รัฐบาลเตรียมออกมาตรขับเคลื่อนเศรษฐกิจช่วง 3 เดือนสุดท้ายปลายปี ยืนยันออกแพ็กเกจใหญ่ ยาแรงเห็นผลชัดเจน ช่วยเหลือครอบคลุมทุกกลุ่ม จากผลพวงเศรษฐกิจชะลอตัว เสนอ ครม. ในเดือน ส.ค.นี้

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี หารือกับหน่วยงานในกระทรวงการคลังและแบงก์รัฐ เพื่อศึกษาออกมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วง 3 เดือนสุดท้ายปลายปี รองรับ พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 ที่ล่าช้าออกไปทำให้ยังไม่มีงบลงทุนออกสู่ระบบ ดังนั้น จึงต้องใช้มาตรการออกมาช่วยเยียวยาเศรษฐกิจครึ่งหลังไม่ให้มีปัญหา เนื่องจากขณะนี้ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

ทั้งนี้รองนายกฯสมคิด ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานออกมาตรการดูแลให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม โดยเฉพาะเกษตรกร ซึ่งได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ดูแลรายย่อยให้มีกำลังซื้อ รวมถึงกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย เอสเอ็มอีที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนในกิจการด้วยเงื่อนไขผ่อนปรน และคนระดับกลางไม่ให้มีความเดือดร้อนจากต้นทุนค่าครองชีพ รวมไปถึงการท่องเที่ยวทั้งเมืองหลักและเมือรอง เพราะเป็นสาขาส่งผลต่อธุรกิจรายย่อยที่เกี่ยวข้องอย่างมา รวมทั้งการท่องเที่ยวในชุมชน

ในส่วนของสถาบันการเงินของรัฐ พิจารณาดูแลกลุ่มเป้าหมาย เช่น ธ.ก.ส. ดูแลเกษตรกรให้มีทุนหมุนเวียนด้วยเงื่อนไขผ่อนปรน ออมสิน ดูแลสตาร์ทอัพ ธุรกิจรายย่อย เอสเอ็มอีแบงก์ดูแลผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้มีเงินทุน ขณะผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ จะใช้เป็นเครื่องมือจากมาตรการที่ออกมาเพื่อดูแลรายย่อย เมื่อทุกหน่วยงาน สรุปมาตรการได้แล้ว จะนำเสนอ ครม.เศรษฐกิจ และเสนอ ครม.ชุดใหญ่เห็นชอบภายในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อให้เป็นมาตรการแพ็กเกจใหญ่ ผลักดันพร้อมกันหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้อง โดยมาตรการเมื่อออกไปแล้วต้องเห็นผลชัดเจน ผลักดันให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนต่อไปได้ โดยการใช้งบประมาณครั้งนี้จะต้องอยู่ในกรอบวินัยทางการคลัง และ พ.ร.บ.งบประมาณ

นายอุตตม กล่าวเพิ่มเติมว่า กระแสการเปลี่ยนบอร์ดรัฐวิสาหกิจนั้น ในส่วนตัวมองว่าควรให้คนเดิมดูแลงานไปจนกว่าจะครบเทอมครบวาระ และการตั้งคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายฉบับใหม่ ผ่านการคัดเลือกของคณะกรรมการกลั่นกรองบอร์ดรัฐวิสาหกิจ โดยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน จากนั้นนำรายเชื่อเสนอคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน นับเป็นขั้นตอนใหม่อีกหลายด้านที่ต้องดำเนินการให้ครบตามที่กฎหมายกำหนด

สำหรับการแบ่งงานของกระทรวงการคลัง นายอุตตม จะกำกับดูแลกรมสรรพากร, สรรพสามิต, สคร.,สศค. ,ธ.ก.ส. ออมสิน เอสเอ็มอีแบงก์ นายสันติ รมช.คลัง กำกับดูแล กรมศุลกากร กรมธนารักษ์ กรมบัญชีกลางและ ธ.กรุงไทย