จากคดีอื้อฉาวสะเทือนเกาะเต่า กรณี ซอ ลิน หรือโซเรน และ เวพิว หรือวิน ซอว์ ตุน ชาวพม่าที่เป็นผู้ต้องหาในคดีฆ่า 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ บนเกาะเต่าเมื่อปี 2014 และอยู่ระหว่างการรอรับโทษประหารชีวิต แต่ล่าสุดพบว่าทั้งสองได้รับการให้พระราชทานอภัยโทษเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา โดยให้เหลือแค่จำคุกตลอดชีวิตแทน

เมื่อวานนี้ (15 ส.ค.) เอเอฟพีรายงานว่า ซอ ลิน หรือโซเรน และนายเวพิว หรือวิน ผู้ต้องหาชาวพม่าลงมือข่มขืน ฮันนาห์ วิคตอเรีย วิทเทอร์ริดจ์ (Hannah Victoria Witheridge) นักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษวัย 23 ปีก่อนสังหาร และยังลงมือสังหารเพื่อนชายชาวอังกฤษวัย 24 ปี เดวิด วิลเลียม มิลเลอร์ (David willam Miller) เช่นกันเกิดเหตุเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2014 บนเกาะเต่าสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติ และคนทั้งคู่ได้รับการตัดสินจากศาลฎีกาให้พิพากษาประหารชีวิตเมื่อวันที่ 29 ส.ค.ปีที่แล้ว โดยศาลได้ชี้ว่า “มีหลักฐานชัดเจน”

แต่ล่าสุดมีรายงานว่าผู้ต้องหาทั้งสองได้รับพระราชทานอภัยโทษให้เหลือแค่จำคุกตลอดชีวิต โดยเดลีเมล์ สื่ออังกฤษรายงานว่า ประกาศพระราชกฤษฎีกาได้ออกมาในวันศุกร์ (14 ส.ค.)

สื่อไทยรายงานมีรายละเอียดว่า เกิดขึ้นเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวซึ่งเป็นการพระราชทานอภัยโทษหมู่

ทั้งนี้ ในรายงานก่อนหน้าพบว่า ในปีที่ผ่านมารัฐบาลพม่าได้ออกมาแสดงท่าทีเพื่อสนับสนุนให้ ซอ ลิน และ เวพิว หรือ วิน ซอว์ ตุน (Win Zaw Tun) อายุ 26 ปีในเวลานั้นให้ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษหลังจากที่ถูกศาลฎีกาสั่งประหารชีวิต โดยสื่ออิรวดีรายงานเมื่อวันที่ 3 ก.ย.ปีที่แล้วว่า อู เถี่ยน ชเว รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานและตรวจคนเข้าเมืองของพม่าว่า กำลังประสานกับทางการไทย เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายไทยในการขอพระราชทานอภัยโทษแก่นักโทษชาวพม่าทั้งสอง

ขณะที่ บีบีซีสื่ออังกฤษภาคภาษาไทย รายงานว่า หลังรัฐมนตรีแรงงานพม่าได้ออกมาแถลงพบว่าคนทั้งคู่ได้ยื่นเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษแล้ว โดยทาง ณัฐาศิริ เบิร์กแมน (Nadthasiri Bergman) หนึ่งในทีมกฎหมายของผู้ต้องหาชาวพม่าทั้งสองเปิดเผยกับบีบีซีในวันที่ 24 ต.ค.ว่า ทั้งเบิร์กแมนซึ่งเป็นตัวแทนสภาทนายความและตัวแทนสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ตัวแทนจากสถานทูตพม่า และมารดาของซอ ลิน หรือโซเรน และ เวพิว หรือวิน ได้เดินทางมายื่นทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะรายโดยยื่นผ่านหัวหน้าทัณฑปฏิบัติเรือนจำบางขวางเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามกรอบเวลา 60 วัน ภายหลังศาลฎีกามีคำพิพากษาตัดสินประหารชีวิตจำเลยทั้ง 2 คน

โดยในเนื้อหาหนังสือฎีการะบุว่า ทางจำเลยทั้งสองประสงค์จะขอพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยเปลี่ยนโทษประหารชีวิตเป็นจำคุกแทน

เอเอฟพีชี้ว่า การขอพระราชทานอภัยโทษนี้ถือเป็นความหวังสุดท้ายของคนทั้งคู่ โดยเบิร์กแมนกล่าวเปิดเผยว่า ประกาศพระราชกฤษฎีกาได้ออกมาในวันศุกร์ที่ผ่านมา และเป็นการอภัยโทษต่อนักโทษประหารชีวิตทุกคนที่ร้องขอนั้นจะมีผลบังคับใช้ทันที

ด้านทนายความเปิดเผยว่า หลักฐานที่นำมาใช้เอาผิดลูกความนั้นไม่สามารถเชื่อถือได้และลูกความทั้งคู่จำเป็นต้องยอมรับสารภาพหลังถูกข่มขู่

เย ซอว์ ตุน (Ye Zaw Tun) พี่ชายของวิน ซอว์ ตุน กล่าวแสดงความรู้สึกกับเอเอฟพีในวันเสาร์ (15ส.ค.) หลังทราบข่าวการได้รับพระราชทานอภัยโทษแล้วว่า

“ผมไม่สามารถที่จะสรรหาคำพูดเพื่อมาแสดงคำกล่าวขอบคุณได้อย่างไร”

และกล่าวด้วยว่า “พวกเรารู้ว่าคดีนี้ไม่เป็นธรรม และบางครั้งพวกเรารู้สึกขมขื่น แต่พวกเราต้องการแสดงการขอบคุณต่อการได้รับพระราชทานอภัยโทษ”

อย่างไรก็ตาม เย ซอว์ ตุน บอกว่า น้องชายของเขาและซอ ลิน มีสุขภาพดี แต่เรียกร้องให้ทางการไทยปล่อยตัวคนทั้งคู่ทันที

ทั้งนี้ เอเอฟพีรายงานว่า คดีพลเมืองพม่าฆ่านักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษบนเกาะเต่าของไทยนั้นได้รับการกล่าวขวัญในพม่า โดยมีชาวพม่าจำนวนมากต่างรู้สึกว่าคนทั้งคู่ในฐานะแรงงานต่างชาติค่าแรงต่ำในไทยได้รับการไต่สวนอย่างไม่เป็นธรรม

ขณะที่ ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ให้ประหารชีวิตโดยให้เหตุผลว่าการสืบสวนของตำรวจมีเหตุผลน่าเชื่อถือและมีพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์สนับสนุน ไม่มีข้อบ่งชี้ใดว่าตำรวจกลั่นแกล้งปรักปรำจำเลย และศาลไม่เชื่อว่าจำเลยถูกตำรวจทำร้ายให้รับสารภาพ เพราะการตรวจร่างกายภายหลังการสอบสวนไม่ปรากฏร่องรอยการทำร้าย

โดยในการทำคดีนี้ ตำรวจไทยถูกวิจารณ์จากผู้สังเกตการณ์คดีทั้งจากในและนอกประเทศถึงความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสการสืบสวนสอบสวนที่นำมาสู่การจับกุมและฟ้องร้องชาวเมียนมาทั้ง 2 คน ซึ่งอ้างว่าถูกทำร้ายร่างกายเพื่อให้รับสารภาพ

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

ในหลวง โปรดเกล้าฯ องคมนตรีเชิญสิ่งของพระราชทานช่วยผู้ประสบอัคคีภัย ซ.ตากสิน 23