ล่าสุด นายฮุน  มานี  สมาชิกรัฐสภากัมพูชาและประธานสมาพันธ์  บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของ สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา ได้เดินทางเยือนประเทศไทยร่วมกับคณะนักธุรกิจจากประเทศกัมพูชา ในโครงการสร้างเครือข่ายระดับผู้นำภาครัฐและเอกชนไทย – กัมพูชา (Thai-Cambodia Business Networking)  ซึ่งจัดขึ้น ณ โรงแรมดุสิตธานี กทม. พร้อมเปิดโอกาสให้สำนักข่าว Thai Quote  ได้สัมภาษณ์ในหลายประเด็นที่น่าสนใจด้วยกัน

 มองความร่วมมือในการลงทุนของประเทศไทยกับกัมพูชาเป็นอย่างไรบ้าง?

            ประเทศกัมพูชาและคนไทยมีวัฒนธรรมและประเพณีที่คล้ายกันมาก จริง ๆแล้วเรามีความสัมพันธ์ที่ดีมายาวนานเพราะเราเป็นเพื่อนบ้านที่ดีมาก ดังนั้นการพบปะของนักธุรกิจกัมพูชาและไทยถือเป็นเรื่องที่ดี  เนื่องจากกัมพูชาเรากำลังมีการพัฒนาประเทศใหม่  ขณะที่ประเทศไทยนั้นมีการพัฒนาเติบโตไปอีกขั้นจึงมีหลายพื้นที่ลงทุนที่มีการเติบโต ดังนั้นการลงทุนบางภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทยแน่นอนว่าสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ในแง่ของการลงทุนจากภาคธุรกิจเดียวกัน ในขณะที่ประเทศกัมพูชายังคงมีโอกาสเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง นั่นเป็นเหตุผลที่ดีและสมดุล

                    สำหรับการพบปะของนักธุรกิจรวมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของประเทศไทย และกัมพูชาของทั้งสองฝ่าย มันไม่ใช่แค่เรื่องของธุรกิจกับธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องความร่วมมือระหว่างรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศในการอำนวยความสะดวก และสร้างโอกาสสำหรับการลงทุนของภาคธุรกิจร่วมกัน

ธุรกิจประเภทไหนที่กัมพูชาและไทยสามารถร่วมกันประสบความสำเร็จ?

ผมไม่ได้เป็นนักธุรกิจ ดังนั้นผมอาจไม่ใช่คนที่ตอบคำถามที่ดีที่สุด แต่ถ้าในเรื่องของการศึกษา พื้นที่การลงทุนแน่นอนจะต้องมีการพิจารณาถึงโอกาสในการลงทุน  หากพิจารณาในเรื่องของโอกาสคาดว่าภาคไอทีและภาคบริการจะมีโอกาสมาก และยังถือเป็นกุญแจสำคัญมากด้วย  

นโยบายส่งเสริมดิจิทัลของไทยที่รองนายกฯสมคิดได้กล่าวถึงในกัมพูชาเป็นอย่างไร ?

         ถ้าผมจำไม่ผิด ดร.สมคิดได้กล่าวว่าเรื่องดิจิตอลยังใหม่สำหรับธุรกิจไทย เพื่อให้มีการเติบโตที่เร็วที่สุด และเพื่อมองไปข้างหน้าอันใกล้ หรือแม้กระทั่งตอนนี้ก็ยังสามารถมองไปถึงโอกาสในการลงทุนในประเทศกัมพูชา ดังนั้นในเรื่องไอทีและดิจิตอลจำเป็นต้องมีการศึกษาร่วมรวมถึงยกระดับความร่วมมือร่วมกัน

 การเจริญเติบโตของ ธุรกิจไอทีในประเทศกัมพูชา ?

            ธุรกิจไอทีในประเทศกัมพูชามีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ผมไม่สามารถบอกว่าได้เติบโตกี่เปอร์เซ็นต์ แต่ผมสามารถบอกคุณได้ว่าเรามีประชากรจำนวนมาก  แต่เรามีประชากรหนุ่มสาวกว่า 35 เปอร์เซ็นต์ใน 70 เปอร์เซ็นต์ของเรามีความต้องการอินเตอร์เน็ตและไอที ซึ่งมันเป็นโอกาสที่สำคัญมาก เราค่อนข้างมีเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูล และนั่นคือเหตุผลที่ประเทศกัมพูชายังมีความน่าสนใจสำหรับการลงทุนในภาคไอทีมาก

มีแผนที่จะช่วยให้กัมพูชาและคนไทยร่วมกันหรือไม่อย่างไร ?

ผมได้กล่าวก่อนหน้านี้แล้วว่าตลาดกัมพูชายังมีโอกาสในการเติบโตอย่างมาก มีหลายสาขาและภาคธุรกิจในประเทศไทยที่มีความพร้อมอยู่แล้ว เช่นการก่อสร้าง และดิจิทัล เป็นต้น  ซึ่งประเทศกัมพูชายังไม่เติบโตพอ   นั่นเป็นเหตุผลที่ผมเชื่อว่าภาคธุรกิจไทยจะมีโอกาสมากในการเข้าไปสำรวจการลงทุนในประเทศกัมพูชาซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก แน่นอนว่าผมจะแนะนำนักธุรกิจไทยควรเข้าไปเยี่ยมและสำรวจโอกาสการลงทุนในประเทศกัมพูชา  ซึ่งประเทศไทยเข้าไปลงทุนในประเทศกัมพูชาช้ากว่าประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ จีน และเกาหลี ดังนั้นถ้าคุณต้องการสนับสนุนให้ธุรกิจไทยลงทุนในกัมพูชาควรจะมองหาโอกาสสิ่งที่ผมกล่าวถึงเราเป็นหนึ่งเดียวกัน เป็นเพื่อนบ้านและที่สำคัญเรายังมีวัฒนธรรมและประเพณีที่คล้ายกัน สิ่งเหล่านี้เป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญมากจริง ๆ เพราะเรามีความคล้ายกัน และไม่เพียงเท่านี้ในการศึกษาโอกาสการลงทุนจะรู้สึกสะดวกสบาย และกัมพูชายังมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศที่ดีมากและอุปสรรคการลงทุนที่ต่ำ ดังนั้นประเทศกัมพูชาจึงยังมีโอกาสมากสำหรับการลงทุน