เปิดใจ 3 ส.ส. เลือดใหม่ “พลังประชารัฐ” กับก้าวแรกสู่ รัฐสภา

by ThaiQuote, 18 พฤษภาคม 2562

ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการเมืองไทย ที่พรรคการเมืองใหม่อย่าง พรรคพลังประชารัฐ ที่ปรากฎตัวก่อนการเลือกตั้งเพียงแค่ 6 เดือน สามารถกวาดที่นั่งไปได้ถึง 115 ที่นั่ง ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ แต่ที่น่าสนใจในจำนวนนี้ เป็น ส.ส.ใหม่แกะกล่องถึง 70 คน วันนี้ Thaiquote จะพาไปเปิดใจ 3 ส.ส. ป้ายแดง ต่อการเข้ามาทำหน้าที่ในรัฐสภาอันทรงเกียรติ


• ส.ส. เลือดใหม่! หมอผ่าศพ ดีกรี นางงาม ผู้มุ่งมั่นปฏิรูปการเกษตรและแก้ไขปัญหาจราจร กทม.

คนแรกที่ขอพูดถึง คือ ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ หรือน้อง "ส้ม" อายุ 31 ปี ส.ส.เขต 2 กทม. คนรุ่นใหม่ของ พปชร. ดีกรีระดับ “ดอกเตอร์” เป็นอาจารย์สอนพิเศษวิชาอาชญาวิทยา เคยผ่าศพมาแล้วด้วย มีประสบการณ์การบริหารงานยุติธรรมซึ่งเธอจบด้านนี้มา นอกจากนี้ เธอยังผ่านเวทีประกวดนางสาวไทยอีกด้วย และยังคว้าตำแหน่ง “Miss intelligent” ซึ่งเป็นตำแหน่งของผู้ที่มีไหวพริบ ปฏิภาณดี ถึงจะได้รับนะครับ ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะนอกจากความสวยแล้ว ยังพกพาความเก่งและฉลาดมาเต็มกระเป๋าเลยทีเดียว


การก้าวสู่การเมือง เธอมุ่งมั่นที่จะเข้ามาปฏิรูปเกษตรฯและแก้ไขปัญหาจราจร กทม. และก็สมดั่งความมุ่งมั่น
เธอเล่าถึงความรู้สึกที่ฝ่าด่านมาเป็นผู้แทนครั้งแรก ว่า ดีใจที่พี่น้องประชาชนให้ความไว้วางใจเห็นถึงความตั้งใจ ที่เราจะเข้าไปทำงานผลักดันนโยบายต่างๆ เพื่อพี่น้องประชาชน หลังจากที่ได้รับตำแหน่งตรงนี้แล้วก็คิดว่าจะต้องพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม เพื่อที่จะทำงานได้อย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ ดิฉันต้องการจะ ผลักดันนโยบายต่างๆ ที่นำเสนอต่อพี่น้องประชาชนให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว


เรื่องที่อยากผลักดันทันที หลังจากที่ได้เป็น ส.ส. คือการเกษตร ซึ่งเป็นฐานรากของประเทศไทย เพราะประเทศเราเป็นเกษตรกรรม ประชาชนส่วนใหญ่ทำการเกษตร ดังนั้นจะพัฒนาอย่างไรให้ประเทศมั่งคั่ง ยั่งยืน ก็ต้องพัฒนาภาคเกษตรก่อน ตั้งแต่การเพิมผลผลิต การพัฒนาคุณภาพ การพัฒนานวัตกรรมเกษตร มูลค่าสินค้า โดยอาศัยสหกรณ์ รัฐบาลจำเป็นต้องส่งเสริมสหกรณ์ให้มีความเข้มแข็ง รวมทั้งพลังของเกษตรกรให้มีอำนาจต่อรองและพึ่งพาตนเองได้อย่างแท้จริงอย่างยั่งยืน


อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญและต้องการเร่งแก้ไข คือ ปัญหาจราจรของคนกรุง จากการลงพื้นที่ ชาวบ้านเสนอให้เราแก้ปัญหาจราจร ซึ่งมองว่าปัญหาจราจรเกิดจากสาเหตุใหญ่ 3 อย่างคือ เกิดจากตัวบุคคล,การออกแบบถนน สิ่งกีดขวางบนถนน และปัญหาจากเครื่องหมายและสัญญาณไฟจราจร จึงต้องเริ่มแก้ปัญหาจราจรจากสิ่งเหล่านี้ ส่วนระยะยาวก็ขยายช่องทางระบบขนส่งมวลชนและโครงสร้างพื้นฐานควบคู่กัน นี่คือนโยบายที่นำเสนอต่อพี่น้องประชาชน จึงอยากเร่งเข้าไปทำให้เกิดเป็นรูปธรรม ทันที


เมื่อถามว่า อะไรที่ทำให้ชนะใจประชาชน จนได้รับเลือกเข้ามาทำหน้าที่ในครั้งนี้ ดร.ส้ม ตอบว่า คือการนำเสนอสิ่งที่ประชาชนควรเพิ่งจะได้ซึ่งเรามีความจริงใจที่จะผลักดันนโยบายต่างๆ ที่นำเสนอไว้ให้เกิดขึ้นจริงและทำทันที


• สาวแกร่ง ทายาท "กอบกุล" ผู้ล่วงลับ สู้กับ "น้าสะใภ้" ชิงเก้าอี้ ส.ส.ราชบุรี มาครอง

สำหรับ ผู้หญิงแกร่งคนนี้ ต้องบอกว่าเธอคือสายเลือดนักการเมืองเข้มข้น คนเมืองโอ่ง น.ส.กุลวดี นพอมรบดี พรรคพลังประชารัฐ เขต 1 ราชบุรี บุตรสาว นางกอบกุล นพอมรบดี อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคไทยรักไทย ผู้ฝ่าฟันแย่งชิงเก้าอี้ ส.ส.กับ นางเพียงเพ็ญ ศักดิ์สมบูรณ์ พรรคภูมิใจไทย ที่เป็นน้าสะใภ้ของตนเอง จนได้เป็น ส.ส.ใหม่ป้ายแดง


เป็น ส.ส.ใหม่ป้ายแดง และเป็นคนรุ่นใหม่ ไฟแรงอีกคนหนึ่ง นั้นคือ น.ส.กุลวลี นพอมรบ ปัจจุบันอายุ 33 ปี ต้องบอกว่า มีสายเลือดนักการเมืองอยู่เต็มตัว คือนายมานิต นพอมรบดี อดีต ส.ส.ราชบุรี และเป็นอดีต รมช.สาธารณสุข พรรคประชาธิบปัตย์ ผู้เป็นบิดา และนางกอบกุล นพอมรบดี อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคไทยรักไทย ผู้เป็นมารดาที่ถูกยิงเสียชีวิต ขณะทำงานการเมือง


น.ส. กุลวลี บอกกับ Thaiquote ว่า ซึมซับการทำงานการเมืองมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว ตั้งแต่รุ่นคุณแม่คุณกอบกุล ท่านเสียชีวิตจากการโดนยิง ขณะทำงานการเมือง ซึ่งจากนั้นคุณพ่อก็ได้รับความไว้วางใจได้เข้ามาเป็น ส.ส. ส่วนตัวดิฉันเองเป็น ส.จ. ตั้งแต่อายุ 25 ปี ก็ทำงานด้านการเมืองท้องถิ่นมาโดยตลอด ที่ผ่านมาก็เป็นตัวแทนคุณพ่อลงพื้นที่พบผู้สูงอายุ ผู้พิการ ลงพื้นที่ ทำกิจกรรม งานวัด งานประเพณี ต่างๆมาตลอด


วันนี้เราได้มาทำหน้าที่ ที่ต้องมีความรับผิดชอบสูงขึ้นคือเป็นตัวแทนของคนในจังหวัดราชบุรี ในพื้นที่ซึ่งเรื่องที่สำคัญก็คือ สินค้าการเกษตรไม่ว่าจะเป็น ข้าว มะพร้าวอ่อน มะพร้าวกะทิ รวมไปถึง อ้อย ซึ่งราชบุรีถือว่าเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำ ทำการเกษตรแล้วส่งไปในพื้นที่หลายจังหวัดรวมถึงส่งออกต่างประเทศด้วย เราจึงต้องเร่งแก้ปัญหาและพัฒนา สินค้าเกษตรและยกระดับคุณภาพชีวิต เกษตรกรให้มีคุณภาพดีขึ้น ดิฉันมองว่า ถ้าพี่น้องประชาชนที่เป็นฐานรากมีคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ปัญหาต่างๆก็จะลดลงไม่ว่าจะเป็นเรื่องยาเสพติดและอาชญากรรม ปัญหาการฆ่าตัวตาย ซึ่งต้องบอกว่าในพื้นที่ของดิฉันเมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมา มีคนฆ่าตัวตายหลายราย จากปัญหาความเครียดและหนี้สิน


ซึ่งบัตรประชารัฐถือว่าได้เข้ามามีบทบาทสำคัญมากในการช่วยเหลือประชาชนที่ ลำบากยากจนจริงๆ ให้สามารถเลี้ยงชีพตัวเองได้ ถึงแม้จะมองว่าเป็นจำนวนแค่ 200-300 บาท ไม่ได้มากมายอะไร แต่สำหรับคนที่ยากจนจริงๆนั้น ก็ทำให้บางครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้นดำเนินชีวิตต่อไปได้


ส่วนสิ่งที่ทำให้ตัวเอง สามารถเอาชนะใจพี่น้องประชาชน จนได้เข้ามาทำหน้าที่สำคัญในครั้งนี้ได้ คือส่วนหนึ่งมาจากการลงพื้นที่มาโดยตลอด เข้าถึงคนในทุกชุมชนและรับฟังปัญหา สิ่งไหนที่เราแก้ไขได้เราก็จะแก้ไข สิ่งไหนที่ทำไม่ได้ก็จะประสานงานกับหน่วยงานรัฐเป็นตัวกลางประสานงานให้ชาวบ้านและเมื่อเราได้เข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ จะทำให้เราประสานงานกับหน่วยงานต่างๆได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น


และอีกส่วนหนึ่ง ที่ช่วยให้เรามาถึงวันนี้ได้คือ สิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ ได้ทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน ชาวราชบุรีมาโดยตลอด จนเป็นที่ประจักษ์ในการทุ่มเททำงานอย่างจริงจังและจริงใจ จนส่งผลมาถึงตัวดิฉัน ก็จะทุ่มเททั้งแรงกายและกำลังสมองให้สุดกำลังความสามารถ ขอเป็นฟันเฟือนในการขับเคลื่อนประเทศไทยไปข้างหน้า


• เด็กวัดก้าวสู่ ส.ส.นครศรีฯ ผู้ล้มช้าง อดีต ส.ส. 8 สมัย คนดังแห่งปชป.

ส่วนคนนี้ Thai quote ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา จากเด็กวัดก้าวสู่ ส.ส.นครศรีฯ ผู้ล้มช้าง อดีต ส.ส. 8 สมัย พรรคประชาธิบปัตย์ "วิทยา แก้วภราดัย" เขาคือ นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ นครศรีธรรมราช


นับเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่ง ของ จ.นครศรีธรรมราช ที่เกือบ 30 ปีที่ผ่านมาผู้สมัครเลือกตั้งจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ชนะคู่แข่งขาดลอยต่อเนื่อง โดยเฉพาะเขตที่ประชาชนวิพากวิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง คือเขตเลือกตั้งที่ 2 ที่ดร.สัณหพจน์ สุขศรีเมือง หรือที่รู้จักกันในนาม "น้องชัย" หนุ่มลุ่มน้ำปากพนังขนานแท้ เกิดในครอบครับที่มีฐานะยากจนและเป็นเด็กวัด สามารถเอาชนะ นายวิทยา แก้วภราดัย จากพรรคประชาธิปัตย์ เคยเป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และเป็น ส.ส.เจ้าของพื้นที่ต่อเนื่องมาแล้วถึง 8 สมัย ที่สำคัญยังเคยดำรงตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข ในสมัยรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งบางคนเปรียบศึกใหญ่ในพื้นที่นี้ว่าเป็นมดแดงล้มช้างกันเลยทีเดียว


เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างที่ได้รับเลือก เข้ามาทำหน้าที่สำคัญครั้งนี้ คุณ สัณหพจน์ บอกว่า ไม่รู้สึกตื่นเต้นหรือประหม่าเท่าไหร่นัก ก็อาศัยดูตัวอย่างจากรุ่นพี่คอยถามขอคำชี้แนะจากรุ่นพี่ที่ทำงานกันมาและจากการได้มาร่วมสัมมนาร่วมกันในครั้งนี้ ทำให้รู้สึกมีความใกล้ชิดและเป็นกันเองกับเพื่อนๆ สมาชิก ก็ช่วยลดความตื่นเต้นและประหม่าได้มาก

และเมื่อถามอีกว่า สิ่งที่ต้องการทำเพื่อประชาชนหลังจากได้เข้าไปทำหน้าที่ผู้แทน คุณสัณหพจน์ บอกว่า ในพื้นที่มันจะขาดการดูแลมานาน บ้านผมเป็นอำเภอลุ่มน้ำปากพนัง เมื่อปี 2531 อำเภอเราเคยเป็นอำเภอที่ยากจน เป็นที่ 2 ของภาคใต้ ที่อ.ปากพนัง ตอนนี้ก็แทบจะเป็นเมืองร้าง ที่อ.หัวไทร เองก็ถูกทิ้งมานานถือว่าเป็นหน้าที่สำคัญและหนักหนาสำหรับผู้แทนที่จะเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ เพราะเป็นปัญหาสะสมมานาน กว่า 20 ปี จังหวัดนครศรีฯ ต้องพึ่งพาสินค้าทางการเกษตรไม่ว่าจะเป็น มะพร้าว พริก หรือว่าปาล์ม แล้วก็ ประมง ซึ่งก็ทราบกันว่าจะบ้านเราตอนนี้สินค้าการเกษตรมีราคาตกต่ำ หน้าที่สำคัญของผู้แทนคือต้องเร่งผลักดันเรื่องราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำไม่ว่าจะเป็น ราคาปาล์ม กุ้ง ซึ่งต้องบอกว่าผมเองมีแนวคิดที่จะไม่พึ่งพาสินค้าเกษตรเพียงอย่างเดียว


คุณ สัณหพจน์ บอกว่า นับจากนี้จะต้องพัฒนาพื้นลุ่มน้ำปากพนังให้เป็นที่รู้จักและดึงนักท่องเที่ยวจากฝั่งอันดามัน ทั้งจากกระบี่ พังงาและภูเก็ต ให้ไหลมาฝั่งอ่าวไทย เข้ามาดอนสัก ขนอม สิชล ท่าศาลาและผ่านเข้าเมืองนครศรีธรรมราช อาจจะต้องทำสะพานเพื่อข้ามไปยังแหลมตะลุมพุก เพราะที่ผ่านมาถนนมันวิ่งอ้อมหมด ทำให้ไม่ผ่านเข้ามานครศรีฯ และจะทำการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและชุมชนและพัฒนาลุ่มน้ำปากพนังให้มีความสวยงาม จะได้เสริมให้กลายเป็นรายได้หลักให้ได้ บนสโลแกนที่ว่า "แวะไหว้พระธาตุเมืองนคร แวะนอนลุ่มน้ำปากพนัง ชมวิถีชีวิตชุมชนสองฟากฝั่ง นั่งเล่าความหลังกันทั้งชุมชน” ทุกคนมีอาชีพ มีรายได้ คนเฒ่าคนแก่ก็ทำขนมจาก ข้าวเหนียวห่อกล้วย ทำขนมพื้นบ้านขายนักท่องเที่ยว ทำให้ลุ่มน้ำปากพนังมีชีวิตชีวามากขึ้น นี่คือสิ่งที่ผมพูดและตั้งใจจะทำมาโดยตลอด

เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นบรรดาลูกหลานที่ไปใช้ชีวิต ไปทำงานในต่างถิ่น ก็จะได้หวนกลับมาอยู่บ้าน มาอยู่กับพ่อกับแม่ โดยเป็นความใฝ่ฝันสูงสุดผม คืออยากเห็นลูกหลานกลับมาอยู่บ้านบนพื้นฐานเศรษฐกิจที่จะรองรับ หากมีรายได้วันละ 1,000-2,000 ก็อยากจะกลับมาอยู่บ้านเดิม ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปต้นคงจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เพราะเมื่อก่อนหากทำอะไรมากเกินไปเขาก็จะหาว่าสร้างภาพ แต่ต่อไปจะเปลี่ยนแปลงเข้าสู่วิถีชีวิตแบบเดิมที่เป็นตัวตนจริงๆ จะเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด จะไม่ถือตัวว่าเป็น ส.ส. เพราะเป็นคนแบบนี้มาตั้งแต่เกิดและเป็นคนนิสัยแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร


สำหรับ สิ่งที่ทำให้ชนะใจพี่น้องประชาชน จนสามารถล้มช้างได้ในครั้งนี้ คือ ผมขอตอบจากที่ได้ยินชาวนครศรีเขาพูดกันนะครับว่า ผมไม่ถือตัว เข้าถึงง่าย ติดดินและเป็นกันเอง และช่วยเหลือกิจกรรมทางสังคมอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ตรงจุดนี้ผมคิดว่าทำให้ชนะใจพี่น้องประชาชนในครั้งนี้ครับ

หลังจากนี้ ผลงานจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความตั้งใจและความจริงใจในการแก้ปัญหาต่างๆ ที่ได้ให้คำมั่นสัญญา ไว้กับพี่น้องประชาชนของตัวเองไว้ ไม่ใช่แค่เพียงลมปากที่เพียงพูดผ่านออกมาและจางหายไปในสายลม

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
พลังประชารัฐเตรียมฟ้อง “ธนาธร” กุเรื่องดูด 20 ส.ส.แลกเคลียร์คดี