ป.ป.ส. เผยผลตรวจของกลาง โกดังฉะเชิงเทรา 12 ตัน พบยาเคปนเปื้อน 1.2 กรัม

by ThaiQuote, 15 ธันวาคม 2563

ป.ป.ส. เผยผลตรวจสารต้องสงสัย 493 กระสอบ น้ำหนักรวม 12,449 กก.ในโกดังฉะเชิงเทรา พบคีตามีน 1.2 กรัม ในแคลเซียมคาร์บอเนต 12 กระสอบ 301 กก. ที่เหลือเป็นไตรไซเดียมฟอสเฟต 12,148 กก. พร้อมส่งเรื่องให้ บช.ปส.ดำเนินคดีต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (15 ธ.ค.63) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้แถลงสรุปผลการตรวจพิสูจน์สารต้องสงสัยว่าเป็นเคตามีนบรรจุกระสอบ จำนวน 493 กระสอบ ซึ่งตรวจยึดได้จากโกดังเก็บของ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา


นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) กล่าวว่า กรณีที่มีการตรวจยึดสารต้องสงสัยว่าเป็นคีตามีนบรรจุกระสอบ จำนวน 493 กระสอบ ในบริเวณโกดังเก็บของ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 12 พ.ย.63 ที่ผ่านมา โดยจากการตรวจเบื้องต้นในที่เกิดเหตุพบว่าสารต้องสงสัยดังกล่าวให้ผลเป็นสีม่วงกับชุดทดสอบสารเคมี ต่อมา สำนักงาน ป.ป.ส. ได้บูรณาการการตรวจพิสูจน์ระหว่าง 3 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงาน ป.ป.ส. กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เพื่อร่วมกันตรวจสอบจำนวน น้ำหนัก และดำเนินการตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดในห้องปฏิบัติการ โดยผลการตรวจพิสูจน์เมื่อวันที่ 14
ธันวาคม 2563 และการสืบสวนของเจ้าหน้าที่สืบสวนสามารถสรุปได้ ดังนี้

1.จากการเข้าตรวจยึดของกลางที่โกดังดังกล่าว แบ่งออกเป็น 4 จุด โดยจุดที่ 1 เป็นกระสอบสีขาว มีการเย็บปากถุงไว้แบบหลวมๆ จำนวน 66 กระสอบ น้ำหนักรวม 1,664 กิโลกรัม จุดที่ 2 เป็นกระสอบสีขาว เย็บปากถุงไว้อย่างแน่นหนา จำนวน 200 กระสอบ น้ำหนักรวม 5,109 กิโลกรัม จุดที่สอบเป็นกระสอบสีฟ้า-ขาว เย็บปากถุงไว้อย่างแน่นหนา จำนวน 200 กระสอบ น้ำหนักรวม 5,020 กิโลกรัม และจุดที่ 4 เป็นกระสอบคละลาย จำนวน 27 กระสอบ น้ำหนักรวม 656 กิโลกรัม โดยในจุดนี้แต่ละกระสอบถูกเปิดปากถุงไว้ และมีสารบรรจุอยู่ไม่เต็มถุง
2. ผลการตรวจพิสูจน์พบว่า สารที่พบในของกลางจุดที่ 1 จุดที่ 2 จุดที่ 3 และจุดที่ 4 (บางส่วน) เป็นสารไตรโซเดียมฟอสเฟต (Na₃PO₄) น้ำหนักรวม 12,148 กิโลกรัม บรรจุอยู่ในกระสอบ 481 กระสอบ
3. ขณะที่ของกลางอีก 12 กระสอบ ในจุดที่ 4 (น้ำหนักรวม 301 กิโลกรัม) ตรวจพบเป็นสารแคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO₃) และตรวจพบ “คีตามีน” หรือ ยาเค ซึ่งเป็นสารเสพติด น้ำหนัก 1.2 กรัม ปนเปื้อนในสารดังกล่าวในปริมาณที่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

ทั้งนี้ในส่วนการดำเนินคดี ป.ป.ส.ร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ที่ บช.ปส. ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. 63 โดยแยกออกเป็น 2 คดี คือ 1. ทางการไต้หวันได้จับกุมผู้ต้องหาและตรวจยึดคีตามีนที่ส่งไปจากประเทศไทย ถือว่าเป็นคดีนอกราชอาณาจักร ต้องส่งเรื่องไปอัยการสูงสุดพิจารณาดำเนินการ และ 2. กรณีที่ตรวจพบคีตามีนจากโกดัง สำนักงาน ป.ป.ส.ได้ส่งผลการตรวจให้พนักงานสอบสวน บช.ปส.เพื่อพิจารณาดำเนินคดีกับผู้ต้องสงสัย ในข้อหามีคีตามีนซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท


โดยป.ป.ส. จะประสานและสนับสนุนข้อมูลต่างๆ จากการข่าวและการสืบสวนให้พนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีนี้ต่อไปในข้อหามีคีตามีนซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายไว้อีกส่วนหนึ่งแล้ว นับเป็นคดีในประเทศไทย ซึ่งขณะนี้กำลังขยายผลติดตามกลุ่มผู้ต้องสงสัย แบ่ง 3 กลุ่ม คือ คนเฝ้าโกดัง คนเช่าโกดัง และคนติดต่อส่งของไปไต้หวันต่อไป

 

Fact

สารแคลเซียมคาร์บอเนต มีลักษณะเป็นผลึกหรือผง ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่ละลายในน้ำ แต่ละลายได้ในกรดอ่อน ใช้ในอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมสี ยาง พลาสติก ผลิตกระดาษ ยาฆ่าแมลง หมึก ทำกาว ดินสอสี ใช้ในทางเภสัชกรรม ผลิตยาปฏิชีวนะ ยาลดกรด สารเสริมแคลเซี่ยม เครื่องสำอาง และใช้สำหรับลดความเปรี้ยวออกจากเหล้าองุ่น
นอกจากนี้ หากมีการนำไปใช้ในทางผิดกฎหมาย สามารถใช้เป็นสารอัลคาไลน์ ที่ใช้ในกระบวนการผลิตโคเคนเบส แต่สารนี้ไม่ได้มีกฎหมายควบคุม (ข้อมูลจาก กองควบคุมวัตถุเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา)

 

ข่าวที่น่าสนใจ

มท. สั่ง ทุกจังหวัด คุมเข้มโควิด-19 เน้นย้ำไม่ให้กระทบธุรกิจ-บรรยากาศช่วงเทศกาลปีใหม่