"พระตำหนักธงน้อย” บ้านของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

by ThaiQuote, 1 เมษายน 2563

ที่จังหวัดน่าน ชายขอบทางภาคเหนือ ดินแดนที่ไม่ใช่เส้นทางผ่าน จังหวัดน่านจึงได้เป็นซอกหลืบที่สามารถรักษาอารยธรรมล้านนาและชนเผ่าพื้นเมือง พื้นบ้าน อันเป็นเสน่ห์ที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปทรงตั้งตำหนักน้อยชื่อ “พระตำหนักธงน้อย”

ยังมีคนจำนวนหนึ่งที่ไม่รู้จัก “พระตำหนักธงน้อย” ซึ่งเป็นพระตำหนักส่วนพระองค์ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่าน ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน เป็นตำหนักที่สร้างขึ้นมาหลายปีแล้ว โดยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ และทรงใช้เป็นพระตำหนักประทับเวลาที่เสด็จมาทรงงานในพื้นที่จังหวัดน่านและจังหวัดใกล้เคียงโดยพระองค์จะเสด็จมาประทับอยู่เนืองๆ

เป็นที่ประจักษ์ในสายตาพสกนิกรว่าสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชกรณียกิจนานัปการที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน และอีกสิ่งหนึ่งที่พสกนิกรชาวไทยมักเห็นอยู่เป็นประจำคือพระอิริยาบทที่ไม่ทรงถือพระองค์และทรงเป็นกันเองกับประชาชนตลอดจนผู้ที่มาถวายงาน

การที่พระองค์ได้สร้าง “พระตำหนักธงน้อย” ขึ้นที่จังหวัดน่าน จึงนับเป็นความซาบซึ้งของชาวน่านและชาวล้านนาเป็นที่ยิ่ง จังหวัดน่านถือเป็นหนึ่งในจังหวัดที่รักษาวัฒนธรรมล้านนาอย่างเหนียวแน่น ด้วยเป็นเมืองที่ไม่ใช่เมืองผ่าน ชาวน่านจึงยังรักษาวิถีชีวิตของคนล้านนาได้อย่างเข้มแข็ง เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของเมืองน่าน และนี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงตรัสว่า “นี่คือบ้านหลังที่สองของเรา”

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงตรัสกับชาวน่านว่า พระองค์ทรงรักเมืองน่านและอยากให้คนน่านรักษาศิลปะวัฒนธรรมต่างๆ ไว้คงเดิม นอกจากนี้การเสด็จทรงงานที่ “พระตำหนักธงน้อย” จะเป็นการเสด็จส่วนพระองค์ และการเสด็จมาพำนักทรงงานทุกครั้งจะประทับนานหลายวันและจะทรงเสด็จมางานทุกปีเพื่อมา การทรงงานของพระองค์ล้วนอยู่ในพื้นที่ทุรกันดารเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและการศึกษาของจังหวัดน่านโดยเฉพาะอำเภอบ่อเกลือเฉลิมพระเกียรติ. ร.ร.ตชด.

ในเรื่องของการรับเสด็จจะไม่มีพิธีการมากมาย ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบง่าย การทรงงานร่วมกับข้าราชบริพารของพระองค์จะแย้มพระสรวลรับสั่งงานชัดเจนและทรงบันทึกเตือนความจำทุกครั้งทุกงาน เมื่อพระองค์ทรงมีเวลาว่างก็จะเสด็จทอดพระเนตรตลาดสดเมืองน่านตอนเช้า. นั่งเสวยก๋วยเตี๋ยวร้านปู่ชิน. ข้าวราดแกงร้านมิวๆ. ข้าวมันไก่แบบสามัญชนและเสด็จไปแบบง่ายไม่มีทหารตามเสด็จมากมาย ยิ่งนำมาซึ่งความประทับใจของชาวน่านที่มีต่อพระองค์

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีได้ทรงตั้ง “ร้านภูฟ้า” แล้วทรงนำผลผลิตของราษฏรในโครงการพระราชดำริมาจำหน่ายและที่นำชื่อตำบลเล็กๆ ในอำเภอบ่อเกลือมาตั้งกลายเป็นชื่อที่คนไทยทั่วประเทศรู้จัก “ร้านภูฟ้า” แต่ไม่รู้จักตำบลภูฟ้าอำเภอบ่อเกลือ “ร้านภูฟ้า” มีกำไรปีละประมาณ 12-15 ล้าน เงินกำไรส่วนใหญ่มากกว่าร้อยละ 70 นำมาใช้ในโครงการพระราชดำริในจังหวัดน่านเช่นจ่ายค่าอาหารเพลให้เณรที่เป็นนักเรียนในโรงเรียนปริยัติธรรมทั้ง12โรงรูปละ10 บาท/คน/วัน. จ่ายเป็นค่ารถให้เณรที่เรียนโรงเรียนปริยัติธรรมบ่อหลวงที่วัดอยู่ห่างโรงเรีย นเดือนละ20,000 บาท

หลายครั้งที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงตรัสว่า “รักเมืองน่าน” และของให้คนน่านรักษาวัฒนธรรมอย่างนี้ไว้นานๆ และอีกหนึ่งความสุขและความประทับใจของชาวน่านก็คือการที่พระองค์ทรงตรัสว่า “น่านคือบ้านหลังที่สอง” ปัจจุบันพระตำหนักหลังนี้อยู่ในการดูแลของทางจังหวัดน่าน และไม่เปิดให้ประชาชนเข้าชม

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ