นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ.ได้รับมอบหมายจาก ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ประธานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ให้ดำเนินการจัดตั้ง ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จครบวงจร (Total Solution Center : TSC) เพื่อให้บริการด้านการอนุมัติ อนุญาตแบบครบวงจร (One Stop Service) แก่นักลงทุนภายใต้โครงการการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ใน 3 จังหวัดเป้าหมาย ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี และ จังหวัดระยอง ทั้งนี้ ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จครบวงจรของ EEC ดังกล่าว จะเปิดให้บริการที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรีเป็นพื้นที่นำร่อง เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะรองรับการลงทุนในพื้นที่ภาคตะวันออก เนื่องจากขณะนี้มีนักลงทุนเริ่มทยอยเข้าสอบถาม และให้ความสนใจที่จะขยายการลงมายังพื้นที่ดังกล่าวจำนวนมาก โดยคาดว่าศูนย์ TSC จะเป็นประโยชน์ในการส่งเสริมการลงทุน ตอบสนองต่อความต้องการของนักลงทุนในพื้นที่ EEC โดยศูนย์บริการดังกล่าวจะให้บริการที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถผู้ประกอบการได้อย่างแท้จริง ด้านทิศทางการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมในปี 2560 นั้น จากกระแสการลงทุนมีแนวโน้มของอัตราการเติบโตที่ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา  โดยมีปัจจัยบวกจากนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมด้วยการปรับปรุงกฎระเบียบให้เอื้อต่อการลงทุนมากยิ่งขึ้น อาทิ การแก้ไขพระราชบัญญัติ ส่งเสริมการลงทุน ฉบับใหม่ พระราชบัญญัติการเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันของประเทศ รวมทั้งการร่างพระราชบัญญัติเขตเศรษฐกิจพิเศษและระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งจะเป็นแนวทางที่รัฐบาลต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง ภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ขณะเดียวกันแม้ทิศทางการลงทุนในประเทศเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัว แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงคือ นักลงทุนต่างชาติ ยังมีความกังวลในเรื่องของตลาดโลกและเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ซึ่งการรวมกลุ่มการค้าในเขตพื้นที่ต่างๆ จะช่วยให้มีความสามารถไปแข่งขันเพิ่มขึ้น เพราะถือว่าจะเป็นตลาดที่ใหญ่ขึ้น สำหรับนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนทั้งในไทยและอาเซียน เพื่อขยายฐานการผลิตไปยังตลาดโลกได้อีกทางหนึ่ง   อย่างไรก็ตาม กนอ. มั่นใจว่าในปี 2560 นี้จะทำให้ยอดขายและเช่าที่ดินของนิคมฯมีการขยายตัวที่ดีขึ้น                      อยู่ที่ 3,000 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วอยู่ที่ประมาณ 2,500 ไร่ ด้วยปัจจัยในช่วงไตรมาสที่1และ2ของปีนี้รวมทั้งกระแสการตอบรับการเข้ามาของนักลงทุนทั้งในและต่างชาติเตรียมขยายการลงทุนเข้ามาในพื้นที่ EEC