ไมโครพลาสติกมีอยู่ทั่วไป ตั้งแต่ด้านล่างของพื้นมหาสมุทรจนถึงยอดเขาเอเวอเรสต์ ล่าสุดการศึกษายังพบพลาสติกจิ๋วเหล่านี้ในอนุภาคเลือดของมนุษย์อีกด้วย แต่เรายังสูดดมฝุ่นอนุภาคอื่นๆ เข้าสู่ร่างกายทุกวัน

แล้วทำไมเราต้องใส่ใจเรื่องนี้

เป็นคำถามที่ดี.

ไมโครพลาสติกนั้นมีอนุภาคที่เล็กมาก และมีความคงทนย่อยสลายยาก สามารถ แทรกซึมอยู่ทั่วไปทั้งอาหาร สิ่งแวดล้อมจนถึง สัตว์ เมื่อเข้าสู่ร่างกาย ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาฮอร์โมน และอาจนำไปสู่การลดภาวะเจริญพันธุ์ระหว่างเพศได้

ไมโครพลาสติกจึงจัดว่าเป็นสารพิษอันตราย ที่มีงานวิจัยบางส่วนพบว่า เป็นหนึ่งในสาเหตุของการกระตุ้นให้เกิดมะเร็ง ที่เข้าสู่ร่างกายได้หลากหลายทาง ดังนี้

-การรับประทาน ขยะในท้องทะเลปลอมปนไปสู่สัตว์ในทะเล เช่น ปลา นกทะเล และสัตว์น้ำ เช่น ปลาน้ำจืด มนุษย์รับประทานเข้าไป แล้วซึมเข้าสู่ร่างกายผ่านอาหารสะสมในทางเดินอาหาร ทำให้อัตราการดูดซึมอาหารลดลง ขาดสารอาหารและเสียชีวิตในที่สุด

-รับพิษทางเคมี เช่น จากยาฆ่าแมลงและโลหะหนัก จากสิ่งแวดล้อมรอบข้าง ปลอมปนในสัตว์น้ำ เมื่อเรารับประทานเข้าไปส่งผลกระทบต่อต่อมฮอร์โมน ทำลายระบบภูมิคุ้มกันเสื่อมสลาย และเป็นสาเหตุของปัญหาทางเพศ

-การสะสมสารพิษจากห่วงโซ่อาหารระดับต่ำและมากขึ้น จนส่งผลกระทบพิษรุนแรงขึ้น

-การขนส่งเชื้อโรค ไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกายไม่เพียงเป็นอันตรายโดยตรง ทางอ้อมยังนำพาแบคทีเรียและเชื้อโรคจากระบบนิเวศเข้าสู่ร่างกายเรา เข้าไปเจริญเติบโต

- เมื่อปนเปื้อนผสมในสิ่งแวดล้อม ที่คงอยู่ยาวนานหลายร้อยพันปี ทำให้เกิดการสะสมตะกอนมีพิษในสิ่งแวดล้อม ส่งผลต่อระบบนิเวศเสียหาย เราก็ได้รับผลกระทบกับวงจรห่วงโซ่อาหาร และมลพิษที่เกิดขึ้นจากสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมที่เลวร้ายมากขึ้น

ไมโครพลาสติกจึงถือว่าเป็นอันตรายส่งผลกระทบต่อสุขภาพมนุษย์ และระบบนิเวศ ทั้งชีวิตบนบกและทางทะเล จึงถึงเวลาที่เราจะต้องช่วยกันลดการบริโภคสิ่งเหล่านี้ในแต่ละวันของเรา

นี่คือ วิธีหลีกเลี่ยงสารพิษจากไมโครพลาสติกในอาหารประจำวัน มีดังต่อไปนี้

1. เปลี่ยนมาใช้น้ำจากก๊อกแทนการซื้อน้ำขวดพลาสติก

การบริโภคน้ำดื่มบรรจุขวดแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง นี่คือ การบริโภคน้ำดื่มที่มีปริมาณไมโครพลาสติกปนเปื้อนเข้าสู่ร่างกายสูงที่สุด หากมีการนำกลับมาใช้ซ้ำ

การศึกษาล่าสุด ทำการวิเคราะห์ 259 ตัวอย่างน้ำจากแบรนด์ยอดนิยมของโลก พบไมโครพลาสติกในตัวอย่างสูงถึง 93%

การดื่มจากแหล่งน้ำในท้องถิ่น(น้ำประปา) เป็นวิธีที่ดีที่สุด เพื่อลดการบริโภคไมโครพลาสติกในแต่ละวัน การศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าการดื่มน้ำจากแหล่งน้ำในท้องถิ่น(น้ำประปา) ช่วยลดการบริโภคไมโครพลาสติกลง 50%
วิธีที่จะหลีกเลี่ยงการนำไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกายเรา จึงต้องลดการบริโภคไมโครพลาสติกที่มีโอกาสปลอมปนในบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ด้วยการนำภาชนะโลหะ (หรือแก้ว) ส่วนตัวมาใส่น้ำดื่ม แล้วจะลดปริมาณให้ร่างกายเราจะปลอดไมโครพลาสติก

ตัวอย่างน้ำดื่มบรรจุขวดจำนวน 259 ตัวอย่าง จากน้ำดื่มบรรจุขวด 11 อันดับแบรนด์ยอดนิยมของโลก 93% ของตัวอย่างมีไมโครพลาสติก
ได้แก่ Nestle, AQUAFINA, DASANI, minalba, evian, Bisleri, GEROLSTEINER, epura
เนสท์เล่, อควาฟิน่า, ดาซานี, มินัลบา, เอเวียง, บิสเลรี, เกอร์อลสไตเนอร์, ปูรา

2 หลีกเลี่ยงการอุ่นร้อนหรือเวฟอาหารในภาชนะพลาสติก

ความร้อนที่เข้าไปผ่านภาชนะพลาสติก สามารถชะล้างอนุภาคพลาสติกและสารเคมีให้ผ่านเข้าไปในอาหารของเรา และเข้าสู่ร่างกายของเราได้ด้วย เมื่อเรารับประทานอาหาร

ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงสารเคมีเหล่านี้ ให้ใช้ภาชนะแก้ว หรือกระทะ เพื่ออุ่นอาหาร จะปลอดภัยและห่างไกลการปนเปื้อนมากกว่า

3 ทานผักและผลไม้สดมากขึ้น

มีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย ข่าวร้ายก่อนละกัน

ไมโครพลาสติกนั้นแทรกซึมไปในทั่วทั้งระบบนิเวศ ห่วงโซ่อาหารของเราแล้ว ทั้งสัตว์ (เช่น อาหารทะเล) จนทำให้สัตว์เหล่านี้พลาดท่าบริโภคพลาสติกในบางครั้ง เมื่อมีพลาสติกอยู่ในแหล่งธรรมชาติ เมื่อสัตว์เหล่านี้บริโภค ก็เกิดการย่อยสารพิษเหล่านี้ สุดท้ายก็จะถูกถ่ายโอนมาอยู่บนจานอาหารของเรา และเราก็จะเป็นหนึ่งในห่วงโซ่ของผู้รับ เมื่อรับประทานอาหารก็มาพร้อมกันกับไมโครพลาสติก ผ่านบรรจุภัณฑ์

สำหรับข่าวดี เราสามารถลดการบริโภคไมโครพลาสติกได้ โดยการลดบริโภคอาหารจากบรรจุภัณฑ์ เนื้อสัตว์ และหันมาบริโภคผลไม้และผักสด เพราะสิ่งเหล่านี้ ไม่ต้องผ่านบรรจุภัณฑ์พลาสติก ปลอดจากการเคลือบฟิล์ม ขนส่งด้วยพลาสติก ถูกส่งตรงมาจากต้นทาง จากสวน สู่มือผู้บริโภค ที่สำคัญ..ยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย

4 แค่ 'บอกว่าไม่' รับพลาสติก

วิธีที่ดีที่สุด ที่ง่ายและได้ผลที่สุด คือ การไม่บริโภคพลาสติก หรือ การปฎิเสธไม่รับพลาสติกตั้งแต่ต้นทาง ชีวิตเราก็จะห่างไกลจากพลาสติก
ทุกครั้งที่เลือกซื้อสินค้า ควรเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แก้ว หรือภาชนะที่ไม่ใช่พลาสติก ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ และซื้อสินค้าจากร้านค้าปลอดแพ็คเกจ

เมื่อเป็นไปได้ให้ร่วมลงคะแนนเสียงสนับสนุนนโยบายที่จำกัดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว เพราะเมื่อเริ่มจากตัวเราขยายไปสู่กลุ่มผู้บริโภค จะเกิดแรงกดดันจากสาธารณะช่วยขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรมได้จริง

จากกรณีตัวอย่างใน เคนยา รวันดา และออสเตรเลีย สั่งห้ามใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว

ในช่วงปลายปี 2022 แคนาดาเริ่มต้นสั่งห้ามใช้ หรือ แบนพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว รวมถึงถุงช้อปปิ้ง และหลอดพลาสติก

ที่มา
https://www.instagram.com/uselessplastic/p/C6BpZ-TPxCo/?img_index=1