1.นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ ระบุจะจัดสรรงบประมาณที่ได้รับจัดสรรเพิ่มเติมจากงบกลางปีจำนวน 15,000 ล้านบาทไปสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากผ่านโครงการตลาด 4 ลักษณะคือตลาดชุมชน/ตลาดต้องชม/ตลาดเอกลักษณ์/ตลาดกลางสินค้าเกษตรชุมชน ควบคู่กับการเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่ร้านค้าชุมชน 2.นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ยืนยันตั๋วร่วม"แมงมุม" จะสามารถให้บริการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการใช้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะได้ ตั้งแต่เดือนมิ.ย.นี้เป็นต้นไป นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) รายงานสถานะการดำเนินการระบบตั๋วร่วม"แมงมุม" ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดตั้งบริษัทจัดการระบบตั๋วร่วม ที่กำหนดหลักการให้เอกชนคือ BEM/ BTS รวมทั้งเอกชนที่จะเข้ามาร่วมถือหุ้นเพิ่มเติม ถือหุ้นรวมกัน 60% และรัฐบาลโดยผ่าน รฟท./รฟม./ธนาคารกรุงไทย ถือหุ้นรวมกัน 40% และคาดการณ์ตั๋วร่วมงวดแรกจะจัดทำออกมาจำหน่ายจำนวน 7 ล้านใบ 3.รมว.กระทรวงคมนาคม รายงานแผนพัฒนาระบบโครงข่ายคมนาคมระหว่างปี 2560-2565 จะครอบคลุมทั้งโครงข่ายคมนาคมทางถนน/ทางราง/ทางอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบราง กำหนดเป้าหมายจำนวนผู้โดยสารใข้บริการเพิ่มขึ้น 60% เป็น 75 ล้านคน/ปี ขณะที่การคมนาคมทางอากาศ กำหนดเพิ่มขึดความสามารถรองรับผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ เพิ่มจาก 45 ล้านคน/ปี เป็น 65 ล้านคน/ปี สนามบินดอนเมือง เพิ่มจาก 18 ล้านคน/ปี เป็น 30 ล้านคน/ปี สนามบินภูเก็ต เพิ่มจาก 7.5 ล้านคน/ปี เป็น 12.5 ล้านคน/ปี สำหรับสนามบินอู่ตะเภา กำหนดขีดความสามารถให้รองรับผู้โดยสารได้ 3 ล้านคน/ปี สนามบินแม่สอด รองรับผู้โดยสารได้ 3.6 แสนคน/ปี น่าสังเกตว่าแผนพัฒนาโครงข่ายคมนาคม ให้ความสนใจกับการพัฒนาโครงข่ายการคมนาคมทางน้ำ ทั้งที่เป็นเคลื่อนย้ายที่มีต้นทุนต่ำที่สุด 4.กองงานโฆษกรัฐบาล ตอบสนองนโยบายนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการชี้แจงทำความเข้าใจประเด็นสาธารณะ ด้วยการเปิดห้องสนทนาบนแอพพลิเคชั่นไลน์ สำหรับเป็นช่องทางสื่อสารภายในระหว่างหน่วยราชการรวม 3 ห้องได้แก่ ID Chat( Issue Discussion) / IA Chat ( Issue Assignment)/ IR Chat (Issue Report) ทั้งนี้เพื่อให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบชี้แจงทำความเข้าใจทุกข้อสงสัยของสาธารณะโดยทันทีภายในไม่เกิน 24 ชั่วโมง/-