พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงการติดตามจับกุมตัวอดีตพระพรหมเมธี อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร ที่ประเทศเยอรมนี ว่า ขณะนี้ตำรวจกำลังดำเนินการอยู่ ขอให้ตำรวจทำงานร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศไปก่อน เราต้องรออีกสักระยะหนึ่งจะมีความชัดเจนเร็วๆ นี้ เพราะ พล.ต.อ.ฉัตรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) อยู่ตรงนั้นแล้ว ส่วนที่ทางอดีตพระพรหมเมธีไม่ยอมพบกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยที่เดินทางไปนั้น ไม่เป็นไร ว่ากันไปตามกฎหมาย ส่วนเรื่องความคืบหน้าคดีเงินทอนวัดนั้น ตอนนี้ พศ.ยังไม่มีการรายงานเข้ามาเพิ่มเติม แต่ถ้าพบว่ามีใครเกี่ยวข้องให้เดินหน้าต่อไป อย่างไรก็ตาม ความจริงเรื่องที่เกิดขึ้นอยากให้เรามองพระสงฆ์ที่น่าเคารพนับถือ ซึ่งยังมีอีกจำนวนมาก ที่ผ่านมาเราเห็นเพียงไม่กี่คนที่ทำให้เกิดความเสียหาย ศาสนาเสื่อมเสีย อยากเห็นภาพประชาชนเคารพพระสงฆ์ที่สร้างคุณประโยชน์ให้กับบ้าน ชุมชน หรือพระสงฆ์ที่ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติธรรม ยังมีอีกเยอะมาก อยากให้คิดว่าประเทศเราคนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ และยังเชื่อมั่นในศาสนาอยู่ จึงอยากให้ทุกคนใช้วิจารณญาณ อย่าเอาคนไม่กี่คนที่ทำให้เสื่อมเสียมาเป็นปัญหา ต่อข้อถามว่า พระสงฆ์ที่ทำให้เสื่อมเสียเป็นถึงพระผู้ใหญ่นั้น พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า พระสงฆ์ระดับราชาคณะมีเป็นร้อยรูป แต่ที่เราเห็นอยู่ 5 - 10 คน ที่ทำให้เป็นปัญหา ส่วนที่ดีมีอยู่อีกมาก โดยเฉพาะสมเด็จพระสังฆราช พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีมาก อยากให้ประชาชนได้ดูพระจริยวัตรที่งดงามของพระองค์ แต่เราไปสนใจแต่เรื่องที่ทำให้เกิดความสะใจ เมื่อถามว่าถึงเวลาที่เราจะต้องสังคายนาพระพุทธศาสนาแล้วหรือยัง พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า วันนี้ พศ.ได้รับนโยบายแล้วให้เดินหน้าในเรื่องนี้ต่อไป สิ่งใดที่ไม่ถูกต้องก็ทำให้ถูกต้อง ถือเป็นเรื่องหนึ่งในการปฏิรูป ต้องทำให้ดีขึ้น อย่างน้อยเมื่อทำสิ่งที่ไม่ดีให้ดีขึ้นจะทำให้เราได้รู้ข้อเท็จจริงว่าอะไรเป็นอะไร เมื่อถามถึงการติดตามตัวพระสงฆ์ที่หลบคดีไปต่างประเทศรูปอื่นๆ ที่ผ่านมา จะดำเนินการอย่างไร พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า เหมือนกับการติดตามตัวพวกที่ผิดกฎหมาย ต้องถามว่าพระที่หลบหนีไปผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าผิดจะต้องดำเนินการติดตามตัวกลับมา ทุกอย่างทำเหมือนกับบุคคลทั่วไป ส่วนทางด้านการติดตามตัว พระพรหมเมธี จากประเทศเยอรมัน กลับมาดำเนินคดี โดยล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG923 จากนครแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ได้เดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งได้รับการยืนยันว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รองผู้บังคับการปราบปราม และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาด้วยเที่ยวบินนี้ โดยไม่มีการนำตัวพระจำนงค์ เอี่ยมอินทรา หรือ อดีตพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม ผู้ต้องหาคดีทุจริตเงินทอนวัด กลับมาด้วย เนื่องจากอดีตพระพรหมเมธี ได้ยื่นเรื่องขอลี้ภัยกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเยอรมนี ทันทีที่เดินทางไปถึงเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน และตามกระบวนการ อดีตพระพรหมเมธี จะได้รับการคุ้มครองชั่วคราวระหว่างพิจารณาคำร้องขอลี้ภัย ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน แต่ทางการไทยได้ประสานขอความร่วมมือให้เยอรมนีพิจารณาคำร้องขอลี้ภัยของอดีตพระพรหมเมธี ภายใน 3 วัน โดยคาดว่ายังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา