เจาะลึก 4 มาตรการ "รัฐ จัดให้” กระหน่ำโบนัสคนจนส่งท้ายปี

by ThaiQuote, 16 ธันวาคม 2561

เม็ดเงินก้อนโตถึง 3.8 หมื่นล้านบาท ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ประเคนให้กับผู้ที่มีรายได้น้อย เพื่อเติมเต็มภายในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หมายมั่นว่านี่จะเป็น “โบนัส” ก้อนใหญ่ของผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศ และเงินจำนวนนี้ ถูกแปรออกมาเป็น 4 มาตรการจากรัฐบาลคสช. เพื่อเตรียมส่งต่อในการยกระดับคุณภาพชีวิตของ “รากหญ้า” ให้ได้ลืมตาอ้าปาก แม้มันจะเป็นความสุขเพียงแค่ “ช่วงสั้นๆ” ก็ยังดี 4 มาตรการที่ว่า มีรูปแบบใดบ้าง และใครที่จะได้ประโยชน์ ThaiQuote ขอชำแหละและส่งต่อรายละเอียด 1. ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายช่วงสิ้นปี คนละ 500 บาท ผู้มีสิทธิได้รับ : ผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกคนทั่วประเทศ จำนวน 14.5 ล้านคน ทั้งที่ได้ลงทะเบียนไปแล้ว 11.4 ล้านคน และผู้ที่ลงทะเบียนเพิ่มเติมอีก 3.1 ล้านคน ถือว่าเป็นเหมือนโบนัสให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อยได้มีโอกาสใช้จ่ายกันในช่วงปลายปีเลยก็ว่าได้นะครับ ด้วยการเติมเงินเข้าไปในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 500 บาท/คน โดยจะได้รับครั้งเดียวในช่วงเดือนธันวาคม 2561 นี้ เริ่มจ่ายเงินเข้าบัตร (e-Money) : - ผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอยู่แล้ว เริ่มจ่ายเงินให้วันที่ 8-10 ธันวาคม 2561 - ผู้ที่ยังไม่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (สำหรับคนที่ลงทะเบียนรอบ 2) เริ่มจ่ายเงินให้วันที่ 5 มกราคม 2562 และ 1 กุมภาพันธ์ 2562 กดเงิน 500 นี้ ได้ถึงเมื่อไร : เงินจำนวนนี้ไม่มีกำหนดระยะเวลา ดังนั้นจะกดเงินออกมาเมื่อไรก็ได้ ไม่ได้กำหนดว่าต้องใช้ภายในเดือนนั้นเหมือนกับวงเงินสวัสดิการซื้อสินค้าธงฟ้า 200-300 บาท ดังนั้นหากไม่ได้กดเงินออกมา เงินของขวัญ 500 บาท ก็จะคงอยู่ในบัตรตลอดไป 2. ช่วยเหลือค่าน้ำ-ค่าไฟ นาน 10 เดือน ผู้มีสิทธิได้รับ : ผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทั่วประเทศ จำนวน 14.5 ล้านคน แต่จะให้ครัวเรือนละ 1 สิทธิ ซึ่งปัจจุบันมีครัวเรือนที่มีสิทธิประมาณ 8.2 ล้านครัวเรือน โดยจะช่วยเหลือค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา สำหรับผู้ที่ใช้ไฟฟ้า ไม่เกิน 230 บาท/เดือน ใช้น้ำประปา ไม่เกิน 100 บาท/เดือน ไม่ต้องจ่ายค่าน้ำ-ค่าไฟในเดือนนั้น ๆ เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 - กันยายน 2562 รวม 10 เดือน แต่หากมีการใช้เกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีรายได้น้อยจะไม่ได้รับสิทธิในมาตรการนี้ ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด ส่วนวิธีรับเงินช่วยเหลือ หากผู้มีรายได้น้อยใช้น้ำและไฟฟ้าอยู่ในกรอบวงเงินที่กำหนด เมื่อตอนที่นำบิลไปชำระที่การประปาและการไฟฟ้า ให้แสดงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐด้วย หลังจากนั้นกรมบัญชีกลางจึงจะโอนเงินตามที่ชำระ คืนกลับเข้าไปในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในช่วงกลางเดือนของเดือนถัดไป เริ่มจ่ายเงินเข้าบัตร (e-Money) : ทุกวันที่ 18 ของเดือน โดยเริ่มคืนเงินครั้งแรกวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 ค่าไฟฟ้าฟรี 230 บาท/เดือน ลงทะเบียนรับสิทธิ์ใช้ไฟฟรีได้อย่างไร ? สำหรับผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 230 บาท/เดือน ที่ต้องการรับสิทธิ์ใช้ไฟฟ้าฟรี จะต้องลงทะเบียนกับหน่วยงานก่อน โดย * ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ, สมุทรปราการ, นนทบุรี สามารถเลือกลงทะเบียนได้ตามช่องทางต่าง ๆ คือ - การไฟฟ้านครหลวงเขตต่าง ๆ - เว็บไซต์การไฟฟ้านครหลวง - แอปพลิเคชั่น MEA Smart Life * ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ต่างจังหวัด สามารถลงทะเบียนได้ที่ - เว็บไซต์การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค - สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในพื้นที่ทุกแห่ง - PEA Shop และ PEA Mobile Shop ในพื้นที่ทุกแห่ง - แอปพลิเคชั่น PEA Smart plus - ตัวแทนเก็บเงินค่าไฟฟ้า - PEA Call Center โทร. 1129 เช่าบ้านอยู่ใช้สิทธิ์ไฟฟ้าฟรีได้ไหม ? กรณีเช่าบ้านอยู่ ไม่ได้เป็นเจ้าของมิเตอร์ก็สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ใช้ไฟฟ้าฟรีได้ หากปกติจ่ายค่าไฟไม่เกินเดือนละ 230 บาท หากใช้สิทธิ์ไฟฟ้าฟรีไม่เกิน 50 หน่วย/เดือน อยู่แล้ว จะได้รับสิทธิ์ค่าไฟฟ้า 230 บาท/เดือนหรือไม่ ? สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ใช้สิทธิ์มาตรการค่าไฟฟ้าฟรี จากการใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือน ให้ใช้สิทธิ์ฟรีตามมาตรการเดิม แต่หากเดือนใดมีการใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วย/เดือน แต่ใช้ไม่เกิน 230 บาท/ครัวเรือน/เดือน จะต้องใช้ตามมาตรการใหม่ รับสิทธิ์ตามบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระหว่างเดือนธันวาคม 2561-กันยายน 2562 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ การไฟฟ้านครหลวง โทร. 1130 หรือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โทร. 1129 ค่าประปาฟรี 100 บาท/เดือน ลงทะเบียนรับสิทธิ์ใช้น้ำฟรีได้อย่างไร ? สำหรับผู้ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 100 บาท/เดือน ที่ต้องการรับสิทธิ์ใช้น้ำฟรี จะต้องลงทะเบียนกับหน่วยงานก่อน โดย * ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ, สมุทรปราการ, นนทบุรี สามารถเลือกลงทะเบียนได้ตามช่องทางต่าง ๆ คือ - สำนักงานประปาสาขา 18 แห่ง - ศูนย์บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต, เซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ และเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน - เคาน์เตอร์รับชำระเงิน กปน. สำนักงานใหญ่ ตั้งแต่วันนี้ - 31 มกราคม 2562 โดยเตรียมหลักฐาน คือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และหมายเลขทะเบียนผู้ใช้น้ำ มาลงทะเบียน และมีเงื่อนไข ดังนี้ 1. เป็นผู้มีสิทธิ์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2. ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ กับ กปน. เพียงครั้งเดียว (ลงทะเบียน 1 บัตร ต่อ 1 หมายเลขทะเบียนผู้ใช้น้ำ) 3. ยอดค่าน้ำที่ได้รับสิทธิ์ คือยอดค่าน้ำที่ใช้ในเดือนธันวาคม 2561 – กันยายน 2562 หรือยอดที่ระบุในใบแจ้งค่าน้ำเดือนมกราคม - ตุลาคม 2562 4. มียอดเงินที่ต้องชำระทั้งสิ้นไม่เกิน 100 บาท ต่อ 1 ทะเบียนผู้ใช้น้ำ ต่อเดือน หากเดือนใดมียอดเกิน 100 บาท จะไม่สามารถรับสิทธิ์ดังกล่าวในเดือนนั้นได้ และต้องชำระเองเต็มจำนวน 5. สิทธิ์นี้ไม่ครอบคลุมสำหรับผู้ใช้น้ำในหอพักหรือคอนโดมิเนียม 6. ชำระค่าน้ำตามปกติผ่านช่องทางต่าง ๆ ของ กปน. และจะได้รับการโอนเงินคืนผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามยอดชำระจริงในกลางเดือนถัดไป สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการประชาชน โทร. 1125 ตลอด 24 ชั่วโมง * ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ต่างจังหวัด สามารถลงทะเบียนได้ที่ - เว็บไซต์การประปาส่วนภูมิภาค - การประปาส่วนภูมิภาค สำนักงานใหญ่ - สำนักงาน กปภ. เขต 1-10 - สำนักงาน กปภ. 234 สาขาทั่วประเทศ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การประปาส่วนภูมิภาค โทร. 1662 3. ช่วยเหลือค่าเช่าบ้านเดือนละ 400 บาท ผู้มีสิทธิได้รับ : ผู้สูงอายุที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ระหว่างเดือนธันวาคม 2561 - กันยายน 2562 และต้องเช่าที่อยู่อาศัยหรือไม่มีที่อยู่อาศัย ซึ่งตอนนี้มีประมาณ 2.2 แสนคน รัฐจะช่วยเหลือค่าเช่าบ้านให้ผู้สูงอายุเดือนละ 400 บาท ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 - กันยายน 2562 รวม 10 เดือน ผ่านการโอนเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทั้งนี้ หากผู้มีสิทธิรายใดมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในระหว่างเดือนธันวาคม 2561–กันยายน 2562 จะได้รับเงินในเดือนเกิดเป็นครั้งแรก จนสิ้นสุดมาตรการ เริ่มจ่ายเงินเข้าบัตร (e-money) : ทุกวันที่ 12 ของเดือน - ผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอยู่แล้ว เริ่มจ่ายเงินให้วันที่ 12 ธันวาคม 2561 - ผู้ที่ยังไม่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (สำหรับคนที่ลงทะเบียนรอบ 2) เริ่มจ่ายเงินให้วันที่ 5 มกราคม 2562 และ 1 กุมภาพันธ์ 2562 4. ช่วยเหลือค่าเดินทางไปรักษาพยาบาล 1,000 บาท ผู้มีสิทธิได้รับ : ผู้สูงอายุที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ระหว่างเดือนธันวาคม 2561 -กันยายน 2562 จำนวน 3.5 ล้านคน เป็นเงินช่วยเหลือค่าใช้จ่ายผู้สูงอายุในการเดินทางไปรักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ด้วยการโอนเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 1,000 บาท/คน (ได้รับครั้งเดียว) หากผู้มีสิทธิรายใดมีอายุครบ 65 ปีบริบูรณ์ในระหว่างเดือนธันวาคม 2561 – กันยายน 2562 จะได้รับเงินวันที่ 21 ของเดือนเกิด เริ่มจ่ายเงินเข้าบัตร (e-Money) : - ผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอยู่แล้ว เริ่มจ่ายเงินให้วันที่ 21 ธันวาคม 2561 - ผู้ที่ยังไม่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (สำหรับคนที่ลงทะเบียนรอบ 2) เริ่มจ่ายเงินให้วันที่ 5 มกราคม 2562 และ 1 กุมภาพันธ์ 2562 เงินช่วยเหลือเพิ่มเติม นำไปใช้อะไรได้บ้าง ถอนเป็นเงินสดได้ไหม ทั้ง 4 มาตรการช่วยเหลือดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นเงินโบนัสปีใหม่, ค่าน้ำ-ไฟ, ค่าเช่าบ้าน และค่าเดินทางผู้สูงอายุ ผู้มีรายได้น้อยสามารถนำวงเงินที่ได้รับเพิ่มเติมในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ออกมาใช้ได้ ดังนี้ • ซื้อสินค้าและบริการผ่านเครื่อง EDC กับร้านธงฟ้าประชารัฐ และร้านค้าอื่น ๆ ที่ร่วมรายการ • ซื้อสินค้าและบริการผ่านแอปพลิเคชันถุงเงินประชารัฐ • ถอนเป็นเงินสดออกมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน - อ่านวิธีกดเงินสด บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ งานนี้เรียกว่าช่วยให้ผู้มีรายได้น้อย ลืมตาอ้าปากกันได้แบบเห็นๆ ได้รับประโยชน์ กันได้ไปเต็มๆ กับมาตรการจัดหนักปลายปีแบบนี้ แต่อย่างไรเสีย! อย่าใช้จ่ายกันเพลิดเพลิน จนไม่เหลือเก็บไว้ใช้กันในปีหน้าฟ้าใหม่กันด้วย เพราะไม่รู้ว่ารัฐบาลชุดใหม่ จะมีอะไรแบบนี้มาให้กับพี่น้องรายได้น้อยในไทยอีกรหรือไม่