“ธนาธร” อภิปรายเสนอ กมธ.งบฯ ปี 64 ลงมติตัดงบโครงการอ่างเก็บน้ำบ้านเหมืองตะกั่ว 1 ปี ทำชาวบ้านพัทลุงหายใจโล่ง หลังปักหลักร้องนายกฯ ยกเลิกโครงการสร้างเขื่อน เข้าสู่วันที่ 8

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (21ส.ค.63) ที่ประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ.2564 สภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณางบประมาณแผนงานบูรณาการ โดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ปรึกษา กมธ. ได้อภิปรายเสนอให้ตัดงบประมาณโครงการอ่างเก็บน้ำบ้านเหมืองตะกั่ว จ.พัทลุง และโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เนื่องจากประชาชนไม่ได้ประโยชน์ และมีโครงการอื่นที่จำเป็นมากกว่า

ทั้งนี้ นายธนาธร ได้กล่าวถึง โครงการอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว จ.พัทลุง ว่า ในปี 2564 มีการตั้งงบประมาณให้กรมชลประทาน ซึ่งเป็นของงบประมาณปี 2564 จำนวน 130 ล้านบาท แต่เป็นงบผูกพันทั้งหมด ตั้งแต่ปี 2564-2566 จำนวนเงินทั้งสิ้น 650 ล้านบาท

โดยโครงการนี้มีปัญหาด้วยกันหลายประการ อาทิ วันที่ 31 สิงหาคม 2558 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ออกรายงานการตรวจสอบ ซึ่งระบุว่า ไม่มีความจำเป็นในการสร้างเขื่อน โดยให้จังหวัดและประชาชนร่วมกันหาทางออกในการจัดการน้ำ

นอกจากนี้ พื้นที่โครงการยังไม่ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช รวมทั้งการจัดทำรายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมหรือ IEE ยังไม่แล้วเสร็จ ก่อนการของบประมาณ ซึ่งหมายความว่ายังบูรณาการระหว่างหน่วยงานไม่เรียบร้อย แต่กลับมีการตั้งงบประมาณให้จัดทำโครงการ

ขณะเดียวกันโดยรอบของโครงการที่จะสร้างอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว มีอ่างเก็บน้ำอีกจำนวน 3 แห่ง คือ แห่งแรกที่กักเก็บน้ำคลองสะตอ ห่างประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำที่ชำรุดและไม่มีการดูแลรักษา รวมถึงไม่มีการใช้ประโยชน์จากน้ำที่กักเก็บไว้

แห่งที่สองอ่างเก็บน้ำคลองป่าบอน ห่างประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งปัจจุบันโครงการสร้างเสร็จแล้วแต่มีปัญหาคือไม่ได้วางระบบส่งน้ำให้กับอ่างเก็บน้ำ
แห่งที่สาม ฝายคลองท่ายูง ห่างประมาณ 4 กิโลเมตร โดยฝายท่ายูงสภาพทั่วไปมีสภาพชำรุดและขาดการดูแลรักษา

และแห่งที่สี่มีอ่างเก็บน้ำคลองหัวช้าง ห่างออกไปประมาณ 14 กิโลเมตร ซึ่งสภาพของอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ แม้จะสร้างเสร็จแล้วแต่ระบบส่งน้ำ ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ

ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าในพื้นที่มีแหล่งเก็บน้ำอื่นๆ อยู่แล้วแต่ไม่ได้มีการบริหารจัดการที่ดีให้สามารถนำอ่างเก็บน้ำเหล่านั้นมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มศักยภาพ

ขณะเดียวกันชาวบ้านในพื้นที่ไม่ได้มีความต้องการน้ำเพิ่ม เนื่องจากพื้นที่แถบนั้นเป็นพื้นที่ปลูกสวนผลไม้ สวนปาล์ม สวนยาง ที่มีการขุดแหล่งน้ำใช้เอง มีน้ำใช้ตลอดปี และไม่ได้เป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก หรือพื้นที่แล้งซ้ำซาก

โดยยังมีพื้นที่ในภาคอีสานอีกเป็นจำนวนมากที่ต้องการโครงการจัดการน้ำ ดังนั้นการลำดับความสำคัญในการทำโครงการจึงมีความจำเป็นต่อการพิจารณา

ยิ่งไปกว่านั้นการสร้างแหล่งกักเก็บน้ำเหมืองตะกั่วใกล้น้ำตกโตนสะตอ มีความเสี่ยงในการสูญเสียแหล่งน้ำและพื้นที่ป่าสมบูรณ์มากถึง 468 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่และเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของจังหวัด เป็นแหล่งน้ำอุปโภคบริโภคและเป็นแหล่งรายได้ของชาวบ้าน

ดังนั้น นายธนาธร ได้เสนอให้ตัดงบประมาณโครงการอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่วออกไปก่อน โดยที่ประชุม กมธ.งบฯ ลงมติเห็นด้วย 22 เสียง ไม่เห็นด้วย 21 เสียง และงดออกเสียง 9 เสียง ส่งผลให้ข้อเสนอดังกล่าว ชนะไปด้วยคะแนน 22 : 21 เสียง

สำหรับ การเคลื่อนไหวของชาวบ้านเหมืองตะกั่ว จ.พัทลุง และกลุ่มรักษ์โตนสะตอ ก่อนหน้านี้ได้ปักหลักค้างคืนประท้วงโครงการดังกล่าวนานร่วม 8 วัน บริเวณหน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก่อนจะย้ายมาที่หน้าทำเนียบรัฐบาล และตั้งเป้าหมายว่าจะไม่กลับบ้าน จนกว่ามีคำสั่งระงับการก่อสร้างเขื่อนเหมืองตะกั่ว ซึ่งการลงมติดังกล่าวในชั้น กมธ.ทำให้โครงการสร้างเขื่อนเหมืองตะกั่ว ต้องหยุดไปก่อนอีก 1 ปี ต่อจากนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชาวบ้าน ร้อง “บิ๊กตู่” ระงับเขื่อนเหมืองตะกั่ว “หมอสุภัทร” เผย 5 เหตุผลทำไมต้องหยุด