1 ต.ค.ดีเดย์ เปิด 5 เมืองท่องเที่ยว กทม. ชลบุรี ประจวบฯ เพชรบุรี เชียงใหม่ ไม่ต้องกักตัว พร้อมเปิดตัว “หัวหิน รีชาร์จ” รับนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ต้องกักตัว ผ่านมาตรการตรวจโควิด 3 ครั้ง ตรวจไม่เจอเที่ยวได้ตามซีลรูทที่กำหนด พร้อมเร่งฉีควัคซีนประชากรให้ครบ 70% ของพื้นที่

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่าแผนการเปิดพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในระยะที่ 2 ที่จะเริ่มวันที่ 1 ต.ค. 64 มี 5 พื้นที่ ได้แก่ กทม. ชลบุรี (พัทยา บางละมุง สัตหีบ) เพชรบุรี (ชะอำ) ประจวบคีรีขันธ์ (พื้นที่หัวหิน) และเชียงใหม่ (อ.เมือง แม่แตง แม่ริม และดอยเต่า)

ด้านความคืบหน้าโครงการ “หัวหิน รีชาร์จ” การเปิดเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัว จะมีการควบคุมดูแลพื้นที่ท่องเที่ยวติดกัน คือ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และอ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อย่างเข้มข้น โดยจะมีการเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชากรในพื้นที่ให้ได้ประมาณ 70% ของทั้งหมด และเน้นย้ำกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการนักท่องเที่ยวจะต้องฉีดวัคซีนครบโดส 100%

ด้าน นายยุทธศักดิ์ ศุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การควบคุมมาตรการนั้น จะใช้โมเดลของ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” เป็นเกณฑ์มาตรฐานในการเปิดการท่องเที่ยวในพื้นที่ปลอดภัย ผ่าน 5 แผน ได้แก่

1.แผนการกระจายวัคซีนและสุขอนามัยเพื่อความปลอดภัยของคนในพื้นที่ 2.แผนพัฒนาเมืองระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อตอบสนองพฤติกรรมความต้องการของนักท่องเที่ยวยุคใหม่ 3.แผนการตลาดและการสื่อการตลาด 4.แผนเผชิญเหตุและแผนบริหารความเสี่ยง และ5.แผนการสร้างความเข้าใจให้คนในพื้นที่และนอกพื้นที่ยอมรับการเปิดเมือง

นพ.สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ประชากรในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน ทั้ง 2 ตำบล ได้แก่ ต.หนองแก และต.หัวหิน ได้รับวัคซีนตามระบบการลงทะเบียนหมอพร้อม และการจัดสรรวัคซีนทางเลือกซิโนฟาร์ม ของเทศบาลเมืองหัวหินอีก 55,000 โดส หรือคิดเป็น 27,500 คน

ทำให้มีประชาชนได้รับวัคซีนโควิด-19 คิดเป็นปริมาณร้อยละ 73.49 และหากจะเปิดเมืองท่องเที่ยวครอบคลุมทุกอำเภอจำเป็นต้องได้รับการจัดสรรวัคซีนอีก 110,000 โดส เพื่อจะทำให้ภาพรวมของทั้งจังหวัด มีประชาชนได้รับวัคซีนเกินร้อยละ 70

ข้อมูลการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในโครงการ “หัวหิน รีชาร์จ” (4 ก.ย.64) พบว่า ตั้งเป้าหมายการฉีดวัคซีนในประชากรจำนวน 90,564 คน มีการฉีดวัคซีนแล้วรวม 88,265 โดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 64,434โดส / ครอบคลุม 71.25 % เข็มที่ 2 จำนวน 21,794โดส / ครอบคลุม 24.06 % และเข็มที่ 3 จำนวน 2,037โดส

นายกรด โรจนเสถียร ประธานโครงการ “หัวหิน รีชาร์จ” กล่าวถึงแนวทางการปฏิบัติของนักท่องเที่ยวต่างชาติว่า “หัวหิน รีชาร์จ” จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยไม่กักตัว ซึ่งนักท่องเที่ยวจะต้องได้รับวัคซีนโควิดครบโดสแล้ว

และจะต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่วันแรกที่เดินทางมาถึงสนามบินในประเทศไทย ด้วยวิธี RT-PCR จากนั้นเดินทางเข้าห้องพักในโรงแรมที่ได้มาตรฐาน SHA Plus+ ทันทีเพื่อรอผลการตรวจเชื้อ โดยไม่มีการแวะพักในระหว่างทาง

โดยหากไม่พบเชื้อก็สามารถท่องเที่ยวแบบอิสระหรือซื้อแพกเกจทัวร์เพื่อเดินทางภายในพื้นที่ 86.36 ตร.กม.ของเทศบาลเมืองหัวหิน แบบไม่กักตัวได้

ขณะเดียวกันจะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อให้ครบทั้ง 3 ครั้ง ครั้งที่ 2 คือวันที่ 7 จากนั้นวันที่ 8 เปลี่ยนไปพักโรงแรมอื่นได้ ส่วนการตรวจหาเชื้อครั้งที่ 3 คือวันที่ 13 เมื่อท่องเที่ยวและพำนักในพื้นที่ครบ 14 คืน จึงจะออกไปเที่ยวพื้นที่อื่นในไทยได้

โดยคาดว่าหากโครงการ “หัวหิน รีชาร์จ” สำเร็จ จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาประมาณ 1 แสนคน ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้การท่องเที่ยวในพื้นที่ได้กว่า 1,200 ล้านบาท

เรื่องที่น่าสนใจ

แนะนำ “ลำไยสีม่วง” พืชเศรษฐกิจใหม่ รสชาติดี ราคาพุ่ง กก.ละ 500-1,000 บ.