รวบหนุ่มแสบ! ค่ายมือถือดัง แอบแฮกบัตรเครดิตลูกค้า รูดของออนไลน์กว่า10 ล้าน

by ThaiQuote, 12 กันยายน 2562

เตือนภัย! ปอศ.แถลงจับหนุ่มพนักงานบริษัทโทรศัพท์ชื่อดัง แอบเอาเลขบัตรเครดิตลูกค้าไปซื้อของออนไลน์แบรนด์เนมต่างประเทศ ก่อนเอามาลงขายในอินเตอร์เน็ต แถมซื้อบ้านและรถยนต์ เสียหายนับ 10 ล้านบาท

วันนี้ (12 ก.ย.62) เมื่อเวลา 13.00 น. พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.ภาดล จันทร์ดอน ผกก.5 บก.ปอศ. พ.ต.ต.กริช วรทัต สว.กก.6 บก.ป. ช่วยราชการ กก.5 บก.ปอศ. พ.ต.ท.ภูวเดช จุลกะเสวี สว.กก.5 บก.ปอศ. และนายพนมศักดิ์ เครืออินทร์ ผู้จัดการฝ่ายป้องกันการทุจริต บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายสาธิต จันทร์โพธิ์ อายุ 29 ปี พนักงานเคาน์เตอร์เซอร์วิส บริษัทโทรศัพท์มือถือค่ายดัง ภายในห้างเซ็นทรัลพระราม 2 อยู่บ้านเลขที่ 16 หมู่ 7 ต.ไร่อ้อย อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ข้อหาปลอมแปลงเอกสารและนำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ผู้อื่นไปใช้ชำระสินค้าโดยมิชอบ พร้อมของกลางสินค้าจำนวนมาก อาทิ รองเท้าอดิดาสรุ่น yeezy boost หลายคู่ รวมราคากว่า 2 หมื่นบาท กระเป๋าแบรนด์เนมหลายใบ นาฬิกาหรูหลายเรือน อาทิ โรเล็กซ์ ทั้งหมดสั่งซื้อทางออนไลน์จากต่างประเทศ รวมมูลค่าเกือบแสนบาท นาฬิกาหรูหลายเรือน รวมมูลค่าหลายแสนบาท จับกุมได้ที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพระราม2

พล.ต.ต.ไมตรี เปิดเผยว่า คดีนี้เริ่มจากสัปดาห์ที่แล้วมีผู้เสียหายหลายรายเข้าแจ้งความว่าถูกคนร้ายนำรหัสบัตรเครดิตใช้สั่งซื้อสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศ อาทิ เว็บไซต์ Amazon และ Ebay รวมมูลค่าเกือบแสนบาท

ด้านพ.ต.อ.ภาดล กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลทราบว่าผู้ต้องหาจะใช้วิธี นำข้อมูลบัตรเครดิตลูกค้าประกอบด้วย เลขบัตรเครดิต วันหมดอายุ เลขCVC หลังบัตร รวมทั้งข้อมูลจากบัตรประชาชนไปซื้อของผ่านเว็บไซต์จากต่างประเทศ เมื่อสินค้าส่งมาถึงบริษัทส่งสินค้าในประเทศไทย จะนำไปส่งให้ลูกค้า แต่ผู้ต้องหาใช้วิธีให้ที่อยู่ปลอมไป เมื่อไม่มีผู้รับ ก็จะตีกลับไปยังศูนย์ส่งสินค้า จากนั้นผู้ต้องหาจะปลอมแปลงเอกสารใบมอบอำนาจ และจ้างวานวินจักรยานยนต์รับจ้างให้ไปรับสินค้ามาแทน ก่อนนำมาส่งให้ผู้ก่อเหตุ เมื่อได้สินค้ามาแล้วจะนำไปปล่อยขายตามกลุ่มต่างๆในเฟซบุ๊กและโลกออนไลน์ ก่อนนำเงินสดไปใช้จ่ายและซื้อสินค้าอย่างอื่นต่อไป

ทั้งนี้ ชุดสืบสวนได้แอบสะกดรอยวิน จยย.รับจ้างที่ถูกจ้างให้ไปรับสินค้า กระทั่งติดตามจับกุมนายสาธิตได้ที่ริมถนนพระราม 2 บริเวณหน้าห้างเซ็นทรัลพระราม 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. เมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา ขยายผลค้นบ้านพักของผู้ต้องหาอีกหลัง เลขที่ 115/97 หมู่ 6 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมืองสมุทรสาคร พบของกลางหลายรายการ

พล.ต.ต.ไมตรี กล่าวว่า นายสาธิต ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เรียนจบปริญญาตรี คณะบริหารคอมพิวเตอร์จาก มหาลัยเอกชนชื่อดัง ในกรุงเทพฯ และ 2 ปีที่ผ่านมา ไปทำงานเป็นพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ โทรศัพท์มือถือค่ายหนึ่ง คอยบริการเก็บเงินค่าบริการค่าโทรศัพท์ของลูกค้า ทำให้สามารถแอบจดและสำเนาเลขบัตรเครดิต และบัตรประชาชนลูกค้าไว้ได้ ต่อมาถูกบริษัทจับได้จนไล่ออก จึงมาทำงานที่บริษัทให้บริการมือถืออีกค่ายได้ 3-4 เดือน ก็ยังนำข้อมูลลูกค้าไปซื้อสินค้าจากต่างประเทศอีก รวมแล้วผู้ต้องหาทำมาแล้ว 3 ปี นำเงินไปซื้อบ้านย่านพระราม 2 ราคา 2 ล้านบาท รถยนต์มินิคูเปอร์ ราคา 2.5 ล้านบาท รถยนต์ฮอนด้าซีอาร์วี ราคา 1.4 ล้านบาท และรถยนต์โตโยต้า ซีเอชอาร์ ราคากว่า 1 ล้านบาท เป็นต้น เจ้าหน้าที่ทำการอายัดทรัพย์สินทั้งหมด พร้อมแจ้งข้อหาปลอมแปลงเอกสาร และนำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ผู้อื่นไปใช้ชำระสินค้าโดยมิชอบ ฯลฯ จากนั้นนำตัวฝากขังศาลอาญาธนบุรีตามกฎหมาย

ขณะที่ นายพนมศักดิ์ กล่าวเสริมว่า วิธีป้องกันไม่ให้ถูกคนร้ายนำเลขบัตรเครดิตไปใช้ เมื่อเราให้บัตรเครดิตกับพนักงานไปรูดซื้อสินค้า จะต้องไม่ให้บัตรเครดิตคลาดสายตา เพื่อไม่ให้คนร้ายจดเลขบนบัตรเครดิตได้ และอีกวิธีนำสติกเกอร์ไปปิดเลข CVC 3 ตัว หลังบัตร คนร้ายจะได้ไม่เห็น และสมัครแอปพลิเคชัน หรือสมัครให้แจ้งเตือนทำข้อความ กับธนาคารต้นสังกัด เมื่อมีการรูดซื้อสินค้าผ่านบัตรเครติดจะมีข้อความแจ้งเตือนเจ้าของบัตรทันที

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
องค์กรชาวพุทธ ร้องตรวจสอบเพลง “นะโม” หมิ่นศาสนา