เช็คไทม์ไลน์ "บิ๊กตู่" ไปครม.สัญจร ไม่มีเวลาคุยนักศึกษาในพื้นที่ เหตุภารกิจรัดตัวแน่น

by ThaiQuote, 21 สิงหาคม 2563

โฆษกรัฐบาลเปิดภารกิจไปครม.สัญจรของพล.อ.ประยุทธ์ เน้นพุ่งเป้าพื้นที่ยุทธศาสตร์ EEC รับไม่มีเวลาคุยกับนักศึกษาในพื้นที่

 

วันที่ 21 สิงหาคม 2563 - นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภารกิจการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร ที่จ.ระยอง และจ.จันทบุรี ระหว่างวันที่ 24-25 สิงหาคมนี้ ก่อนการเดินทางจะมีประชุมตามกรอบความร่วมมือแม่โขงล้านช้างครั้งที่ 3 โดยมีประเทศจีน ลาว เวียดนาม เมียนมา และไทย

โดยใช้เวลาการประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 08.30-10.30 น. โดยการประชุมในครั้งนี้จะเป็นการผลักดันกฎบัตรอาเซียน พร้อมกับจัดตั้งโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขงล้านช้าง เป็นโครงการขนาดเล็กไม่เกิน 200 ล้านเหรียญสหรัฐ และเพิ่มเส้นทางเศรษฐกิจในกลุ่มแม่น้ำโขง ทั้งทางบกและทางทะเลรวมไปถึงยกระดับการแลกเปลี่ยนทางสังคมและวัฒนธรรม


ทั้งนี้ โดยนายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญการบริหารจัดการน้ำในลุ่มแม่น้ำโขงให้เข้าถึงแหล่งน้ำได้ตลอดทั้งปี รวมไปถึงยังมีการเจรจาความร่วมมือด้านสาธารณสุขโดยเฉพาะวัคซีนที่ไม่ใช่เฉพาะวัคซีนป้องกันโควิด-19 แต่รวมถึงรวมถึงวัคซีนทั่วไป และผลักดันให้วัคซีนป้องกันโควิด -19 ให้เป็นสาธารณะประโยชน์ไม่ใช่สินค้าทำกำไร

นอกจากนี้ ในช่วงบ่ายนายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่จ.ระยอง ตรวจเยี่ยมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมการขนส่ง อย่างโครงการมอเตอร์เวย์ ช่วงพัทยา- มาบตาพุด และมีการเดินทางด้วยเครื่องบิน ตรวจเยี่ยมศูนย์EOC หรือ ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน เพื่อรองรับTravelBubble ในอนาคต หลังจากนั้นเยี่ยมชมตลาดเทศบาลบ้านเพ ตลาดร้อยเสา ที่มีสินค้าครบวงจร พร้อมตรวจวิธีกลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้านหาดสวนสน

และในวันอังคารที่ 25 ส.ค. เวลา 07.30 น. จะเปิดโอกาสให้มีการแสดงผลงานนวัตกรรมอีอีซี และเป็นสักขีพยานการมอบเอกสารที่ดินทำกิน และจะเป็นการประชุมกลุ่มพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภาคตะวันออก และจะเริ่มการครม. 10.30 น. โดยหลังจากนั้นจะเดินทางไปจ.จันทบุรี เพื่อเยี่ยมโครงการนำร่องการผลิตแบริเออร์และถนนหุ้มด้วยยางพารา

นายอนุชา กล่าวอีกว่า การลงพื้นที่ จ.ระยอง ของนายกรัฐมนตรี จะยังไม่มีการจัดเวทีรับฟังนักศึกษาในพื้นที่ เนื่องจากภารกิจค่อนข้างแน่น ส่วนความคืบหน้าของโครงการที่นายก ฯมอบหมายให้สภาพัฒน์ฯ จัดเวทีทั่วประเทศนั้น ขณะนี้ยังไม่ทราบในรายละเอียด ว่าจะดำเนินการในพื้นที่ใดก่อน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า กรณี ส.ส.ฝั่งรัฐบาลขัดแย้ง และเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกนั้น มองว่า ขณะนี้ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี เพราะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องรอผลการศึกษาว่าผลสรุปของกรรมาธิการจะเป็นอย่างไร

ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์มากที่สุด ที่ต้องทำความเข้าใจกัน ซึ่งหากไม่พอใจก็สามารภอภิปรายเพิ่มเติมได้ และนายกรัฐมนตรี ก็ต้องการลดความขัดแย้งให้ได้มากที่สุด ซึ่งสภาฯก็ควรจะทำไปทิศทางเดียวกัน จะทำให้บรรยากาศดีขึ้น เช่นเดียวกับการชุมนุมของนักเรียนหน้ากระทรวงศึกษาธิการ ที่รัฐมนตรีออกมารับฟังปัญหา ทำให้สังคมหันหน้าเข้าหากันมากกว่าการเผชิญหน้า

 

ข่าวที่น่าสนใจ

“สิระ” แจ้งความ “เต้” ข้อหาข่มขู่คุกคาม ชี้ต้องสั่งสอนฐานทำสภาฯเสื่อมเสีย