นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่าได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)เร่งศึกษาวิเคราะห์วางแผน โครงข่ายจราจรให้เชื่อมโยงกันทุกระบบ รวมทั้งเร่งแก้ปัญหารถติดในกรุงเทพฯและปริมณฑลตามนโยบายของรัฐบาล โดยให้พิจารณาทำถนนทางลอดใต้ดิน หรือถนนอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อใช้เป็นเส้นทางบรรเทาการจราจรบนพื้นราบ เพราะปัจจุบันพื้นผิวจราจรมีอย่างจำกัด รวมทั้ง ได้สร้างถนนลอยฟ้าไปมากแล้วซึ่งอาจจะขยายต่อไปอีกไม่ได้ นายชยธรรม์ พรหมศร รองผู้อำนวยการ สนข. เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หามาตรการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลแบบเร่งด่วน แนวทางหนึ่ง คือ ให้ไปพิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดสร้างถนนใต้ดินในลักษณะของอุโมงค์ เนื่องจากปัจจุบันถนนบนพื้นราบและถนนยกระดับใน กทม.ได้สร้างขยายเกือบเต็มพื้นที่แล้ว ล่าสุดกระทรวงคมนาคมได้มอบให้ สนข.ดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา คาดว่าภายใน 2-3 เดือนจะเสนอผลการศึกษาไปให้คมนาคมพิจารณาได้ จากการศึกษาเบื้องต้นพบว่ามีความเป็นไปได้ที่จะจัดสร้างทางด่วนใต้ดินเส้นทางแรกในประเทศไทย เส้นทางจะเริ่มจากบริเวณถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ไปจนถึง อ.สำโรง จ.สมุทรปราการ ระยะทาง 9 กม. เพราะเป็นเส้นทางที่มีลักษณะตัดตรงในระยะยาว สามารถช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรหนาแน่น บริเวณสาธร สีลม และบริเวณใกล้เคียงได้มาก เบื้องต้นอาจจะสร้างเป็นทางด่วนใต้ดิน มีการเก็บเงินค่าผ่านทางสำหรับคนที่เข้ามาใช้ เพราะถือเป็นถนนทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ต้องการไปเสียเวลากับรถติด สำหรับทางด่วนใต้ดิน นราธิวาสฯ-สำโรง เบื้องต้น จะสร้างเป็นทาง 2 ชั้น โดยชั้นบนจะทำเป็นถนนให้รถโดยสารสาธารณะวิ่ง ส่วนชั้นล่างให้รถยนต์ส่วนบุคคลวิ่ง โดยจะมีการจัดเก็บค่าบริการเหมือน ทางด่วนทั่วไป เพราะต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก ซึ่งงบประมาณในการก่อสร้างอยู่ระหว่างการประเมิน แต่จากการสำรวจงานก่อสร้างถนนใต้ดินพบว่า มีต้นทุนก่อสร้างสูง เฉลี่ย กม.ละ 2,000-10,000 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับราคาที่ดินแต่ละพื้นที่ ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2-3 ปี โดย สนข.ได้ทำการศึกษาถนนใต้ดินต้นแบบจากประเทศที่ประสบความสำเร็จ เช่น ถนนใต้ดินย่านชินจูกุ ของประเทศญี่ปุ่น, เมืองบอสตัน สหรัฐอเมริกา, มาเลเซีย และออสเตรเลีย เป็นต้น