“5 องค์กรวิชาชีพสื่อ” ออกจดหมายเปิดผนึกถึงสื่อทุกแขนง เรื่อง “การนำเสนอข่าวกรณีหญิงนำเด็กมาหาประโยชน์” กำหนด 3 แนวทางนำเสนอข่าว งดเปิดเผยชื่อ "ลูกแม่ปุ๊ก" หวังคุ้มครองอนาคตเด็ก

วันนี้ (26 พ.ค.) 5 องค์กรวิชาชีพสื่อ ออกจดหมายเปิดผนึกถึงสื่อมวลชน เรื่อง การนำเสนอข่าวกรณีหญิงนำเด็กมาหาประโยชน์ โดยมีใจความว่า

ตามที่มีสื่อมวลชนหลายแขนงนำเสนอข่าว “แม่ปุ๊ก” ที่แสดงตัวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว วัย 29 ปี มีลูกน้อย 2 คน อายุ 2 ขวบและ 4 ขวบ ซึ่งอ้างว่าป่วยเป็นโรคประหลาด

โดยได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความเพื่อหลอกให้คนซื้อสินค้าและขอรับเงินบริจาค จนมีประชาชนหลงเชื่อจำนวนมาก อย่างไรก็ตามพบว่าข่าวที่ปรากฏในหลายสื่อมีการเปิดเผยชื่อของเด็ก ซึ่งแม้ว่าจะเป็นชื่อเล่น แต่อาจนำไปสู่การที่ทำให้คนในชุมชน หรือแม้แต่สาธารณชน ทราบถึงตัวตนของเด็ก และอาจมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของเด็กในอนาคต

สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ในฐานะองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน จึงมีความเห็นร่วมกัน

โดย ระบุว่า เพื่อให้การดำเนินงานของสื่อมวลชนเป็นไปตามหลักจริยธรรมแห่งวิชาชีพ และแนวทางการปฏิบัติงานของสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวเด็ก และเยาวชน จึงขอความร่วมมือมายังสื่อมวลชนทั้งที่เป็นสมาชิก และไม่ได้เป็นสมาชิก เพื่อดำเนินการดังต่อไปนี้

1.งดเว้นการเปิดเผยชื่อ ชื่อสกุล ภูมิลำเนาที่อยู่ของเด็ก รวมทั้งชื่อ ชื่อสกุล และภูมิลำเนาที่อยู่ของบิดา มารดา หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับเด็ก รวมทั้งสิ่งที่ทำให้รู้หรือสามารถรู้ถึงตัวเด็กได้ โดยเจตนาที่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่จิตใจ ชื่อเสียงเกียรติคุณ หรือสิทธิประโยชน์อื่นใดของเด็ก

2.ขอให้องค์กรสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวบนช่องทางออนไลน์ ลบข่าวหรือลบชื่อเด็กรวมถึงรายละเอียดอื่นๆ ที่สามารถทำให้สาธารณชนรวมถึงผู้เกี่ยวข้องต่างๆ สามารถทราบถึงอัตลักษณ์ของเด็ก ออกจากระบบฐานข้อมูลข่าวและพื้นที่สื่อสังคมออนไลน์ทุกช่องทาง เพื่อมิให้สามารถเข้าถึงได้ในอนาคต

3.ยุติการนำเสนอข่าวดังกล่าวในประเด็นที่จะกระทบกระเทือนต่อจิตใจและการอยู่ร่วมในสังคมของเด็กในระยะยาว และหากจำเป็นต้องเสนอข่าว ขอให้นำเสนอข่าวเฉพาะในส่วนที่เป็นความคืบหน้าทางคดีที่ได้รับการเปิดเผยอย่างเป็นทางการจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น

ทั้งนี้ องค์กรวิชาชีพสื่อทั้ง 5 องค์กร หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือด้วยดีจากสื่อมวลชนทุกแขนง เพื่อให้การทำหน้าที่สื่อมวลชนเป็นไปตามกรอบจริยธรรมแห่งวิชาชีพ เคารพกฎหมาย ตลอดจนยึดมั่นในหลักสิทธิเด็ก และเยาวชนโดยเคร่งครัดต่อไป

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

• จ้างงานด่วน “45 วัน” เฟส 2 เรียกผู้ที่ขึ้นบัญชีไว้เพิ่มอีก 400 คน
• สมอ. บุกจับ “น้ำดื่มซีพีเฟรชมาร์ท” พบไม่ได้รับอนุญาตเกือบ 3,000 ขวด