ไม่มีพลิกโผ พปชร.ไฟเขียวให้ “บิ๊กป้อม” คุมพรรค ส่วน “อนุชา นาคาศัย” ได้ตำแหน่งเลขาฯ ไปครอง เซอร์ไพรส์ “อาจารย์แหม่ม” โผล่เป็นเหรัญญิกพรรค

ระฆังดังตรงเวลา เมื่อเข็มนาฬิกาพุ่งมาที่ 13.00 น. วงประชุมใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ก็เริ่มขี้น

กลุ่มสมาชิกของพรรค ทีมบริหารทั้งหน้าเก่า และที่ลือกันว่าเป็นหน้าใหม่ ตบเท้าทยอยเข้ามายังอิมแพ็คอารีนา เมืองทองธานี ที่เป้าหมายก็เพื่อการจัดตั้งให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และในฐานะประธานยุทธศาสตร์พปชร. ได้ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งหัวหน้าพรรค แทนที่นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง และหัวหน้าพปชร.ในห้วงเวลาที่ผ่านมา

และไม่คงไม่เป็นปัญหา เพราะทุกอย่างถูกเซ็ทอัพมาไว้แล้ว อีกทั้งชื่อของพล.อ.ประวิตร ก็เป็นเพียงชื่อเดียวที่จะให้สมาชิกพรรคพปชร.ที่มาร่วมประชุมได้โหวตเลือกกัน ซึ่งมันก็ต้องแบเบอร์อย่างไม่มีปัญหา

“อุตตม” ทำทุกอย่างแล้ว เดินหน้าพา “พปชร.” จนได้เป็นรัฐบาล

แต่ก่อนการประชุมจะเริ่มขึ้น บรรยากาศโดยรอบก็เป็นไปอย่างคึกคัก โดยเริ่มจากกลุ่ม “4 กุมาร” ที่วันนี้มาประชุมกันโดยมีนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง นำทีม พร้อมนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ก่อนที่นายอุตตม จะกล่าวก่อนการประชุมว่า “ที่ผ่านมาเราร่วมกันก่อตั้งพรรคขึ้นก็เพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี แต่งานของพรรคย่อมไม่มีที่สิ้นสุด เราทำมาได้ในระดับหนึ่งแล้ว มีรัฐบาลตามที่มุ่งหวัง ส่วนในอนาคตจะเป็นอย่างไรก็ต้องดูกันต่อไป

อย่างไรก็ตาม นายอุตตม ปฏิเสธตอบคำถามของนักข่าวที่ว่า เสียใจหรือไม่ที่ไม่ได้ทำหน้าที่หัวหน้าพรรคต่อไป โดยนายอุตตมระบุเพียงว่า วันนี้มาทำหน้าที่รักษาการหัวหน้าพรรคเท่านั้น

ก่อนการประชุมจะเริ่มต้นขึ้นนั้น นายไพบูลย์ นิติตะวัน รักษาการรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวถึงขั้นตอนการประชุมใหญ่ในวันนี้ โดยระบุว่า จะเปลี่ยนแปลงอีกหลายเรื่องด้วยกัน ทั้งตราสัญลักษณ์ของพรรค การเตรียมย้ายที่ทำการพรรคไปยังที่แห่งใหม่

“เราจะปรับโครงสร้างพรรคกันใหม่ด้วย โดยจะมีการเสนอชื่อผู้ที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรค และมีผู้รับรองไม่น้อยกว่า 30 คน จากนั้นเข้าสู่การลงคะแนนแบบลับ จากนั้นจะเป็นการเลือกเลขาธิการพรรค เหรัญญิก นายทะเบียนพรรค และกรรมการบริหาร จำนวน 20 คน เมื่อลงคะแนนเสร็จแล้ว รายชื่อทั้งหมดจะมีผลปฏิบัติหน้านับตั้งแต่ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ” นายไพบูลย์ กล่าว

ปิดห้องโหวต ไม่มีพลิก “บิ๊กป้อม” ผงาดประมุข ส่วนหน้าที่พ่อบ้าน “เสี่ยแฮงค์” เอาไปครอง

ห้องประชุมเปิดอีกครั้งหลังเข็มนาฬิกาบอกว่าเลยเวลา 4 โมงเย็น ก่อนจะมีการแถลงผลการประชุมใหญ่ของ พปชร.ซึ่งตำแหน่งในพรรคที่สำคัญๆ ก็ไม่มีพลิกโผ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ผงาดขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค พปชร.ตามคาด ชนิดที่ว่าไม่มีคู่แข่งแม้แต่คนเดียว ส่วนเลขาธิการพรรค ตกเป็นของ “เสี่ยแฮงค์” นายอนุชา นาคาศัย แกนนำกลุ่มสามมิตรที่รอเวลามาพรรคหนึ่งก่อนผงาดเป็นเบอร์สองของพรรคในทันที แต่ที่น่าสนใจคือ “อาจารย์แหม่ม” น.ส.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เป็นเหรัญญิกของพรรค

ส่วนตำแหน่งนายทะเบียน ที่เคยเป็นของนายวิเชียร ชวลิต ถูกเปลี่ยนมือเช่นกัน ปรากฏว่าคนที่มาทำงานในตำแหน่งนี้คือคนใกล้ชิดของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ รวมไปถึงกรรมการบริหารพรรค พปชร. คือนายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.ของพรรค และยังเป็นอดีตกรรมการบริหาร พปชร.ชุดเก่าด้วย ได้เป็นนายทะเบียนของพรรค

นอกจากนี้ ในที่ประชุม ยังมีมติให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.คนใหม่ เป็นผู้เลือก “รองหัวหน้าพรรค” รวม 9 คน เพื่อให้มาทำงานในด้านต่างๆ ตามที่จะมอบหมาย พร้อมกันนี้ ยังเปิดตำแหน่ง “ผู้อำนวยการพรรค” ขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะแต่ยังไม่ระบุหน้าที่

ส่วนตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคจะมีทั้งหมด 29 ตำแหน่ง แต่มีการวางตัวทำงานในขณะนี้ครบถ้วนแล้วรวม 27 คน ซึ่งแบ่งเป็นกรรมการบริหารพรรคชุดเดิม 23 คนยังคงอยู่ รวมอีก 4 คน ตามตำแหน่ง คือ หัวหน้าพรรรค เลขาธิการพรรค เหรัญญิกพรรค และนายทะเบียนพรรค รวม 4 ตำแหน่ง ซึ่งทุกตำแหน่งนี้มีการประกาศชื่อกันแล้วตามข้างต้น

อย่างไรก็ตาม ในตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค พชปร.ยังคงหลือเอาไว้ 2 ที่นั่ง ซึ่งก็คาดว่าจะเป็นพล.อ.ประวิตร ที่จะคัดสรรหรือไม่เลือกใครเลยก็ได้ โดยตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคอีก 23 คน ประกอบไปด้วย

นายสันติ พร้อมพัฒน์
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
นายวิรัช รัตนเศรษฐ
นายไพบูลย์ นิติตะวัน
นายสุชาติ ชมกลิ่น
นายอิทธิพล คุณปลื้ม
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์
นายสุพล ฟองงาม
นายพงษ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ
นายชาญวิทย์ วิภูศิริ
นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์
นายนิโรธ สุนทรเลขา
นายไผ่ ลิกค์
นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ
นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์
นายสุรชาติ ศรีบุศกร
นายนิพันธ์ ศิริธร
น.ส.ประภาพร อัศวเหม
นายสกลธี ภัททิยกุล

รวมกรรมการบริหารพรรคทั้งสิ้นเป็น 27 คน

ทั้งนี้ จากรายชื่อกรรมการบริหารพรรคทั้ง 27 คน ไม่มีรายชื่อของกลุ่ม 4 กุมารที่ช่วยกันก่อตั้งพรรคนี้ขึ้นมา คือ นายอุตตม สาวนายน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล

ข่าวที่น่าสนใจ

อุ่นเครื่องไฮไลต์ประชุม พปชร.วันนี้ “ประวิตรผงาด-เปลี่ยนโฆษก-4 กุมารอยู่หรือไป-โลโก้พรรคใหม่”

“สนธิรัตน์” ยืนยัน ทำงานกับ พปชร.ต่อไป พร้อมส่งกำลังใจ กก.บห.ชุดใหม่