“สมศักดิ์” สั่งจัดหนัก แก๊งค้ายา ตั้งเป้ายึดทรัพย์ 6,000 ล้าน พัฒนาเครื่องมือใหม่

by ThaiQuote, 27 พฤศจิกายน 2563

รมว.ยุติธรรม เปิดแผน "ต่อต้านยาเสพติดปี64" ตั้งเป้ายึดทรัพย์ 6,000 ล้าน เล็งหาช่องยึดบิทคอยน์ ตั้ง ป.ป.ส.ศูนย์กลางประสานร่วมทุกหน่วยงาน พร้อมพัฒนาเทคโนโลยีใหม่

 

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิด "แผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2564" โดยมี นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายวิศิษฎ์ วิศิษฎ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พล.อ.ปริพัฒน์ ผลาสินธุ์ รองผู้บัญชาทหารสูงสุด พล.อ.อ.ธนินทร์ ปุณศรี รองปลัดกระทรวงกลาโหม นายวีรัส ประเศรษโฐ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคง ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ศาลฎีกา สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา (DEA) และคณะ เข้าร่วมงาน

 

 

นายสมศักดิ์ กล่าวในการเปิดงานว่า ตนในนามของ ผอ.ศูนย์อำนวยการการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ ได้มอบนโยบายเน้นแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2564 โดยเน้นเรื่องการสืบสวนขยายผลทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดทุกระดับ ตัดวงจรทางการเงิน ยึดทรัพย์สิน กลุ่มการค้ายาเสพติดมิให้นำเงินมาเป็นทุนในการค้ายาเสพติดหรือขยายธุรกิจผิดกฎหมายต่าง ๆ โดยเน้นบูรณาการการบังคับใช้กฎหมายของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามหลักนิติธรรม เพื่อดำเนินการให้ถึงต้นตอ เพื่อลดปัญหายาเสพติดในสังคม เพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชน และขยายการยึดทรัพย์จากปีที่แล้ว

สำหรับในปี 2564 ผมได้กำหนดเป้าหมายการขยายผลและยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติด 10 เท่า หรือคิดเป็นมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 6,000 ล้านบาท โดยขอให้ ป.ป.ส.พัฒนากลไกความร่วมมือระหว่างประเทศในการช่วยกันแก้ปัญหา เช่น สำนักงานปราบปรามยาเสพติด สหรัฐอเมริกา (DEA) อย่างการจับกุมสารเคมีที่โกดังบางปะกง เราต้องเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆที่เราไม่เคยเจอ รวมถึงการซื้อขายผ่านทางบิทคอยน์

 

 

“วันนี้เราต้องเรียนรู้ในเทคโนโลยีใหม่ๆที่พัฒนาอยู่ตลอดให้เท่าทัน รวมถึงการทำความเข้าใจกับหน่วยงานต่างๆทั่วประเทศ เพื่อให้แต่ละจังหวัดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ให้ส่วนกลางทำงานอย่างเดียว โดยให้ ป.ป.ส.เป็นหน่วยงานกลางในการประสาน ในส่วนฝ่ายปราบปราบขอให้เน้นการทำลายเครือข่าย ตัดวงจรทางการเงิน ไม่ให้นำเงินมาขยายเครือข่าย โดยบูรณาการบังคับใช้กฎหมายร่วมกัน" นายสมศักดิ์กล่าว

ด้าน นายวิชัย กล่าวว่า การดำเนินแผนปฏิบัติดังกล่าว มีกรอบในการดำเนินงาน 5 มาตรการ ได้แก่ 1.มาตรการความร่วมมือระหว่างประเทศ 2.มาตรการปราบปรามและบังคับใช้กฎหมาย 3.มาตรการการป้องกันยาเสพติด 4.มาตรการการบำบัดรักษายาเสพติด และ5.มาตรการการบริหารจัดการอย่างบูรณาการ

ขณะที่ อีกปัจจัยที่สำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติด คือการมีส่วนร่วมของภาคประชาชาชน เพราะหน่วยงานราชการไม่สามารถดำเนินการเพียงลำพังได้ เพื่อให้ลูกหลานและสังคมไทยปลอดภัยจากยาเสพติด เริ่มตั้งแต่สถาบันครอบครัวที่เป็นสถาบันที่สำคัญที่สุดในการสร้างภูมิคุ้มกันให้บุตรหลาน เยาวชน ไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด หรือภาคชุมชนที่เป็นพื้นที่ปัญหา ที่ต้องลุกขึ้นมาจัดการร่วมกับภาคส่วนอื่น ๆ ของสังคม และการร่วมเป็นหูเป็นตาให้แก่เจ้าหน้าที่ ด้วยการแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งหลายครั้ง ที่ผ่านมาได้มีการนำไปสู่การจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญหลายราย

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศ สตช. วิธีการและสถานที่จ่ายค่าปรับใหม่