สรุปประเด็นคดี “แม่ปุ๊ก” ฉ้อโกง-วางยาลูกหวังเงินบริจาค?

by ThaiQuote, 25 พฤษภาคม 2563

เก็บทุกประเด็น!! คดีร้อนสังคมจับตา “แม่ปุ๊ก” จากแม่เลี้ยงเดี่ยวขายของออนไลน์ สู่อาชญากรรมหนัก “วางยาลูก” เรียกความสงสาร หวังเงินบริจาค

กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมากกับคดี “แม่ปุ๊ก” หรือ น.ส.นิษฐา วงวาล อายุ 29 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาคดีผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา จากการที่ในโลกโซเชียลตั้งข้อสงสัย ว่าหญิงสาวรายนี้อาจกระทำการวางยาเด็ก ซึ่งเป็นลูกของตัวเอง เพื่อเรียกความสงสารในการขายของ รวมทั้งรับเงินบริจาค

โดยเรื่องราวทั้งที่เกิดขึ้นเริ่มจาก วันที่ 22 พ.ค.63 ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ได้แถลงรายงานการจับกุม น.ส.นิษฐา หลังได้รับการร้องเรียนว่า ผู้ต้องหารายนี้มีการพฤติการณ์ฉ้อโกงประชาชน โดยการโพสต์ข้อความเปิดรับบริจาคเงินและหลอกขายสินค้า เช่น หน้ากากอนามัยผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ อ้างว่าจะนำเงินไปรักษาลูก ซึ่งป่วยเป็นโรคประหลาด จนมีคนหลงเชื่อ จ่ายเงินสั่งสินค้าและบริจาคเงินช่วยเหลือกว่า 3,000 ราย มีการโอนเงินกว่า 8,000 ครั้ง รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท

และในคดีนี้ พบว่ามีรายละเอียดที่น่าสนใจและสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งจากประวัติของผู้ต้องหา หรือแม่ปุ๊ก ที่เป็นแม่ค้าออนไลน์ตั้งแต่ปี 2560 เป็นที่รู้จักบนโลกออนไลน์ ในกลุ่มขายของและกลุ่มของแม่และเด็ก ได้ระบุว่าตัวเองเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว อยู่ที่ดอนเมือง กรุงเทพฯ เลี้ยงลูกตามลำพังเพราะถูกสามีทิ้งไป อยู่กับลูก 2 คนโตเป็นชื่อ “น้องอมยิ้ม” เป็นผู้หญิง อายุ 3 ขวบ (อายุขณะนั้น) คนเล็กเป็นผู้ชายชื่อ “น้องอิ่มบุญ” ปัจจุบันอายุ 3 ขวบ


เดือน ธ.ค.63 ม 2560 แม่ปุ๊กระบุว่า น้องอมยิ้มป่วย โดยมีอาการหน้าตาบวม ปากคอบวม และอาเจียน เจ้าตัวบอกว่าป่วยเป็น "โรคเรนินโนมาห์" โดยอ้างจากแพทย์ ซึ่งโรคประหลาด มีเพียง 1 ในล้านเท่านั้นที่จะเป็น และต้องใช้เงินในการรักษาเป็นจำนวนมาก

ช่วงเดือน มี.ค.62 แม่ปุ๊ก โพสต์ขายของต่างๆ เพื่อเป็นค่ารักษาลูกสาว พร้อมกับให้หมายเลขบัญชี สำหรับบริจาคช่วยค่ารักษา ซึ่งเจ้าตัวจะคอยอัปเดตอาการของน้องอมยิ้มลงโซเชียลอยู่ตลอด โดยได้รับกำลังใจจากชาวเน็ต รวมทั้งเงินบริจาค นอกจากนี้ยังมีการส่งต่อเรื่องราว จนเกิดโครงการ "ช่วยหนูยิ้มกลับมายิ้มอีกครั้ง" มีการผลิตสินค้ามาขาย นำรายได้มาช่วยเหลือน้อง รวมทั้งเงินบริจาครวมแล้วเป็นเงินล้านบาท

จนถึง ส.ค.63 น้องอมยิ้มได้เสียชีวิตด้วยภาวะไตวายเฉียบพลัน โดยแม่ปุ๊ก ได้ไลฟ์ขณะอยู่กับน้องจนวินาทีสุดท้ายก่อนสิ้นลม ซึ่งเป็นภาพที่สะเทือนใจกับผู้ที่ได้รับรู้เรื่องราวเป็นอย่างมาก

หลังการเสียชีวิตของน้องอมยิ้ม ชาวเน็ตได้มีการตั้งสังเกตถึงพฤติกรรมของแม่ปุ๊ก ที่พบว่าเมื่อสั่งซื้อของไปแล้วและโอนเงิน แต่ไม่ได้ของ พอทวงถามก็ได้รับการบ่ายเบี่ยง หลายคนไม่ติดเอาความ เพราะสงสารและถือว่าเป็นการทำบุญ

ต้นปี 2653 แม่ปุ๊กได้โพสต์ภาพลูกชายคนเล็ก “น้องอิ่มบุญ” ระบุว่ามีอาการป่วย คืออาเจียนเป็นเลือด ตัวบวม อาการเช่นเดียวกับน้องอมยิ้ม พร้อมขายของและขอรับเงินบริจาค มีคนจำนวนมากสงสารและให้ความช่วยเหลือ แต่ก็มีอีกไม่น้อยที่เริ่มสงสัยในพฤติกรรม

พฤติกรรมของแม่ปุ๊กเริ่มน่าสงสัยมากขึ้น เมื่อพบว่ามีการเบี้ยวไม่ส่งสินค้าอยู่บ่อยครั้ง และยังมีพฤติกรรมเดี๋ยวปิด-เดี๋ยวเปิดบัญชีเฟซบุ๊ก นอกจากนี้ได้มีผู้หวังดีแนะนำให้พาน้องอิ่มบุญไปเข้ารับการรักษาเฉพาะทาง แต่เจ้าตัวไม่สนใจ จนเป็นที่มาของความคิดที่ว่า เจ้าตัวอาจวางยาลูกของตัวเอง เพื่อหวังเงินบริจาค

วันที่ 24 เม.ย.63 แม่ปุ๊กได้เข้าแจ้งความกับผู้ใช้เฟซบุ๊ก 2 ราย ที่กล่าวหาว่าวางยาลูกเพื่อรับเงินบริจาค แต่ขณะเดียวกันก็ได้มีคนไปแจ้งความตัวเธอเช่นกัน ในคดีฉ้อโกง เนื่องจากโอนเงินซื้อสินค้าแล้วแต่ไม่ได้รับของ

จากนั้นเริ่มมีกระแสออกมาว่า ทั้งน้องอมยิ้มและน้องอิ่มบุญ ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของแม่ปุ๊ก ขณะที่แพทย์เริ่มสงสัยอาการป่วยของน้องอิ่มบุญ และมีการร่างกายอย่างละเอียด พบสารเคมีประเภทออกฤทธิ์เป็นกรด คล้ายกับสารเคมีที่เป็นส่วนผสมของน้ำยาล้างห้องน้ำ หรือน้ำยาซักฟอก ในร่างกาย มีแผลในปาก ลำไส้ และกระเพาะอาหาร

ทีมแพทย์นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจ และมีการสืบสวนเพิ่มเติมจนพบว่า “น้องอมยิ้ม” ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของแม่ปุ๊ก เป็นเด็กที่ขอมาอุปถัมภ์เลี้ยงดู และไม่รู้ว่าพ่อแม่เด็กที่แท้จริงเป็นใคร รวมทั้งอาการป่วยของเด็กทั้งสองคนที่คล้ายกันจึงมีความน่าสงสัยเป็นอย่างยิ่ง จากนั้นจึงมีการพยายามรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ จนนำไปสู่การออกหมายจับ

แม่ปุ๊ก ถูกแจ้งข้อหา รับไว้ซึ่งเด็กโดยมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย, ฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น และฉ้อโกงประชาชน

ผู้ต้องหา “แม่ปุ๊ก” ให้การรับสารภาพข้อหาฉ้อโกงประชาชน เพราะไม่ได้มีการส่งสินค้าให้กับผู้เสียหาย แต่ยืนกรานปฏิเสธ ระบุว่าไม่ได้มีส่วนทำให้เด็กทั้ง 2 คนป่วยหนักและเสียชีวิต

สำหรับแม่ปุ๊ก พบว่าก่อนหน้านี้เคยเปลี่ยนชื่อมาแล้วทั้งหมด 6 ครั้ง ได้แก่ 1.นิษฐา วัฒนกุลทิตย์ 2.นิษฐา จิตรำลึก 3.ภัทธานิษฐ์ จิตรำลึก 4.ภัทธานิษฐ์ รักษ์กุลเจตน์ 5.ณัฐติวรรณ จิตรำลึก 6. นิษฐา วงวาล (ชื่อปัจจุบัน)

ตำรวจกองปราบตรวจสอบบัญชีช่วยเหลือน้องอมยิ้ม พบว่า มีเงินบริจาคเข้ามาประมาณ 10 ล้านบาท และมีเงินหมุนเวียนราว 20 ล้านบาท

แม่ตัวจริงของน้องอมยิ้ม ทราบในภายหลังว่าชื่อ “นางเอม” เป็นเจ้าของบัญชีที่แม่ปุ๊กใช้รับเงิน โดยแม่เอมมีลูก 3 คน ให้คนอื่นเลี้ยงให้หมด ล่าสุดวันที่ 24 พ.ค.63 มีคนเห็นขนของขึ้นรถออกจากบ้านที่ จ.นครสวรรค์ ไปแล้ว

ขณะที่เพื่อนบ้านของ แม่ปุ๊ก กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เห็นแม่ปุ๊กดูแลเด็กทั้งสองดี ไม่พบพฤติกรรมทารุณกรรม ไม่ทราบเรื่องการวางยา เห็นเพียงว่าเด็กทั้งคู่ไม่สบายและต้องไปโรงพยาบาลอยู่บ่อยๆ

อาการล่าสุดของน้องอิ่มบุญตอนนี้ปลอดภัย สุขภาพแข็งแรงดี มีแพทย์และมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) คอยดูแลทั้งร่างกายและและสภาพจิตใจอย่างใกล้ชิด ส่วนประเด็นว่าน้องอิ่มบุญเป็นลูกของใครนั้น อยู่ระหว่างการรอผลตรวจ


ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

“บรรยิน” กับพวก ปฏิเสธอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา ศาลสั่งพิจารณาลับ มิ.ย.นี้

สรรพากรเร่งช่วยคนไทย ชู 4 มาตรการภาษี “เลื่อน-คืน-ลด-จูงใจ”