ดีเอสไอโชว์ผลงาน ยึดทรัพย์แก๊งค์ค้ายา “ชบา” 500 ล้านบาท

by ThaiQuote, 21 สิงหาคม 2563

ดีเอสไอ โชว์ผลงานยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด 500 ล้านบาท รวมผลงานไม่ถึงปีได้ 2 พันล้านบาท ตั้งเป้าปีหน้าตัดวงจรค้ายาเสพติด ต้องยึดให้ได้ 6 พันล้านบาท

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ศอ.ปส.) พร้อมด้วย พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมกันแถลงข่าว “ยุทธการพิทักษ์ไทย ยึดทรัพย์ ตัดวงจรยาเสพติด” ครั้งที่ 5/2563

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตามนโยบายเร่งด่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้สั่งการให้ขยายผล เพื่อจับกุมนายทุน และผู้อยู่เบื้องหลังการค้ายาเสพติด รวมถึงจัดตั้งกลไกการบูรณาการการปราบปรามยาเสพติด เพื่อสืบสวนขยายผลและยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติด โดยดีเอสไอ ได้รับมอบหมายภารกิจในการสอบสวนเส้นทางการเงินของ “เครือข่าย น.ส.ชบา” ล่าสุดมีการปิดล้อม ตรวจค้น เป้าหมาย เครือข่ายยาเสพติด เพื่อตัดวงจรด้วยการยึดทรัพย์


ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา ดีเอสไอได้ใช้เทคโนโลยีในการสืบค้นธุรกรรมทางการเงินที่ทันสมัย สืบสวน สอบสวนเครือข่ายยาเสพติดอย่างเข้มข้น เพื่อติดตามเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดทางกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งสามารถอายัดบัญชีธนาคาร และทรัพย์สินที่เป็นทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ อสังหาริมทรัพย์ รถยนต์หรู กระเป๋าแบรนด์เนม เงินสดไทยและต่างประเทศรวมมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท

สำหรับปฏิบัติการตัดวงจรยาเสพติดดำเนินการมาตลอด 7 เดือน ที่ผ่านมา สามารถยึดได้กว่า 2,000 ล้านบาท ถือว่าเกินเป้ากว่าที่เรากำหนด จากปีก่อนสถิติการยึดทรัพย์ ที่ทำได้ทั้งปีเฉลี่ยเพียง 600 ล้านบาท โดยตนต้องขอบคุณทุกหน่วยงานที่ทำให้เราประสบความสำเร็จ และในปีต่อไปเราจะทำงานให้เข้มข้นตามแนวทาง 10 X RULE ( ทำงาน 10 เท่า) ดังนั้นในปีหน้าเราตั้งเป้าจะตัดวงจรยาเสพติดให้ได้ 6,000 ล้านบาท


ด้าน พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า ยุทธการครั้งนี้ทางดีเอสไอใช้เวลาในการติดตามกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดมากกว่า 3 เดือน และนำเทคโนโลยีสืบค้นธุรกรรมทางการเงินมาใช้เพียง 2 เดือนสามารถเริ่มปฏิบัติการพร้อมกันได้ถึง 5 จุด ใน จ.ชลบุรี สมุทรสาคร สมุทรปราการ และกรุงเทพฯ 2 จุด คือ เขตบางเขน และตลิ่งชัน โดยจุดที่สามารถอายัดทรัพย์สินได้มากที่สุดในการลงพื้นที่ คือ เขตตลิ่งชันได้ทองคำแท่งน้ำหนักประมาณ 1,000 บาท พระเครื่องและสร้อยทองคำรวม 35 รายการ เครื่องประดับอื่นอีก 10 รายการ และยังพบธนบัตรไทยและธนบัตรต่างชาติอีกประมาณ 1 ล้าน 2 แสนบาท และมีบัญชีธนาคาร 65 บัญชี มูลค่า 50 ล้านบาท บ้านพร้อมที่ดิน 85 รายการ มูลค่า 340 ล้านบาท รถยนต์ 97 คัน มูลค่ากว่า 83 ล้านบาท ทองคำ1,064 บาท มูลค่ากว่า 31 ล้านบาท พระกรอบทองพร้อมสร้อยทอง 30 รายการ มูลค่ากว่า 2 ล้าน กระเป๋าแบรนด์เนม 11 ใบ มูลค่ากว่า 8 แสนบาท เครื่องประดับ มูลค่า 5 แสนบาท

นอกจากนี้ยังพบเงินสดสกุลต่างๆ อาทิ เงินดอลลาร์ เงินกีบลาว เงินดองเวียดนาม รวมทั้งสิ้นกว่า 1 ล้าน 2 แสนบาท และรวมมูลค่าการยึดทรัพย์ ทั้งสิ้นกว่า 500 ล้านบาท

สำหรับ “กลุ่ม น.ส.ชบา” ทำหน้าที่รับเงินจากบุคคลอื่น เบื้องต้นพบว่ามีกว่า 60 คน โดยบัญชีที่มีเงินโอนเข้ามามากที่สุดในรอบ 1 ปี มีหมุนเวียนประมาณ 100 ล้านบาท เเละในบัญชีอื่นๆทำธุรกิจเเตกต่างกันไป เช่น สถานบันเทิงและธุรกิจผิดกฎหมายในหลายพื้นที่ หลังจากรับเงินมาเเล้ว น.ส.ชบา จะโอนเงินไปให้บุคคลอื่นต่อหลาย 10 บัญชี โดยขณะนี้มีชื่อบัญชีปลายทางเเล้ว ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ ขยายผล เเต่ส่วนใหญ่พบเป็นชื่อบัญชีคนไทย เเละมีชาวต่างชาติประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย มีเงินหมุนเวียนของเครือข่ายนี้กว่า 10,000 ล้านบาท

 

ข่าวที่น่าสนใจ

รับน้องโหด! รุ่นพี่สั่ง นศ.สาว วิ่งจนช็อก สุดท้ายเสียชีวิต