เทคนิค “ปลูกผักชี” ในกระถาง ให้งาม จนเก็บกินไม่ทัน

by ThaiQuote, 26 สิงหาคม 2564

ผักชี เป็นอีกหนึ่งพืชสวนครัว ที่หลายๆคนนิยมใช้ในการทำอาหารรับประทานภายในบ้าน แถมต้นใบเขียวหยิกๆ แปลกๆ ของผักชี เมื่อนำเอามาใส่กระถางแล้วก็ดูสวยงาม สบายตา ช่วยทำให้มุมบ้านเหมาแก่การพักผ่อนได้อีกด้วย

สำหรับ ผักชี เป็นพืชที่ชอบ ดินร่วนปนทราย มีการระบายน้ำได้ดี ซึ่งเราสามารถใช้ดินถุงที่มีขายตามร้านต้นไม้ทั่วไป มาใช้ได้ โดยผสมกับ กาบมะพร้าว(ละเอียด) และปุ๋ยคอก ในอัตรา ดิน 3 ส่วน กาบมะพร้าว 1 ส่วน และปุ๋ยคอกอีก 1 ส่วน

เมื่อเตรียมดินปลูกเรียบร้อยแล้ว คราวนี้ก็มาถึงวิธีการปลูก เริ่มต้นด้วย นำเมล็ดผักชี (มีขายตามร้านต้นไม้ เลือกที่เป็นเมล็ดใหม่) มาบดให้แตก เป็น 2 ส่วน (ช่วยให้ผักชีเติบโตง่ายและขึ้นเร็ว) จากนั้นห่อด้วยผ้าแล้วทำไปแช่ในน้ำ ไว้ 1 คืน แล้วนำมาผึ่งลมอีก ประมาณ 1-2 คืน เมื่อเห็นเมล็ดเริ่มงอกแล้วก็นำไปปลูกในกระถางได้ทันที

ในช่วงนี้ควรรดน้ำในทันที โดยผักชีเป็นพืชที่ต้องการน้ำมาก ดังนั้นควรรดน้ำเป็นประจำทุกวัน วันละ 2 ครั้ง แต่อย่ารดให้มากจนเกินไป เพราะผักชีไม่ชอบน้ำขัง และจะทำให้รากเน่าได้

เมื่อต้นอ่อนมีความสูงประมาณ 1-2 ให้เลือกถอดต้นที่แคระแกร็นออก เหลือให้แต่ต้นที่แข็งแรง และให้แต่ละต้นมีระยะห่างกันพอประมาณ โดยสามารถให้ปุ๋ยหมักได้ในระยะที่ผักชีเริ่มแตกใบแล้ว

เมื่อต้นสูงประมาณ 4-6 นิ้วแล้ว ให้เก็บผักชีโดยการเด็ดออกมาเป็นใบๆ หรือเด็ดออกมาเป็นต้นๆ เหนือฐานใกล้กับพื้นดิน โดยใบอ่อนเหล่านี้ สามารถใช้ปรุงอาหารได้ทันที โดยผักชีจะเริ่มโตเต็มที่เมื่อมีอายุประมาณ 40-45 วัน (หากปลูกในแปลงจะเก็บเกี่ยวช่วงนี้)

มาถึงเทคนิคที่จะทำให้ผักชีงอกงามดี เริ่มตั้งแต่ การเลือกช่วงเวลาปลูก เนื่องจากผักชีเป็นพืชที่ชอบอากาศเย็น และไม่ชอบแดดจัด ดังนั้นช่วงปลายฝนต้นหนาว (ก.ย.-ต.ค) จึงเป็นช่วงที่เหมาะสมจะปลูกผักชี หรือเลือกช่วงปลายฤดูร้อน เพื่อให้ผักชี้โตทันฤดูฝน

อีกเทคนิคหนึ่ง คือ การเก็บผักชี คือให้กับใบมาปรุงอาหารแค่ประมาณ 1 ใน 3 ของต้น (เลือกเก็บใบอ่อน เพราะใบแก่ที่เป็นหยักคล้ายใบเฟิร์นจะขม) เพื่อให้ผักชีแตกยอดใหม่ โดยหากเป็นมากกว่านั้นจะทำให้ต้นไม่แข็งแรง ซึ่งเมื่อเริ่มเก็บผักชีแล้ว มันจะแตกยอดใหม่อีกประมาณ 2-3 รอบ ก่อนที่จะต้องปลูกใหม่

 

เรื่องที่น่าสนใจ

ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน มีคำสั่งให้บุคคลพ้นสภาพจากการเป็นจิตอาสา 904 โดยมีเนื้อหาดังนี้