พณ.ดันสินค้าจีไอครบทุกจังหวัดภายในปี 60

by ThaiQuote, 24 มีนาคม 2560

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมทรัพย์สินทางปัญญาประสานงานจังหวัดต่างๆ เพื่อให้ทั้ง 77 จังหวัด มีสินค้าขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) ครบทุกจังหวัด ซึ่งจะมีส่วนทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งขณะนี้กรมฯกำลังพิจารณาคำขอขึ้นทะเบียนจีไอจาก 15 จังหวัด ยังเหลืออีก 9 จังหวัดที่ยังไม่ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนจีไอ จากก่อนหน้านี้ได้อนุมัติไปแล้ว 4 รายการคือ ลองกองตันหยงมัส จ.นราธิวาส ทุเรียนปราจีน จ.ปราจีนบุรี สับปะรด บ้านคา จ.ราชบุรี และลำไยอบแห้งเนื้อสีทองลำพูน จ.ลำพูน ส่งผลทำให้ปัจจุบันมีสินค้าจีไอแล้ว 75 สินค้า จาก 53 จังหวัด พร้อมตั้งเป้าหมายจะมีสินค้าจีไอ 77 สินค้า ครบ 77 จังหวัดภายในปีนี้

          ทั้งนี้ในปีงบประมาณ 2560 นี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญาจะลงพื้นที่จังหวัดที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนจีไอ ได้แก่ กระบี่ กาญจนบุรี ระนอง สตูล สมุทรสาคร สิงห์บุรี กำแพงเพชร โดยกรุงเทพฯและสระแก้วได้ลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับจังหวัดและผู้ผลิตแล้ว รอเพียงยื่นคำขอ ส่วนจังหวัดอื่นๆ ได้เริ่มหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดและเกษตรกร ผู้ผลิต ผู้เกี่ยวข้องบ้างแล้ว เช่น สมุทรสาคร สิงห์บุรี กาญจนบุรี และกระบี่ เพื่อจะดึงสินค้าที่ขึ้นทะเบียนจีไอไว้แล้ว และมีแผนที่จะส่งเสริมให้พัฒนาคุณภาพสินค้าที่ผลิตในท้องถิ่นให้ดีขึ้น ส่งเสริมการตลาด สร้างการรับรู้คุณภาพ ชื่อเสียงของสินค้าจีไอไทยทั้งใน และต่างประเทศ เพื่อให้สินค้าจำหน่ายได้ราคาสูงขึ้น ถือเป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชนและท้องถิ่นด้วย

          นอกจากนั้นกรมทรัพย์สินทางปัญญากำลังเร่งปรับปรุงขั้นตอนการให้บริการด้านต่าง ๆ ให้สะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะขั้นตอนการยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า เนื่องจากปัจจุบันการยื่นขอจดเครื่องหมายการค้า ซึ่งต้องตรวจสอบว่าซ้ำซ้อนกันหรือไม่ จึงทำให้ใช้เวลานาน 9-16 เดือน แต่ขณะนี้กำลังเร่งปรับปรุงเพื่อลดขั้นตอนลงให้เหลือเพียง 9 เดือนเท่านั้น เพื่อให้ได้มาตรฐานการยื่นจดเครื่องหมายการค้า โดยเฉพาะในกลุ่มอาเซียนที่ใช้มาตรฐานเดียวกัน

          “จะผลักดันให้ภายในวันที่ 1 ก.ย. 2561 เป็นต้นไป การยื่นจดและตรวจสอบเครื่องหมายการค้าของไทยจะใช้เวลาไม่เกิน 9 เดือน รองจากสหรัฐอเมริกาและสิงคโปร์ในการให้บริการรับจดเครื่องหมายการค้า ที่ใช้เวลาเพียง 9 เดือนเท่านั้นตามแนวนโยบายการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ไทยแลนด์ 4.0 เน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม และทรัพย์สินทางปัญญา ด้วยการมุ่งเน้นการใช้ประโยชน์ ในเชิงพาณิชย์ ที่เกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาของชุมชน และประเทศ” นายสนธิรัตน์ กล่าว

Tag :