และสถานีขยะล่องหนทันทีสามล้อไฟฟ้า ณ หน้าบ้านของคนในชุมชน เพื่อร่วมกันหาทางไปต่อให้กับขยะและลดขยะตกค้างตามพื้นที่ ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.setsocialimpact.com/carethewhale