ทักษิณ ชินวัตร เปิดใจข้ามโลกถึงประเด็นโควิด-19 ในไทย มองรัฐต้องคลายล็อก อย่าเอาเศรษฐกิจชาติไปแลกกับเรื่องที่ไม่รู้จริง พ้อ "ผมคือคนไทยที่เขาไม่ให้เป็นคนไทย"

ค่ำวันที่ 13 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา การเมืองไทยก็ได้เห็น ได้ฟัง ได้วิเคราะห์ตาม กับบทสัมภาษณ์ความเห็นของอดีตนายกรัฐมนตรีของเมืองไทยที่หลบหนีคดีความในต่างประเทศ "ทักษิณ ชินวัตร" หลังจากที่สำนักข่าวบีบีซี ประเทศไทย ไปสัมภาษณ์นายทักษิณที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ผ่านระบบยูทูปให้ทั้งโลกได้เห็น

หลากหลายคำถามพุ่งเป้าไปที่ประเด็นสำคัญของโลก นั่นคือสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งผู้สัมภาษณ์ได้ถามนายทักษิณถึงประเด็นดังกล่าวที่เชื่อมโยงกับประเทศไทย แต่คำสัมภาษณ์ถูกเปิดหัวด้วยเรื่องทางการเมือง ซึ่งนายทักษิณ ปฏิเสธที่จะพูดถึงเรื่องนี้ในทันที

ก่อนที่บทสัมภาษณ์นายทักษิณจะนำเข้าไปสู่ประเด็นโควิด-19 ในประเทศไทย ซึ่งเขาระบุในตอนหนึ่งว่า ระบบสาธารณสุขในประเทศไทยดีอย่างมาก มีความแข็งแกร่ง เราจะเห็นได้ว่ามีคนป่วยติดเชื้อน้อย แต่เรารักษาหายได้มาก และมีคนตายจำนวนน้อยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยมาถึงจุดที่ควรจะคลายล็อกดาวน์กันได้แล้ว เพราะระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยคือระบบใหญ่ เมื่อปิดกันไปทุกฝ่ายเดือดร้อนกันหมด ทั้งภาคครัวเรือน ประชาชน อุตสาหกรรม และค่อนข้างจะเสียหายหนักหากเราเลือกแลกกับสิ่งที่เรายังไม่รู้จริง

"ผมมองว่ารัฐบาลต้องเร่งคลายล็อกดาวน์ และไปเน้นให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับการใช้ชีวิต ยกตัวอย่างที่ไต้หวันเขาทำกัน ประชาชนมีวินัยและให้ความร่วมมืออย่างดีมาก ผลคือพวกเขารักษาหาย ตายน้อย ซึ่งเรื่องนี้ตรงกันกับบ้านเราที่วางระบบกันมาดี แต่จากนี้ต้องให้คนไทยเข้าใจเกี่ยวกับสุขอนามัยให้มากขึ้น เพื่อให้พวกเขาได้ใช้ป้องกันตัว คนไม่แข็งแรงไม่ควรออกไปไหน คนแข็งแรงไปได้ไม่เป็นไรเพราะมีภูมิต้านทาน คนที่มีภูมิต้านทานจะไม่ติดไวรัสตัวนี้" นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ ขยายความถึงการคลายล็อกดาวน์ เขายกตัวอย่างประชากรโลกที่มีอยู่หลายพันล้านคน แต่ติดเชื้อโควิด-19 อยู่ราว 3 ล้านคน เมื่อเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ อดีตนายกฯ ผู้นี้มองว่าเป็นสัดส่วนที่ต่ำอย่างมาก และประเทศไทยกำลังเอาเศรษฐกิจไปแลกกับเรื่องนี้ ซึ่งมองว่าไม่คุ้มค่า

"ผมว่ามันไม่คุ้มค่า โดยเฉพาะกับประเทศที่กำลังพัฒนาไม่มีแรงอุดหนุนอะไรมากเหมือนกับประเทศพัฒนาแล้ว ผมถึงมองว่าไม่คุ้ม หากยังปิดประเทศ และล็อกดาวน์กันอยู่คนอาจจะไม่ติดเชื้อโควิด-19 แต่ถ้าคนข้างล่างอดตายกันขึ้นมาล่ะ เราจะทำกันอย่างไร" นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ ยังระบุถึงการช่วยเหลือจากตัวเองไปสู่คนไทยในช่วงที่วิกฤตโควิด-19 ในขณะนี้ เขาระบุว่า คงไม่สามารถไปช่วยคนนับล้านๆ คนได้ แต่ก็ช่วยอย่างเต็มที่ตามที่สามารถ ทั้งการบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ ไปโรงพยาบาลแห่งต่างๆ ส่วนชาวบ้านก็บริจาคให้กับกลุ่มคนบ้างที่อยากไปช่วยประชาชนระดับล่าง

"ผมก็ทำได้แค่นี้แหล่ะครับ" เสียงของนายทักษิณ ถึงประะเด็นนี้

อย่างไรก็ตาม นายทักษิณ ไม่อาจปฏิเสธคำถามในแง่ความเห็นเกี่ยวกับรัฐบาลชุดปัจจุบันของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถึงการรับมือโควิด-19 เขาระบุว่า ไม่กล้าไปวิจารณ์อะไร เพราะรัฐบาลก็คือคนที่กำลังทำงานอยู่

"คิดว่ารัฐบาลเป็นคนทำงาน เขาคงตั้งใจอย่างเต็มที่ แต่ที่ผมเห็นว่าสำคัญคือการให้ความรู้กับประชาชน ประชาชนต้องรู้เท่ากันกับรัฐบาล เพราะหากรู้เท่าทันกัน คิดอะไรมันก็จะเป็นภาพเดียวกัน ซึ่งเรื่องนี้สำคัญอย่างมาก" นายทักษิณ กล่าว

คำถามสำคัญอีกอย่างที่เหมือนจะเป็นคำถามง่ายๆ แต่นายทักษิณ ถูกถามอยู่บ่อยครั้งนับตั้งแต่ไปใช้ชีวิตในต่างแดน นั่นคือ "ต้องการกลับบ้านหรือเปล่า"

"เราก็รู้ๆ กันอยู่ ว่าเรื่องนี้มันมีเงื่อนไข แต่คนที่รักประชาธิปไตย จะไปอยู่ตรงไหนก็ได้ อีกอย่าง ในทุกวันนี้ ผมยังเป็นคนไทยที่เขาไม่ให้เป็นคนไทยอยู่แล้ว พาสปอร์ตไทยก็ไม่มี ก็ทำหน้าที่ในฐานะของคนที่เคยเป็นนายกรัฐมนตรี ยังมีคนที่บ้านที่สนับสนุนเรา เราก็ห่วงเขา ก็เท่านั้นเอง" นายทักษิณ ทิ้งท้าย

หมายเหตุ ข้อมูลบางส่วนจากสำนักข่าวบีบีซี ประเทศไทย

ข่าวที่น่าสนใจ

• “บิ๊กตู่” พอใจโควิดเป็นศูนย์ ไร้ผู้ติดเชื้อใหม่ ย้ำทุกคนต้องป้องกันตัวเคร่งครัด
• ข่าวปลอมลือ "อุตตม" พร้อมไขก็อกพลังประชารัฐ แหล่งข่าวยันคนในทำลายกันเอง