สู่โฉมใหม่! ดร.ธรณ์ ชี้ “พัทยา” เดินหน้าสู่โฉมใหม่ New normal รูปแบบ green/sustainable tourism แหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนรอบด้าน

วันที่ 24 มิ.ย.63 ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม แชร์เรื่องราวผ่านเฟซบุ๊ก “Thon Thamrongnawasawat” ระบุว่า นี่คือจังหวะสำคัญสุดของการเปลี่ยนพัทยาสู่โฉมใหม่ และคาดหวังถึง New normal ที่จะเป็นการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ทั้งธรรมชาติ เศรษฐกิจ และผู้คน

โดยโพสต์ดังกล่าวระบุว่า

“ปิดจ๊อบเมืองพัทยา ด้วยการรายงานสิ่งที่สำรวจ/พูดคุยมาให้เพื่อนธรณ์ทราบครับ

ความหวัง new normal ผมคิดว่าพอเป็นไปได้ที่พัทยาจะเปลี่ยนไปสู่แนว green/sustainable tourism

ช่วงนี้คนเงียบมาก เศรษฐกิจชะงัก ซึ่งก็เป็นปรกติของเมืองท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก

โรงแรมหลายแห่งปิดปรับปรุง บางแห่งเปิดก็พอมีคนเสาร์อาทิตย์ แต่เข้าวันธรรมดาแล้วเงียบ

ปลดล็อกส่งเสริมท่องเที่ยวไทย คงแค่พอประทัง แต่กิจการที่อิงชาวต่างชาติก็คงต้องเงียบต่อไป คนที่มาทำงานกลับบ้านไปเยอะมาก

ช่วงนี้เมืองพัทยาเริ่มทำอะไรที่ดีขึ้น เช่น มีรถเก็บขยะวิ่งประจำ เปิดเพลงพี่เบิร์ดหาดทรายสายลม เก็บขยะตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะถนนเลียบหาด

เดินไปมาตามหาด/ฟุตบาท แทบไม่มีขยะ จะมีบ้างก็ช่วงเสาร์อาทิตย์ที่คนมามากหน่อย สรุปแล้วคนพัทยาดูแลขยะใช้ได้ (พูดถึงถนนเลียบหาดนะครับ ที่อื่นไม่ได้ไป)

มีเรือคอยวิ่งตรวจความเรียบร้อยในทะเล ในภาพเห็นเรือวิ่งอยู่ลำเดียว นั่นแหละครับคือเรือของเมืองพัทยา

หาดทรายกลายเป็นจุดเด่น คนมาใช้ประโยชน์เยอะ เนื่องจากหาดกว้างขึ้น คนเลยกระจาย ไม่แออัด

ร่ม/เตียงถูกจัดระเบียบรวมกันเป็นจุดๆ อันนี้ดีมาก อยากให้เป็นเช่นนี้ไปตลอด

เห็นโครงการป้องกันน้ำท่วมถนนริมหาด มูลค่า 90+ ล้าน มีรับประกันไม่ชำรุด 2 ปี หวังว่าคงจะช่วยได้ ตอนนี้เริ่มเข้าหน้าฝน อีกไม่นานคงรู้กัน

ไฟสาธารณะสว่างดีมาก เดินบนหาดมีผู้คนมานั่งกระจายเป็นหย่อมๆ ถึงสี่ห้าทุ่มยังไม่น่ากลัว รู้สึกปลอดภัยดีครับ

เข้าร้านต่างๆ ที่พอเปิดบ้างก็ใช้ไทยชนะ เดินเข้าห้างก็ดี ตอนนี้โปรลดเพียบ ส่วนใหญ่มาจัดลานกลางห้าง เพราะคนไม่ค่อยเข้าร้าน

บางห้าง เช่น รอยัลการ์เดน เงียบมากครับ ขนาดแมคโดนัลด์ยังปิด

สถานการณ์แบบนี้คงเป็นไปเรื่อย แม้คนไทยเที่ยวแล้วแต่ก็ยังได้แค่ประคอง ต้องรอให้ต่างชาติกลับมา

จะให้มาแบบฟู่ฟ่าเหมือนก่อนโควิด คิดว่าคงเป็นปี เพราะช่วงปลายปีคงมานิดหน่อยเท่านั้น

หลายโรงแรมออกโปรลดที่ใช้ได้ถึงกลางปีหน้า เชื่อว่าคงมองภาพคล้ายกัน

ช่วงนี้อาจมีการเปลี่ยนมือที่ดิน/โครงการต่างๆ และหลายโครงการคงออกแบบใหม่/เปลี่ยนแปลงปรับปรุง ซึ่งอาจเห็นความกรีนมากขึ้น ลดความแออัด

รถไฟไฮสปีดเชื่อมต่อรถโมโนเรลเข้าเมือง จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญอีกครั้งของพัทยา ซึ่งน่าจะเสร็จปี 68-69

เพราะฉะนั้น จากช่วงนี้ไปจนถึงอีก 5 ปีข้างหน้า จะเป็นช่วงปรับตัวของพัทยา

หากทำให้ดี วางแผนให้รอบคอบ ค่อยๆ ปรับไปตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่ค่อยๆ เพิ่ม พัทยาจะกลายเป็นนิวนอร์มัลของเอเชียแปซิฟิกได้

ยังอยากเห็นพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้น แต่พื้นที่ของเมืองน่าจะไม่เหลือ อาจต้องใช้การเจรจากับเอกชน

มีพื้นที่ว่างแปลงใหญ่ๆ เหลืออยู่หลายแห่ง หากคุยกัน ขอให้พัฒนาแบบเติมต้นไม้หรืออาคารแนวกรีน/ยุคใหม่ เชื่อว่าคงจะช่วยได้เยอะ

ทั้งหมดต้องอาศัยความรอบคอบ พูดคุยสื่อสารกันระหว่างเมือง/ผู้ประกอบการ/ชุมชน ซึ่งผมคิดว่าเริ่มต้นใหม่ใช้ได้แล้ว

แต่ทำดีกว่านี้ได้อีก ค่อยเป็นค่อยไป นี่คือจังหวะสำคัญสุดของการเปลี่ยนพัทยาสู่โฉมใหม่

ต่อจากนี้อาจโผล่มาพัทยาเป็นระยะ จะรายงานให้เพื่อนธรณ์ทราบเรื่อยๆ

เอาใจช่วยพัทยาอยู่เสมอ เพราะผูกพันกันมานานตั้งแต่สมัยคุณปู่ครับ”

ข่าวที่น่าสนใจ

ดร.ธรณ์ ชี้ ชายหาดทะเลไทยวิกฤติ! พลาสติกมหาศาลฝังอยู่ใต้ทราย

หมอเตือน เอาปรอทวัดไข้มาใช้พี้ยา เสี่ยงสารพิษเข้าตัวถึงตายได้