จับเข่าคุยภารกิจขับเคลื่อนประเทศ

by ThaiQuote, 21 ธันวาคม 2558

ผมเป็นประธานกรรมาธิการบริหารราชการแผ่นดินของสภาขับเคลื่อนการปฎิรูปประเทศ ในเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินต้องเรียนว่ามีความสำคัญต่อการที่จะพัฒนาประเทศหรือจะรักษาเอกราชหรืออธิปไตยของประเทศไว้ ที่ผ่านมาหน่วยงานของรัฐต้องถือว่าเป็นหน่วยงานที่สำคัญในการที่จะพัฒนาประเทศแต่ว่าก็มีบางหน่วยงาน ต้องเรียกว่าบางคนดีกว่าในหน่วยงานยังจะต้องมีการพัฒนานะครับ หรือแม้แต่องค์กรเองก็ยังต้องมีการพัฒนา

ฉะนั้นในกรรมาธิการบริหารราชการแผ่นดินของสปท.เราก็แบ่งอนุกรรมาธิการออกมาเป็น 3 คณะด้วยกัน คณะที่ 1 คือโครงสร้างขององค์กรภาครัฐ เราก็พิจารณาดูว่าองค์กรภาครัฐนี่ก็จะแบ่งย่อยออกไปอีกนะคือ 1.กระทรวงทบวงกรม 2.รัฐวิสาหกิจเฉพาะรัฐวิสาหกิจก็มีทั้งหมด 70 กว่าแห่งบางแห่งก็ทำได้ดีมีกำไร บางแห่งก็ขาดทุนอยู่ ตรงนี้เราก็ต้องดูว่าทำยังไงเราจะเข้าไปช่วยดูแล 3.องค์การมหาชน ถ้าจำตัวเลขไม่ผิดขณะนี้มีอยู่ 39 แห่งบางแห่งก็ทำได้ดีพอสมควร แต่บางแห่งก็ยังไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะเคยมีการส่งเรื่องมาให้ทางสปช.พิจารณาดูเรื่องค่าตอบแทนของผู้อำนวยการองค์การมหาชนบางแห่งสูงเกินเหตุ ซึ่งสูงไม่ว่าแต่สูงไม่คุ้มกับสิ่งที่ทำออกมา ตรงนี้นี่เป็นประเด็นซึ่งตรงนี้ก็คงจะต้องมีการพิจารณานะครับ

ในคณะอนุกรรมาธิการชุดที่ 2 ก็คือเรื่องของธรรมาภิบาล ประสิทธิภาพแล้วก็พัฒนาบุคลากร ในเรื่องของธรรมาภิบาลนี่เราก็มองกันถึงว่าทำอย่างไรหน่วยงานของรัฐเอง เจ้าหน้าที่ของรัฐจะมีความโปร่งใส ทำงานโดยที่ถูกต้องไม่มีนอกมีในหรือว่าไม่ดึงเรื่องเพื่อที่จะคิดหาประโยชน์ ผมพูดตรงนี้สำหรับข้าราชการที่ไม่ดีนะครับข้าราชการดี ๆ ยังมีอีกมากแต่ว่าบางครั้งข้าราชการดี ๆมาเจอข้าราชการไม่ดีเข้าไปเยอะ บางทีก็ตามเข้าไปซึ่งตรงนี้น่าเป็นห่วงมาก ทำอย่างไรเราจะต้องรักษาข้าราชการดี ๆไว้ แล้วเปลี่ยนข้าราชการที่ไม่ค่อยดีให้กลับมาเป็นข้าราชการที่ดี กลุ่มนี้นอกจากจะธรรมาภิบาลแล้วต้องพิจารณาถึงเรื่องประสิทธิภาพของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่จำเป็นต้องเป็นข้าราชการนะ รัฐวิสาหกิจก็ถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐทำยังไงให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น บางหน่วยงานก็ทำงานได้ดี บางหน่วยงานทำงานไม่ค่อยได้นึกถึงแนวคิดที่จะให้บริการประชาชน เราจะเห็นการบ่นอยู่เสมอว่าความล่าช้า ทำงานเช้าชามเย็นชาม

ตัวผมเองนี่หลังจากเกษียณมา 12 ปีตำแหน่งปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีก็มาทำธุรกิจของครอบครัวก็เจอปัญหาเหล่านี้เหมือนกันคือเขาไม่รู้ว่าเราเป็นใคร เขาก็ว่าของเขาไป พอมารู้ว่าเราเป็นใครก็กระตือรือล้นขึ้นมาหน่อย ผมไม่ต้องการให้เขามามองดูว่าผมเป็นใครเขาถึงทำ เขาควรจะทำให้มันเหมือนกันหมด บางเรื่องแทนที่จะแล้วเสร็จ 3 วัน 5 วันบางทีเป็นเดือน ๆ ผมว่าอันนี้ไม่ถูกต้อง ผมอยากจะขอร้องขอความเมตตาจากผู้นำหน่วยทั้งหลาย ไม่ว่าอธิบดี ไม่ว่าปลัดกระทรวง ไม่ว่าเลขาธิการอะไรทั้งหลาย ท่านต้องกรุณาดูด้วยนะครับว่าผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านทำงานมีประสิทธิภาพหรือไม่ ท่านผู้นำหน่วยทั้งหลายผมเชื่อว่าทำงานมีประสิทธิภาพอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นท่านคงไม่มาเจริญก้าวหน้าในระบบราชการขึ้นมาจนถึงเป็นผู้นำหน่วย เป็นอธิบดี เป็นเลขาธิการ แต่ว่าบางทีงานท่านเยอะมากซะจนไม่ได้ดูลูกน้องของท่าน

ผมเองประสบปัญหาเรื่องนี้มาพอสมควรผมก็ไม่อยากเอ่ยชื่อหน่วยงานนะครับ แต่ว่าผมจะเน้นไปที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ กรมหรือสำนักงานทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับการกระตุ้นเศราฐกิจของประเทศ เกี่ยวกับการอยู่ดีกินดีไม่ใช่ของประชาชนเท่านั้น ของภาคเอกชนด้วย สมัยที่ทำยุทธศาสตร์ชาติคือผมเป็นประธานอนุกรรมาธิการจัดทำร่างกฏหมายยุทธศาสตร์ชาติ ผมทำกฏหมายฉบับนี้ผ่านสนช.วันที่ 23 มิ.ย.58 หลังจากนั้น 3 วันคือวันที่ 28 มิ.ย.ท่านนายกรัฐมนตรีก็กรุณาพูดเรื่องยุทธศาสตร์ชาติในรายการคือความสุขให้กับประชาชนว่าเป็นนโยบายของคสช. เป็นนโยบายของรัฐบาลที่จะให้มียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีแล้วท่านก็ให้ความสนใจท่านย้ำเรื่องนี้อยู่บ่อยครั้งมาก

ฉะนั้นในเรื่องของยุทธศาสตร์ชาตินี่ส่วนหนึ่งที่จะต้องดุก็คือในเรื่องเอาการบริหารราชการแผ่นดินมาช่วยกันกระตุ้ให้ไปสู่เป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ ที่ท่านนายกฯพูดถึงอยู่เสมอคือมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนรวมทั้งมีอธิปไตยและเกียรติศักดิ์ในประชาคมโลกด้วย เพราะว่าตอนนี้เกียรติศักดิ์ของประเทศไทยในประชาคมโลกนี่ไม่ดีเท่าที่ควรซึ่งควรจะดีกว่านี้ อยากจะให้ดีเท่าที่เป็นมาในอดีต สมัยเมื่อผมเป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเมื่อปี 2532 ตอนนั้นเราพูดกันว่าประเทศไทยจะเป็นเสือตัวที่ 4 ของเอเซียแต่ตอนนี้ผมไม่กล้าพูด แล้วผมว่าเราคงจะเข้าใจสภาพของเรา คนอื่นมองดูประเทศเราเป็นอย่างไรฉะนั้นตรงนี้ผมว่าทุกคนต้องช่วยกันนะครับ การที่ปล่อยให้เจ้าหน้าที่บางคนเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ว่าใครนะครับทำงานโดยคำนึงว่าต้องให้เอกชนมาหา มาขอความช่วยเหลือ ผมว่าต้องเปลี่ยนแนวคิดครับไม่ใช่เลยเด็ดขาด เราเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐเรามีหน้าที่ที่จะอำนวยความสะดวก มีหน้าที่ให้ความช่วยเหลือกับประชาชน ให้ประชาชนเขาอยู่ดีมีสุขเขาสามารถประกอบธุรกิจได้ดี

ตอนหน้าคงต้องมาตามกันต่อกับกรอบภารกิจในการทำงานของสปท.ด้านบริหารราชการแผ่นดินกับแนวทางที่จะเกิดในอนาคตอันใกล้ ส่วนรายละเอียดจะเป็นเช่นไรคงต้องติดตามกันนะครับ

ที่มา : Thaiquote