ประชาชนทุกทิศทั่วไทย มุ่งหน้าเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวฉลองเทศกาลสงกรานต์ เหนือ ใต้ ออก ตก การจราจรติดหนึบ

โดยผู้คนทั่วประเทศอยู่ระหว่างการเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยวเนื่องในเทศกาลสงกรานต์หรือวันขึ้นปีใหม่ของไทย 2562 โดยบรรยากาศปีนี้มีความคึกคักเนื่องจากมีวันหยุดยาวถึง 5 วันคือระหว่างวันที่ 12-16 เม.ย. บางกลุ่มก็เริ่มทยอยเดินทางกลับล่วงหน้าตั้งแต่ช่วงวันที่ 6-9 เม.ย. ก็ไม่น้อยเพื่อหนีรถติดหนักในช่วงนี้

ทั้งนี้ การเดินทางเพื่อกลับภูมิลำเนาไปร่วมฉลองสงกรานต์กับครอบครัว รวมถึงการเดินทางท่องเที่ยวของประชาชน มีขึ้นตั้งแต่คืนวันที่ 10 เม.ย.ต่อเนื่องถึงวันที่ 11 เม.ย. ทำให้การจราจรถนนสายหลักทุกสายเริ่มหนาแน่นตั้งแต่ช่วงเช้า

-ถนนพหลโยธิน ช่วง ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ยังเคลื่อนตัวด้วยความ เร็วเฉลี่ย 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

-ถนนฝั่งขาออกปริมาณรถมากเคลื่อนตัวได้ช้า ส่วนถนนเอเชียเส้นทางสู่ภาคเหนือ มีรถใช้เส้นทางจำนวนมากยังเคลื่อนตัวได้ มาชะลอตัวช่วงคอสะพานและจุดกลับรถ
ขณะที่ถนนพหลโยธินบริเวณแยกหน้าค่ายจิระประวัตินครสวรรค์ แยกอุทยานสวรรค์ เชิงสะพานเดชาติวงศ์ อ.เมืองนครสวรรค์ มีปริมาณรถเต็มช่องจราจรฝั่งขาขึ้น แต่ยังเคลื่อนตัวได้เรื่อยๆ ตำรวจได้เปิดช่องทางการจราจรพิเศษบริเวณสะพานเดชาติ-วงศ์เพิ่มอีก 2 ช่อง เร่งระบายรถฝั่งขาขึ้น

ในส่วนของถนนทางหลวงหมายเลข 117 นครสวรรค์-พิษณุโลก ตั้งแต่บริเวณสามแยกอุทยานสวรรค์ ไปจนทางแยกนวมินทร์ เพราะมีจำนวนรถที่ใช้เส้นทางเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่เช้า จนช่วงเย็นการจราจรยิ่งหนาแน่นมากขึ้นเช่นกัน

ส่วนเส้นทางสู่ภาคอีสาน การจราจรบนถนนพหลโยธิน ต่อเนื่องถนนมิตรภาพ ฝั่งขาขึ้นช่วงเช้ายังคล่องตัว แต่พอช่วงบ่ายปริมาณรถเพิ่มขึ้น ทำให้รถชะลอตัวสลับกับหยุดนิ่งเป็นระยะ โดยเฉพาะถนนมิตรภาพช่วงเข้าเขต ต.กลางดง อ.ปากช่อง ต่อเนื่องไปจนถึง ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เนื่องจากมีการก่อสร้างถนนมอเตอร์เวย์ ตำรวจทางหลวงต้องเปิดช่องทางพิเศษเป็นระยะเพื่อเร่งระบายรถ

ส่วนถนน 304 กบินทร์บุรี-นครราชสีมา เส้นทางจากภาคตะวันออกสู่ภาคอีสาน โดยเฉพาะจุดบรรจบกันระหว่างถนนมิตรภาพ
ด้านถนน 304 เข้าสู่ถนนบายพาสเลี่ยงเมืองนครราชสีมา และถนนสีคิ้ว-เดชอุดม เส้นทางสู่ภาคอีสานตอนล่าง รถเคลื่อนตัวได้ช้า รถติดสะสมยาวร่วม 3 กม. รถที่ใช้เส้นทางส่วนใหญ่เป็นรถปิกอัพแบบแค็บที่บรรทุกผู้โดยสารและข้าวของเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนมาเต็มคันรถ คาดว่าในช่วงเย็นรถจะติดขัดอย่างหนัก เนื่องจากต้องรับปริมาณรถจำนวนมากจาก อ.วังน้อย

ขณะเดียวกันถนนเพชรเกษม บริเวณสี่แยกหน้าศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เส้นทางสู่ภาคใต้ ปริมาณรถหนาแน่นทั้งฝั่งขาขึ้นและขาล่อง มีรถติดสะสมตามแยกต่างๆเล็กน้อย โดยเฉพาะแยกบายพาส ถนนช่วง อ.หัวหิน-อ.บางสะพานน้อย มีรถติดขัดช่วงบายพาส อ.หัวหิน แยกบายพาส อ.ปราณบุรี อ.บางสะพาน ถนนเพชรเกษม ขาล่อง ในพื้นที่ อ.สามร้อยยอด รถชะลอตัวและติดขัดเป็นระยะ ผู้ขับขี่รถบางคันถือโอกาสจอดรถพักข้างทาง เลือกซื้อของฝากและผลไม้โดยเฉพาะมะม่วง ทั้งมะม่วงน้ำดอกไม้ มะม่วงอกร่องที่ชาวสวนนำมาตั้งขายข้างทางนำไปเป็นของฝากญาติพี่น้องและรับประทานระหว่างทาง

เวลาต่อมา พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ผบ.กกล.บูรพา พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยงานเกี่ยวข้อง ออกตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจและจุดบริการประชาชนใน จ.สระแก้ว กำชับให้เพิ่มความเข้มในการบังคับใช้กฎหมาย ก่อนขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจสภาพการจราจรบริเวณช่องตะโก และช่องตะกิ่ว อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เส้นทางเชื่อมต่อ จ.บุรีรัมย์ พร้อมเผยว่า ในช่วงสงกรานต์ได้มีคำสั่ง ห้ามรถบรรทุกใช้เส้นทางดังกล่าว เพื่อลดปัญหาอุบัติเหตุและการจราจรติดขัดสะสม
ในส่วนของแรงงานต่างด้าวที่มาทำงานในไทย ถือโอกาสเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านช่วงหยุดยาวสงกรานต์ โดยที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตั้งแต่เช้าแรงงานชาวกัมพูชาหลายพันคนนั่งต่อแถวรอตรวจเอกสารการเดินทางกลับกัมพูชาไปฉลองสงกรานต์เหมือนไทย จนแถวล้นออกมานอกอาคารผู้โดยสารขาออกราชอาณาจักร ทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ต้องเลี่ยงออกไปเดินที่ถนนหน้าด่าน

วันเดียวกันนี้ นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เผยถึงผลการดำเนินการตามมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนเทศกาลสงกรานต์ ของกรมการขนส่งทางบก ช่วงระหว่างวันที่ 4-10 เม.ย. ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอด ทั่วประเทศรวม 195 แห่ง พบรถโดยสาร 3 คัน มีปัญหายางชำรุด, ถังดับเพลิงไม่พร้อมใช้งาน กระจกหน้าแตกร้าว ส่งผลกระทบกับความปลอดภัยจึงสั่ง ให้ผู้ประกอบการเปลี่ยนรถคันใหม่ทดแทน

ส่วนการตรวจความพร้อมพนักงานขับรถ นายพีระพลกล่าวว่า พบการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดว่าด้วยความปลอดภัยจำนวน 2 ราย สั่งเปลี่ยนตัวพนักงานขับรถทันทีเช่นกัน สำหรับการเดินทางในเทศกาลสงกรานต์ ขนส่งทางบกกำชับทุกหน่วยดำเนินการเข้มข้นทุกมาตรการ และเพิ่มความปลอดภัยระหว่างการเดินทาง โดยกำหนดให้รถโดยสารสาธารณะและรถเสริมทุกคันที่มีเส้นทางวิ่งผ่านจุด Checkpoint ใน 17 จังหวัด รวม 18 แห่ง ต้องนำรถเข้าตรวจความพร้อม ได้แก่ ลำปาง, กำแพงเพชร, พิษณุโลก, ตาก, นครราชสีมา, บุรีรัมย์, ขอนแก่น, อุดรธานี, ร้อยเอ็ด, ชัยนาท, ระยอง, ฉะเชิงเทรา, ประจวบคีรีขันธ์, นครศรีธรรมราช, สุราษฎร์ธานี, กระบี่ และสงขลา มีการออกหน่วยเคลื่อนที่ตรวจจับความเร็วรถโดยสารสาธารณะด้วยกล้องตรวจจับความเร็ว ด้วยแสงเลเซอร์ ติดตามพฤติกรรมพนักงานขับรถผ่านระบบ GPS Tracking แบบออนไลน์ Real-time ผ่านศูนย์ GPS ส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวมทั้งประชาชนติดตามได้ผ่านแอปพลิเคชัน DLT GPS ตลอดเทศกาล

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงการอำนวยความสะดวกการจราจร การดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชน นักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ของตำรวจว่า มีการบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อำนวยความสะดวกด้านการจราจรและป้องกันเหตุอาชญากรรม ตามสถานีขนส่ง สถานีรถไฟ ท่าอากาศยาน และจุดบริการขนส่งสาธารณะที่มีประชาชนและนักท่องเที่ยวมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก หากหน่วยงานไหนมีผลปฏิบัติในด้านการลดอุบัติเหตุและมีมาตรการลดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี จะพิจารณาให้รางวัล ส่วนโครงการฝากบ้านกับตำรวจ ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการติดต่อได้ที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน

ขณะที่ พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รอง ผบก.ตม.2 ในฐานะโฆษก บก. ตม.2 กล่าวว่า พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ ผบก.ตม.2 สั่งการให้เตรียมพร้อมรับมือคลื่นนักท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ทั้ง 5 สนามบินทั่วไทย พร้อมเตือนผู้โดยสารให้เผื่อเวลา 3 ชั่วโมงก่อนเครื่องออกและให้จัดเตรียมเอกสารการเดินทางให้พร้อมเพื่อความสะดวกรวดเร็ว นอกจากนี้ที่บริเวณโถงตรวจหนังสือเดินทางผู้โดยสารขาเข้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในวันที่ 11เม.ย.จะมีเจ้าหน้าที่จะแต่งกายชุดผ้าไทยสีเหลือง ต้อนรับนักท่องเที่ยว ในฐานะเจ้าบ้านแทนคนไทยทั้งประเทศ

พ.ต.อ.เชิงรณกล่าวด้วยว่า ในส่วนของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกผู้โดยสาร ที่มาใช้บริการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่ห้อง CIP 5 ชั้น 3 อาคารผู้โดยสาร ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. เวลา 08.00 น. ถึงวันที่ 22 เม.ย. เวลา 24.00 น. หมายเลขโทรศัพท์ 0-2132-9950 โดยภายในศูนย์ฯได้จัดเจ้าหน้าที่ประจำตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้การบริการผู้โดยสารเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์ ผบก.ตำรวจทางหลวง เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2562 กรมทางหลวงคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณรถยนต์เดินทางออกจากกรุงเทพฯ กลับไปเฉลิมฉลองสงกรานต์ยังภูมิลำเนาตามภาคต่างๆ มากกว่าที่ผ่านมาถึงร้อยละ 4.1 โดยคาดว่าจะมีปริมาณรถช่วงขาออก มากกว่า 3.9 ล้านคัน คิดเป็นรถที่เดินทางไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากกว่า 5.9 แสนคัน ตำรวจทางหลวงมีความเป็นห่วงประชาชน จึงดำเนินมาตร-การป้องกันอุบัติเหตุและอำนวยการจราจรใน 3 มิติหลักคือ ป้องกันอุบัติเหตุทางถนน อำนวยการจราจร ให้บริการประชาชน โดยร่วมกับเครือข่ายภาครัฐและจิตอาสา ได้แก่ วิทยาลัยอาชีวะการอาชีพ บริษัท สยามยีเอสเซลส์ จำกัด บริษัท สยามกลการอะไหล่ จำกัด กลุ่มธุรกิจ TCP ร้านข้าวแกงบ้านสวน อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จัดโครงการ “GS BATTERY พร้อมเป็นพลังให้คุณทุกเส้นทาง” ในวันที่ 11-12 เม.ย. อำนวยความสะดวกในการเดินทาง
นายมนไทย เลาหะวานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามยีเอสเซลส์ จำกัด กล่าวว่า ได้จัดกิจกรรมนี้ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 7 แล้วเพื่อสนับสนุนนโยบายภาครัฐในการรณรงค์ลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุช่วงวันหยุดยาว ประกอบด้วย ให้บริการตรวจเช็กแบตเตอรี่รถยนต์ฟรีโดยช่างผู้ชำนาญจาก GS BATTERY พร้อมมอบแบตเตอรี่ Hybrid Extra 135 และแบตเตอรี่ รุ่น MFX Series รวม 15 ลูก ให้แก่กองบังคับการตำรวจทางหลวงและยังมอบน้ำดื่ม 2.1 หมื่นขวด ผ้าเย็น 7 พันผืน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชนผู้เดินทาง รวมมูลค่ากว่า 2.5 ล้านบาท

สำหรับสถานที่ ที่ประชาชนอยากไปเล่นน้ำสงกรานต์มากที่สุด คือ ที่บ้านเกิดหรือภูมิลำเนาตัวเอง ตามด้วยเชียงใหม่ กรุงเทพมหานคร ถนนข้าวสาร ถนนสีลม กทม. ถนนข้าวเหนียว ขอนแก่น และบางแสน พัทยา หัวหิน เมื่อถามถึงการรณรงค์และเข้มงวดด้านความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ร้อยละ 69.90 ระบุว่า ควรรักษาวินัยจราจร ขับขี่ปลอดภัย มีน้ำใจในการใช้รถใช้ถนน งดการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ดื่มเหล้าหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวัด พื้นที่จัดงาน หรือพื้นที่สาธารณะรณรงค์แต่งกายอย่างเหมาะสม ถูกกาลเทศะ ซึ่งเป็นสาเหตุของการนำมาของปัญหาการทะเลาะวิวาทและถูกลวนลาม จึงอยากให้ทุกคนสนุกกันอย่างมีสติ เพื่อให้บรรยากาศในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์นี้ เป็นวันหยุดพักผ่อนยาวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข สนุกสนาน สมเป็นประเพณีที่ดีงาม ที่สืบสานกันมายาวนาน

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

บี้ภาษี "เบียร์" หลังยอดเก็บ 6 เดือนต่ำเป้า