“กรมทางหลวง” สั่งแก้ด่วน ศาลาริมทางรับ-ส่งโดยสาร หลังถูกจวกยับ หลบแดด-ฝนไม่ได้

by ThaiQuote, 14 มิถุนายน 2563

อธิบดีกรมทางหลวง สั่งแก้ไขด่วน ศาลารอรถโดยสาร ทางหลวงหมายเลข 220 ศรีสะเกษ-อ.วังหิน หลังชาวเน็ต จวกยับใช้ประโยชน์ไม่ได้จริง จนชาวบ้านต้องลงขัน สร้างขึ้นมาใช้กันเอง

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ภาพศาลาที่พักริมทาง ริมถนน 4 เลน สายศรีสะเกษ-ขุขันธ์ พร้อมระบุข้อความว่า
“เพื่อนๆ คิดอย่างไร ทำให้มีผู้ให้มีชาวเน็ตเข้าไปแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก ถึงความคุ้มค่าและประโยชน์ใช้สอย เช่น ดูดีแต่ใช้ประโยชน์หลบแดดหลบฝนไม่ได้”

โดย ศาลาดังกล่าว วัสดุส่วนใหญ่ทำจากเหล็กและสแตนเลส หลังคามีลักษณะสูงโปร่ง ที่นั่งพักเป็นแผ่นเหล็กยาวประมาณ 3 เมตร ซึ่งโครงสร้างดังกล่าวไม่สามารถกันฝนและกันแดดช่วงเช้าและบ่ายได้ ซึ่งแผ่นเหล็กที่นั่งพักผู้โดยสารเมื่อถูกแดดส่องเป็นเวลานานจะร้อนจัดไม่สามารถนั่งพักนอนพักได้ ชาวบ้านในพื้นที่จึงพากันบริจาคเงินร่วมกันสร้างศาลาพักผู้โดยสารขึ้นมาเอง เพื่อใช้รอรถหลบแดดหลบฝน

ขณะที่ ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ตนมีความคิดเห็นว่า ที่พักผู้โดยสารที่สร้างใหม่นี้ ใช้ประโยชน์ไม่ค่อยได้ ฝนตกก็อาศัยหลบฝนไม่ได้เลย เวลาแดดออกก็อาศัยหลบร้อยไม่ได้ จะใช้หลบแดดได้เวลาเดียวคือเวลาเที่ยง เพราะพระอาทิตย์ตั้งตรงศีรษะ ชาวบ้านและผู้ขับขี่รถผ่านไปผ่านมา จะจอดพักผ่อนก็อาศัยไม่ได้ ฝนตกยิ่งใช้หลบฝนไม่ได้เลย ซึ่งตนคิดว่าศาลาพักผู้โดยสารแบบเดิมดีกว่า เพราะว่ามีขนาดใหญ่หลบแดดหลบฝนได้จริง ถึงแม้จะไม่สวยงามเท่าหลังใหม่ แต่ก็ดีกว่าใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลย


ต่อมา ชาวบ้านในพื้นที่ไม่สามารถที่จะทนความเดือดร้อนจากการที่ไม่มีที่พักรอรถโดยสารได้ จึงได้ร่วมกันลงขันบริจาคเงินทั้งหมู่บ้านระดมทุนในการก่อสร้างศาลาพักผู้โดยสารขึ้นมาเอง มูลค่า 19,000 บาท เพื่อเป็นจุดพักรอรถและจุดพักสำหรับผู้สัญจรผ่านไปมาได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน

โดยชาวบ้าน ได้ฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ปรับปรุงแก้ไขศาลาพักผู้โดยสารให้เข้ากับสภาพพื้นที่และใช้ประโยชน์ได้จริง ไม่ใช่แค่สวยงามแต่ไร้ค่าไม่มีประโยชน์ ไม่สามารถใช้งานได้จริง

ด้าน นายสิริ สิงหรัตน์ นายช่างโยธาชำนาญงาน สำนักก่อสร้างทางที่ 2 กรมทางหลวง สาย ศรีสะเกษ-อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ถนนสายดังกล่าวสำนักสำรวจและออกแบบ กรมทางหลวง เป็นผู้ออกแบบในการก่อสร้างทั้งหมด รวมทั้งศาลาพักริมทาง ใช้งบประมาณในการก่อสร้างกว่า 518 ล้านบาท

“ ศาลาพักริมทางรูปแบบเดิมเป็นศาลาไม้ 4 เสา หลังค่อนข้างใหญ่ แต่ด้วยระยะเวลานานหลายปี จึงเริ่มทรุดโทรมมีปลวกขึ้นทำให้ศาลาชำรุดทรุดตัวลง ประกอบกับยุคสมัยเปลี่ยนไป ทางสำนักสำรวจและออกแบบ จึงได้มีการออกแบบศาลาพักริมทางในรูปแบบใหม่ ให้ใช้งานได้นานขึ้น แข็งแรงและสวยงามมากขึ้น” นายสิริ กล่าว


ล่าสุด นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า หลังมีการเผยแพร่ข่าวจากสื่อมวลชน ที่อ้างถึงข้อมูลที่มีการแชร์จากผู้ใช้ Social Media เป็นภาพงานก่อสร้างศาลาริมทาง จุดจอดรถโดยสาร (Bus Stop) ทางหลวงหมายเลข 220 ตอน ศรีษะเกษ - อ.วังหิน โดยจากการตรวจสอบข้อมูลจากสำนักก่อสร้างทางที่ 2 ทราบว่า ศาลาริมทางดังกล่าว อยู่ในโครงการก่อสร้างขยายทางเป็น 4 ช่องจราจร ทางหลวงหมายเลข 220 จริง ซึ่งงานก่อสร้าง เริ่มต้นสัญญาตั้งแต่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 งานแล้วเสร็จ 12 มิถุนายน 2563 (เสร็จก่อนสัญญา) และได้ส่งมอบพื้นที่ให้แขวงทางหลวงศรีสะเกษที่ 1 ดูแลรักษาต่อไป

ส่วนสาเหตุที่มีการก่อสร้างศาลาริมทางในลักษณะดังกล่าว มีการชี้แจงว่า ถนนสายดังกล่าว แบ่งรูปแบบการก่อสร้างเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงที่มีเขตทาง 30 เมตร และ 40 เมตร โดยช่วงเขตทาง 30 เมตร เมื่อก่อสร้างเป็นทางหลวง 4 ช่องจราจร เกาะกลางแบบยกกว้าง 3.00 เมตร แล้วจะเหลือพื้นที่จากไหล่ทางจนถึงเขตทางหลวงเพียง 4.00 เมตร ซึ่งไม่สามารถก่อสร้างช่องจอดรถ และศาลาทางหลวงแบบเดิมที่มีความกว้างประมาณ 6.25 เมตร ได้ จึงจำเป็นต้องก่อสร้างที่พักผู้โดยสารเป็นรูปแบบตามที่ปรากฏอยู่ โดยมีความกว้างประมาณ 2.50 เมตร เท่านั้น เพื่อให้ไม่เลยออกนอกเขตทาง

ส่วนช่วงเขตทาง 40 เมตร เมื่อขยายถนนเป็น 4 ช่องจราจร เกาะกลางแบบยกกว้าง 4.20 เมตร พร้อมช่องจอดรถโดยสาร เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการจอดรับผู้โดยสารแล้ว จะเหลือพื้นที่ก่อสร้างที่พักผู้โดยสาร กว้างประมาณ 4.40 ม. ซึ่งก็ไม่สามารถก่อสร้างศาลาทางหลวงแบบเดิมที่มีความกว้างประมาณ 6.25 ม. ได้เช่นกัน

"ผมได้สั่งแก้ไขปรับปรุงแล้ว เพื่อให้ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ โดยให้มีการทำกันสาดเพิ่มเติมทั้งด้านหน้า ด้านหลัง เพื่อกันแดดกันฝน รวมทั้งการปรับปรุงพื้นที่โดยรอบให้ดูร่มรื่นขึ้น" นายสราวุธกล่าว

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่มีการแชร์ภาพศาลา จุดรอรถโดยสารของหมู่บ้าน ที่มีการก่อสร้างใหม่นั้น จุดดังกล่าวเดิมมีศาลาที่ใช้งานมานานกว่า 10 ปี แต่ช่วงเดือนพฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา ศาลาหลังเดิมของชาวบ้านโดนลมพายุพัดพังลงมา ชาวบ้านจึงร่วมกันสร้างศาลาขึ้นมาใหม่แทนหลังเดิมที่พังลง

 

ข่าวที่น่าสนใจ

“ปักกิ่ง” สั่งห้างฯ-ร้าน หยุดขายแซลมอน หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 บนเขียงแล่ปลา

“นายกตุ้ย” โพสต์กติกาใหม่เที่ยวบางแสน แม่ค้าชายหาด ห้ามตื๊อ-กดดัน นักท่องเที่ยว