ลอยอัฐิหลวงพ่อคูณ “แม่น้ำโขง” ระบุในพินัยกรรม ห้ามเอากลับวัด!

by ThaiQuote, 30 มกราคม 2562

ลอยอังคารหลวงพ่อคูณ น้ำโขง ฝั่งหนองคาย 30 ม.ค. เผย เป็นคำสั่งของหลวงพ่อในพินัยกรรม ระบุต้องเป็นแม่น้ำโขงเท่านั้น สั่งห้ามนำเถ้าเศษอังคารกลับวัดบ้านไร่อย่างเด็ดขาด หวั่นมีคนนำไปหาผลประโยชน์

หนองคาย – ที่ศาลาหลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง อ.เมืองหนองคาย พระครูภาวนาธรรมโฆษิต เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดหนองคาย ได้นำเจ้าหน้าที่ของวัดจัดทำแท่นสำหรับวางกล่องบรรจุอัฐิหลวงพ่อคูณโดยต่อเติมจากแท่นเดิมที่มีอยู่ก่อนแล้วให้มีขนาดเท่ากับกล่องบรรจุอัฐิหลวงพ่อคูณที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น แจ้งไว้โดยมีขนาดกว้าง 95 ซม. สูง 34 ซม. ยาว 240 ซม. หลังต่อเติมเสร็จจะประดับตกแต่งลวดลายให้สวยงามสมเกียรติ

พระครูภาวนาธรรมโฆษิตกล่าวว่า วัดโพธิ์ชัยได้รับมอบหมายให้ดำเนินการจัดทำแท่นสำหรับวางกล่องบรรจุอัฐิหลวงพ่อคูณ คาดว่าใช้เวลาประมาณ 2 วัน จะดำเนินการแล้วเสร็จและเคลื่อนย้ายไปเตรียมไว้ที่บริเวณพิธีลานริมโขง สถานีเรือหนองคาย ในวันที่ 30 ม.ค.62 คาดว่าจะมีประชาชนมาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก หากร้านค้าหรือชาวหนองคายมีความประสงค์จะทำโรงทาน ขอให้แจ้งวัดโพธิ์ชัยเพื่อจัดวางรูปแบบให้เหมาะสมต่อไป

นายเผด็จ สุขเกษม วัฒนธรรมจังหวัดหนองคาย เปิดเผยว่า งานพิธีลอยอังคารหลวงพ่อคูณในวันที่ 30 ม.ค.นี้ จังหวัดหนองคายได้มอบหมายภารกิจให้กับหน่วยงานต่างๆ รับผิดชอบเตรียมการ โดยมหาวิทยาลัยขอนแก่นจะนำรูปเหมือนหลวงพ่อคูณมาตั้งไว้ที่ลานวัฒนธรรมหน้าวัดลำดวน ริมแม่น้ำโขง ใกล้กับสถานีเรือหนองคายหลังพระราชทานเพลิงศพแล้ว ในเช้าวันที่ 30 ม.ค. เวลาประมาณ 07.00 น. มหาวิทยาลัยขอนแก่นจะนำกล่องบรรจุเถ้าอัฐิหลวงพ่อคูณขึ้นรถเดินทางมา จ.หนองคาย ก่อนเชิญกล่องบรรจุเถ้าอัฐิขึ้นวางบนแท่นที่ลานริมโขง หน้าสถานีเรือหนองคายให้พุทธศาสนิกชนลูกศิษย์ลูกหาได้กราบไหว้

วัฒนธรรมจังหวัดหนองคาย กล่าวอีกว่า ระหว่างนั้นจะถวายภัตตาหารเพลพระภิกษุสงฆ์ภายในสถานีเรือหนองคาย กระทั่งเวลา 12.00 น. จะเริ่มพิธีการด้วยการเชิญกล่องบรรจุอัฐิหลวงพ่อคูณลงเรือ ล.169

จากนั้นจะเคลื่อนขบวนเรือทวนน้ำไปยังสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ให้ประชาชนที่รออยู่บนตลิ่งได้มีโอกาสกราบไหว้ ก่อนหันเรือกลับเดินเรือไปประกอบ พิธีลอยอังคารบริเวณพระธาตุกลางน้ำ วนรอบพระธาตุกลางน้ำ 3 รอบ ทำพิธีโปรยเถ้าอัฐิทั้งหมดไม่ให้เหลือ คาดว่าจะใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง

“ขอความ ร่วมมือประชาชนที่จะเข้าร่วมกราบไหว้เถ้าอัฐิหลวงพ่อคูณแต่งกายโทนสีขาว ชุดสุภาพ สำรวมและไม่เข้าใกล้แท่นวางกล่องบรรจุอัฐิมากจนเกินไป ระหว่างประกอบพิธีสามารถยกมือไหว้อธิษฐานจิตไปด้วยเพื่อน้อมส่งหลวงพ่อคูณในวาระสุดท้าย” นายเผด็จกล่าว

ด้านนายประทีป หรือครูดำ วงศ์กาญจนรัตน์ อายุ 63 ปี จ.ลพบุรี หลานของหลวงพ่อคูณ เป็นพยานในฐานะญาติในพินัยกรรมหลวงพ่อคูณ เปิดเผยถึงสาเหตุที่หลวงพ่อคูณต้องสั่งไว้ในพินัยกรรม ที่ให้นำเถ้าอังคารทุกชิ้นไปลอยแม่น้ำโขงฝั่ง จ.หนองคาย ว่า คำสั่งนี้อยู่ในข้อ 4 ของพินัยกรรมที่มีคนตั้งข้อสงสัยกันมาก ตนเคยนมัสการถามหลวงพ่อคูณด้วยตัวเองว่า ลอยแม่น้ำอื่นที่ใกล้ๆ อย่างแม่น้ำมูลหรือแม่น้ำชี ท่านบอกว่าไม่ได้ต้องเป็นแม่น้ำโขงเท่านั้น เพราะเป็นแม่น้ำของเอเชีย ไหลยาวผ่านหลายประเทศ

ส่วนที่ต้องเป็นฝั่ง จ.หนองคาย นั้นเพราะเป็นจังหวัดที่เดินทางไปสะดวกและใกล้กับประเทศ สปป.ลาว มากที่สุด (หลวงพ่อคูณเคยถวายเงินให้สมเด็จพระสังฆราชลาว 1 ล้านบาทหรือ 200 ล้านกีบสมัยนั้นและมีประชาชนชาว สปป.ลาว เคารพนับถือท่านมาก)

“หลวงพ่อคูณห้ามนำเถ้าถ่านเศษอังคาร แม้แต่เศษเสี้ยวเดียวกลับวัดบ้านไร่ เพราะท่านสละไปทั้งหมดแล้ว และเกรงว่าหากนำกลับจะมีคนนำมาแสวงหาผลประโยชน์” นายประทีปกล่าว

ที่มาข่าว : thairath