“ฉีดให้ฝ่อ คือรักษา หาใช่โทษ” เปิดใจ “ส.ส.ส้ม” สวย-แกร่งลุยแก้ปัญหา “ข่มขืน”

by ThaiQuote, 29 มิถุนายน 2563

เปิดใจทุกประเด็นในเรื่อง “ข่มขืน” กับหนึ่งในมันสมองการแก้ปัญหานี้ “ส้ม” พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.เลือดใหม่ที่ศึกษา “ฉีดไข่ให้ฝ่อ” เพื่อกดปัญหาตัวเลขข่มขืนให้ลดลง

 

โดย...กองบรรณาธิการ ThaiQuote

รอยยิ้มที่อยู่ตรงหน้าเราจากหญิงสาวที่สวยงาม เต็มไปด้วยความรู้ ความสามารถของงานการเมือง รอยยิ้มที่ว่าอาจจะไม่ถูกใจกับ"ชายอีกหลายคน" ของประเทศไทย

เพราะเธอคือ ส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐ ผู้ที่เสนอว่าประเทศไทย ควรจะต้องศึกษาถึงการจัดการปัญหา "ข่มขืน" ด้วยวิธีการ "ฉีดไข่ให้ฝ่อ" หรือหยุดสมรรถภาพทางเพศสำหรับผู้ที่ก่อเหตุคดีข่มขืน หรือที่หลายคนมองว่า มันคืออาการ "ตายทั้งเป็น"

เจ้าของรอยยิ้มที่ว่า พร้อมจะเปิดหมดเปลือกทุกคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ คือ "ส้ม" พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์" หรือ ส.ส.ส้ม เจ้าของพื้นที่ตัวแทนประชาชนเขต ปทุมวัน สาทร บางรัก และในฐานะหนึ่งตัวเอกในชุดคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาการข่มขืนกระทำชำเราและการล่วงละเมิดทางเพศ สภาผู้เเทนราษฎร หรือที่ชาวบ้านเรียกกันคุ้นหูว่า “กมธ.ข่มขืน” และเธอเป็นผู้ที่ผลักดันให้เรื่อง "การฉีดให้ฝ่อ" เพื่อลดความต้องการทางเพศสำหรับอาชญากรที่ก่อเหตุ เป็นอีกหนึ่ง "บทลงโทษเชิงรักษา" สำหรับอนาคตของเมืองไทยต่อปัญหาการข่มขืน

 

 

 

ส.ส.เลือดใหม่ที่ลุกส์ดูเรียบร้อย ยิ้มหวาน และคงเป็นขวัญใจคอการเมืองอีกหลายคนด้วยภาพลักษณ์ของเธอที่มีความสวยไม่น้อยหน้าใครในรัฐสภา กระนั้นดูเหมือนว่าเธอเองก็จะเป็น "ขาแรง" ที่ไม่ได้นั่งทนหน้าบางเมื่อถูกพูดถึงปัญหาเรื่องการข่มขืน การคุกคามทางเพศในบ้านเรา แต่เธอเลือกที่จะลุกขึ้นสู้เพื่อเป็นตัวแทนของคนไทย ในการแก้ปัญหานี้ด้วยกฎหมายสำหรับอนาคต

ฉีดให้ฝ่อ ไม่ใช่โทษ แต่คือ “การรักษา”

นัยยะของการศึกษาปัญหาข่มขืน กระทำชำเราในบ้านเรา ด้วยการเสนอ “การฉีดให้อวัยวะเพศฝ่อ” เพื่อลดความต้องการทางการเพศ ส.ส.ส้ม อธิบายกับ ThaiQuote ถึงประเด็นนี้อย่างน่าสนใจว่า การศึกษาบทลงโทษนี้ ก็เหมือนกับข้อเสนออีกหนึ่งทางเลือกของกมธ.ข่มขืน ที่ระดมไอเดียจากความรู้ความสนใจของกมธ.แต่ละคน เมื่อมีไอเดียก็วางกันลงตรงโต๊ะที่ประชุม ก่อนจะมีการศึกษาอย่างจริงจังในทุกประเด็น

นอกไปจากนี้ ในวง กมธ.ข่มขืน ก็ไม่ใช่มีเพียงแค่เรื่องฉีดให้ฝ่อเท่านั้นที่กำลังศึกษากัน แต่ยังมีประเด็นทั้ง “ของเล่น” หรือ Sex Toy รวมไปถึงข้อเสนอการจัดสวัสดิการทางเพศของรัฐ ดั่งที่มี กมธ.บางคนเคยเสนอ

“เรามองว่าปัญหาการข่มขืน การแก้ปัญหานั้นมันจำกัดอยู่เพียงแค่ ‘ปลายทาง’ ที่เป็นบทลงโทษเพียงอย่างเดียวหรือไม่ หรือว่าจริง ๆ แล้วต้นทางของปัญหาคืออะไร ดังนั้น เมื่อเรามองทั้งระบบ ก็ได้ใจความว่า หากเราจะแก้ปัญหาเรื่องนี้กันผ่านกลไกทางการเมือง กลไกรัฐสภา ก็ต้องแก้กันทั้งระบบ เพื่อให้ทั้ง เหยื่อ ผู้กระทำผิด มีความเชื่อมโยงกับโทษ และสอดคล้องกับบริบทปัจจุบัน และในส่วนของโทษ เมื่อเรามองกันตรง ๆ แล้ว โทษสำหรับคดีข่มขืนมันสูงที่สุดแล้ว คือ ประหารชีวิต ที่ทำให้คนหลาบกลัวไม่กล้าก่อเหตุ แต่ทำไมตัวเลขของคดีข่มขืนมันยังพุ่งสูงอยู่ดี” พัชรินทร์ เปิดฉากถึงเรื่องการข่มขืนในเมืองไทย

นอกไปจากโทษที่สูงแล้ว แต่การวัดเกรดของนักโทษในคดีข่มขืน ยังถูกจัดให้เป็น “กลุ่มที่แย่ที่สุด” เมื่ออยู่ในเรือนจำอีกด้วย รวมไปถึงการตัดทุกช่องทางเพื่อจะเรียกร้องเอากับเรื่องต่าง ๆ เพื่อให้ลดโทษ แต่กระนั้นก็ยังไม่ทำให้ตัวเลขของคดีข่มขืนในบ้านเรามันลดลง

สิ่งนี้จึงสะท้อนและทำให้สังคมสะท้าน ว่าการใช้วิธีการ “ฉีดยาให้ฝ่อ” จะเป็นอีกทางเลือกที่จะกำราบความกำหนัดที่แสดงออกอย่างไม่ถูกกฎหมายในทันที แต่เมื่อคนต้นคิด “การฉีดให้ฝ่อ” ได้อธิบายต่อเรื่องนี้ ก็เลยทำให้ดูเหมือนว่า “อาจจะไม่น่ากลัวอย่างที่คิดกัน”

“ก็เหมือนกับอีกหลายประเทศเขาใช้วิธีการนี้ เพราะเป็นการรักษาอย่างหนึ่งในทางการแพทย์ โดยเฉพาะกับคนที่ไม่สามารถควบคุมความต้องการทางเพศของตัวเองได้ รวมไปถึงอาชญากรที่ก่อเหตุข่มขืนมาหลายคดี การฉีดยาเข้าไปในร่ากายเพื่อให้ลดความต้องการทางเพศจึงถูกนำมาใช้

แต่ทั้งนี้ ใช่ว่าบ้านเราจะใช้กันเลย เพราะว่ากมธ.ก็ต้องศึกษาถึงข้อดี ข้อเสีย และที่สำคัญคือสอดคล้องกันกับบริบทของเมืองไทยหรือไม่ รวมไปถึงว่า ใครจะเป็นคนฉีด เพราะหากให้แพทย์ทำก็จะกระทบกับจรรยาบรรณ ที่แพทย์ก็ต้องรักษาคนไข้ แต่สิ่งนี้กำลังจะทำให้ร่างกายคนไข้เปลี่ยนไป ก็ต้องไปศึกษากันให้ดีก่อน รวมไปถึงการฉีดยาให้ฝ่อยังมีเอฟเฟกต์ต่อร่างกาย เราก็ต้องไปศึกษากันดู” ส.ส.ส้ม กล่าว

 

 

หลากความเห็นเรื่อง “ข่มขืน” เริ่มป้องกัน ก่อนแก้ในระยะยาว

เมื่อสะท้อนไปยังการทำงานของกมธ.ชุดนี้ พัชรินทร์ ฉายภาพว่า งานของ กมธ.ข่มขืนถือว่าเดินไปได้เยอะ กระบวนการทำงานก็ราบรื่น แต่แน่นอนว่าใน กมธ.ทั้งแพทย์ นักสังคม นักวิชาการ มีเอ็นจีโอ มีอาชีพที่หลากหลาย การทำงานก็ได้หลายมุมมอง บางครั้งก็เห็นต่างกันแต่เป็นเรื่องดี เพราะความเห็นหลากหลายจะช่วยให้เราพิจารณาประเด็ฯข่มขืนที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน ต้องคุยกันเชิงลึก เราก็จะได้ข้อมูลที่ครบถ้วน

ทั้งนี้ รายละเอียดการศึกษาในประเด็นข่มขืนของกมธ. จะพุ่งมาที่ 2 กลุ่มที่เกี่ยวข้อง คือ 1. กลุ่มผู้เสียหาย หรือเหยื่อ 2.กลุ่มผู้ก่อเหตุ หรืออาชญากร สิ่งที่ศึกษากันคือ ทำอย่างไรที่ผู้เสียหายเมื่อเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จะได้รับความยุติธรรมาอย่างแท้จริงทั้งกระบวนการ รวมไปถึงประเด็นของโทษ ที่สูงสุดคือประหารชีวิต เพียงพอแล้วหรือไม่ที่จะยับยั้งให้คนกลัว หรือไม่กล้าทำผิด อีกทั้งเมื่อมีโทษสูงสุดอยู่แล้ว แต่ทำไมจึงเหตุการณ์ซ้ำเดิมขึ้นได้อีก

“มองว่าเรื่องข่มขืน ยังเป็นเรื่องที่พิจารณากันอีกยาวเหมือนกัน ต้องศึกษาอย่างใกล้ชิด แต่ขณะนี้ที่เป็นจังหวะที่เราน่าจะป้องกันได้มากกว่า ทั้งการรู้จักตนเอง รู้จักป้องกันตัวเอง รู้จักว่าต้องไม่ไปละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผื่อน โดยวางกรอบเข้าไปในหลักสูตรการศึกษาสำหรับเด็กนักเรียน ซึ่งน่าจะช่วยได้เยอะมากทีเดียว” ส.ส.ส้ม พัชรินทร์ กล่าว

 

 

สวัสดิการทางเพศ ข้อเสนอที่ยังไม่โดน

ส.ส.เลือดใหม่หนุ่มวัยทำงานอย่าง เต้ มงคลกิตติ สุขสินธรานนท์ จากพรรคไทยศรีวิไลย์ เสนอให้มี “สวัสดิการทางเพศ” เพื่อป้องกันปัญหาข่มขืน จนเป็นที่ฮือฮาอย่างหนักหน่วง ในฐานะที่ ส.ส.ส้มเองก็ศึกษาปัญหาข่มขืน เราก็ไม่พลาดให้เธอฉายความเห็นประเด็นนี้

“เรื่องนี้ละเอียดอ่อนมาก เพราะจะต้องมีการศึกษาให้รอบคอบและมีผลกระทบกับหลายภาคส่วนด้วย แต่มองว่า ขณะนี้ยังมีอีกหลายปัญหา และอีกหลายประเด็นทางออกที่น่าจะหยิบยกมาพูดถึงและศึกษากันมากกว่าเรื่องนี้ และเรื่องนี้ก็เหมือนกับเซ็กทอยส์ ยังไม่มีงานศึกษาว่าหากทำเรื่องนี้กันจนเกิดขึ้นจริง ปัญหาการข่มขืนกระทำชำเรามันจะลดลงไปหรือไม่” พัชรินทร์ ตอบพร้อมกับตั้งคำถาม

เธอขยายความว่า คนที่กระทำความผิดทางเพศส่วนใหญ่จะกระทำทันทีที่มีอารมณ์ ณ ช่วงเวลานั้น เขาไม่คิดว่าเมื่อมีอารมณ์แล้วจะไปใช้บริการตามที่จัดหาไว้ให้ เราอาจจะต้องโฟกัสกับประเด็นที่ใกล้เคียงกับการแก้ปัญหามากที่สุด

“แน่นอนว่า กมธ.ไม่ได้ปิดกั้นข้อเสนอ เป็นเรื่องดีที่เปิดกว้างรับฟังทุกความเห็นกัน เพียงแต่ว่าทุกข้อเสนอเราก็ต้องมาดูว่ามันเหมาะสมกับสิ่งที่เรากำลังทำ บริบทของประเทศหรือไม่” พัชรินทร์ ทิ้งท้าย

 


เรื่องอื่นที่น่าสนใจ

คุยกับ “ส.ส.ส้ม” กับตำแหน่งว่าที่ “โฆษกพรรคพลังประชารัฐ” คนใหม่

ไม่ใช่แค่โควิด สธ.เตือน! เปิดเทอมระวังเด็กป่วย “โรคมือ เท้า ปาก”