ชาวบ้านพัทลุง ปักหลักค้านโครงการอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว ขอนายกฯ ระงับโครงการสร้างเขื่อน ด้าน “หมอสุภัทร” เผย 5 เหตุผลที่รัฐบาลต้องหยุดสร้าง

ผู้สื่อข่าวรายเปิดเผยว่า วันนี้ (29 ส.ค.) ชาวบ้านเหมืองตะกั่ว ต.หนองธง อ.ป่าบอน จ.พัทลุง และกลุ่มรักษ์โตนสะตอ ผู้คัดค้านโครงการอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่วอันเนื่องจากพระราชดำริ จ.พัทลุง หรือ เขื่อนเหมืองตะกั่ว ยังคงปักหลักในพื้นที่หน้าหน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน เพื่อเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนามหนังสือระงับโครงการสร้างเขื่อนตามที่ทางกลุ่มฯ ยื่นเสนอไปก่อนหน้านี้ หลังจากชาวบ้านพบข้อพิรุธหลายประการในรายงานการศึกษาฯ ของกรมชลประทานที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงในพื้นที่

ด้านนพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จ.สงขลา เปิดโพสต์ถึงกรณีดังกล่าว ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ” เมื่อวันที่ 26 ส.ค.63 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า

“เหตุผล 5 ข้อที่รัฐบาลต้องยุติ "เขื่อนเหมืองตะกั่วอ้างพระราชดำริ"

ชาวบ้านพัทลุงส่งตัวแทนบุกกรุง วันนี้นัดหมายบุกทำเบียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้ยุติโครงการเขื่อนเหมืองตะกั่วอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่ต้องบุกรัฐบาลเพราะโครงการนี้แย่สุดติ่งจริงๆ

อย่างน้อยก็มีเหตุผล 5 ข้อที่ รัฐบาลต้องฟังและต้องยกเลิกโครงการเขื่อนเหมืองตะกั่วนี้

1. เขื่อนเหมืองตะกั่วเป็นโครงการที่อ้างพระราชดำริ โดยกรมชลประทานเป็นผู้นำรายการสร้างเขื่อนนี้เข้าสู่สำนักงานประสานงานโครงการพระราชดำริ โดยอ้างว่าสอดคล้องกับพระราชดำริในการแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง เป็นการอ้างที่ไม่สง่างาม

2. มีการนำคำว่า "โครงการในพระราชดำริ" มาปิดกั้นการแสดงออกของชาวบ้าน ราชการและผู้ใหญ่บ้านเคยบอกชาวบ้านว่า "ห้ามค้าน ผิด 112 มิเช่นนั้นจะถูกจับ"

3. ได้ทำการศึกษารายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม EIA เป็นเท็จ เอาข้อมูลเพชรบูรณ์มาใส่ในรายงานจนชาวบ้านจับได้ แม้จะมีการยกเลิกรายงานดังกล่าวไปแล้ว สั่งให้มีการทำใหม่ แต่ความผิดโดยเจตนานั้น เสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์โครงการพระราชดำริอย่างมาก ข้าราชการไม่มีใครรับผิดชอบ บริษัทที่ปรึกษาก็ยังไม่ถูกดำเนินคดี

4. พัทลุงมีเขื่อนแล้ว 4 แห่ง ตามแผนกรมชลประทานกั้นทุกลำน้ำ 14 แห่ง
ที่ผ่านมา 4 แห่งนั้น มีอย่างน้อย 3 แห่งที่ใช้การได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ไม่สามารถป้องกันภัยแล้งและน้ำท่วมได้ อีกทั้งยังทำลายป่าสมบูรณ์จำนวนมาก เขื่อนเหมืองตะกั่วคือแห่งที่ 5 หากปล่อยให้สร้างไปเรื่อย ป่าเทือกเขาบรรทัดจะถูกบุกรุกจนไม่เหลือ พัทลุงจะหมดสภาพการเป็นจังหวัดสีเขียว

5. มีการคอรัปชั่นในพื้นที่ที่น่าสงสัยหลายประการ เช่นมีการจับจองเปลี่ยนมือที่ดินเป็นคนนอกพื้นที่กว่า 100 รายเพื่อขอรับเงินค่าเวนคืน ผลประโยชน์จากไม้ป่ามูลค่ามหาศาล มูลค่าเขื่อน 800 ล้านบาทส่อแววไม่โปร่งใส

การสร้างเขื่อนเหมืองตะกั่วคือหายนะทางนิเวศต่อพื้นที่เกษตรกรรมในจังหวัดพัทลุง การสร้างเหมืองตะกั่วคือหายนะต่อภาพลักษณ์ของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้วย

ดังนั้น ขอให้รัฐบาลยุติโครงการก่อสร้างเขื่อนเหมืองตะกั่วเถอะครับ อย่าสร้างสองหายนะใหญ่ให้กับสังคมไทยเลย”

ข่าวที่น่าสนใจ

พบฝูง โลมาหายากกว่า 30 ตัว ในอ่าวดอนสัก