เพื่อไทยชี้ ‘ประยุทธ์’ไม่รอดอภิปราย ย้ำคนไทย “หมดศรัทธา”

by ThaiQuote, 30 มกราคม 2563

“ผู้กองมาร์ค” ย้ำชัด “ประยุทธ์” ประชาชนหมดศรัทธา ซักฟอกครั้งนี้ไม่รอดแน่ จับตาจะฝืน ได้อีกนานเท่าไหร่

วันที่ 30 มกราคม 256 3- ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช กรรมการกิจการพิเศษ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า วันที่ 31 มกราคม 2563 จะมีการยื่นญัตติไม่ไว้วางใจรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ซึ่งข้อมูลทั้งหมดได้อยู่กับหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่จะมีการหารือร่วมกันครั้งสุดท้ายภายในวันนี้เพื่อสรุปรายชื่อของรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปราย

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายหลักคือ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะตลอดระยะเวลาที่ได้บริหารราชการงานแผ่นดินมาเกือบ 6 ปีนั้น ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนแย่ลงทุกวัน และยังไม่มีนโยบายที่จะสามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างชัดเจน ทั้งปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นมาตลอด 3 ปี

ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ขึ้นมาอีก ก็ยังไม่เห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างทันท่วงที ซึ่งจากรายงานของเว็บไซต์ thewuhanvirus.com รายงานตามสถานการณ์จริง พบว่ามียอดผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 6,169 คน และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 132 คน ซึ่งจำนวนผู้ติดเชื้อของประเทศไทยนั้นอยู่ที่ 14 คน ซึ่งก็ยังคงครองตำแหน่งยอดผู้ติดเชื้อเป็นอันดับที่ 2 รองจากประเทศจีน เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลทำให้หุ้นไทยตกลงกว่า 40 จุด เพราะประชาชนและนักลงทุนขาดความมั่นใจในการบริหารราชการของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งหากประชาชนยังมีความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลสามารถบริหารจัดการได้ ก็มักจะไม่ส่งผลต่อการลงทุน ประกอบกับยังมีข่าวพร้อมหลักฐานออกมานำเสนอไม่เว้นแต่ละวัน กรณีที่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลออกมาเสียบบัตรแทนกัน ซึ่งอาจส่งผลทำให้ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2563 ล่าช้า ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดิน


“อนุสรณ์” ขยี้ ”บิ๊กตู่” งัดแฮชแท็ก ”รัฐบาลเฮงซวย” ขึ้นอันดับ1 ชี้!วิกฤติภาวะผู้นำ

 

โพล ชี้!คนไทย 42% อยากให้เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลทั้งคณะ

 

ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวอีกว่า จากกรณีที่มีคนจำนวนหลายหมื่นคนรวมจากหลายจังหวัด จัดกิจกรรม“วิ่งไล่ลุง”ขึ้นนั้นก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งชี้ว่าคนไทยเบื่อหน่ายการบริหารงานของพล.อ.ประยุทธ์ ขนาดไหน โดยที่ผ่านมาเป็นขาดความรู้ความเข้าใจในการแก้ปัญหาทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญญาเศรษฐกิจได้อย่างจริงจังและตรงจุด จริงอยู่ที่เศรษฐกิจของโลกส่งผลต่อภาคเอกชนทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลาง

“หากรัฐบาลมีการส่งเสริมช่วยเหลืออย่างถูกวิธี เช่น ส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ตกลงมาตลอด 6 ปี ส่งเสริมการส่งออก โดยหาตลาดให้กับบริษัทต่างๆ แก้ไขปัญหาตลาดแรงงาน ซึ่งหากเราดูรายงานจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) จะพบว่าตัวเลขคนตกงานปี 2562 สูงถึง 1.9 แสนคน และหากรัฐบาลยังไม่หาแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด จำนวนคนตกงานในปี 2563 คงสูงมากขึ้นแน่นอน หากพิจารณาว่าเหตุใดปัญหาแรงงานจึงมีความสำคัญ พบว่าหากตลาดนี้มีปัญหา มักจะส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชน และจะส่งผลกลับไปที่ภาคเอกชนทั้งระบบ ทำให้ขาดสภาพคล่องทางเศรษฐกิจ และด้วยเหตุนี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษ จึงได้ตั้งชื่อรัฐบาลชุดนี้ว่า “รัฐบาลสีเทา” และถ้าหากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ โดยปราศจากการทุจริตคอรัปชั่นจริง ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปากกล้าขาสั่นอีกต่อไป” ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าว

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

“ชวน” นั่งกลางวง กมธ.ป.ป.ช. ปล่อยมุกฮา ไม่มี PM2.5