อาหารไทย นับได้ว่าเป็นอาหารที่ทั่วโลกเป็นที่รู้จัก และชาวต่างชาติให้ความนิยมรับประทาน แต่ด้วยข้อจำกัดของการส่งวัสดุดิบอย่างผักสด จึงทำให้เมนูอาหารไทยในต่างประเทศนั้นมีราคาแพง และหายาก ทำให้ร้านอาหารไทยจึงต้องดัดแปลงวัตถุดิบที่มีเพื่อใช้กับเมนูต่างๆ

ข้อจำกัดนี้ได้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของคนไทยในต่างประเทศเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ “พรทิพย์ ศรีวิเศษ” คนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศเบลเยี่ยม เธอจึงเริ่มปลูกพืชผักไทยเพื่อใช้รับประทานเองก่อนต่อยอด เป็นธุรกิจสวนผักไทย

“พรทิพย์” เริ่มปลูกผักเพื่อไว้รับประทานโดยดัดแปลงโรงเรือนปลูกสตรอว์เบอร์รี่ของครอบครัวสามี ก่อนจะขยายพื้นที่การเพาะปลูก เปลี่ยนให้กลายเป็น “ทิพย์สวนผัก” ธุรกิจสวนผักไทย ในปัจจุบัน จนได้รับความสนใจทั้งจากชาวไทยและชาวต่างชาติในเบลเยียม รวมถึงลูกค้าจากประเทศใกล้เคียงในยุโรป

ภายใน “ทิพย์สวนผัก” มีการปลูกพืชผักไทยหลากหลายชนิด เช่น กะเพรา โหระพา แมงลัก ผักชี ผักชีลาว ขึ้นฉ่าย มะเขือ พริก แตงกวา คะน้า กวางตุ้ง ฟักทอง มะระ ฯลฯ

นอกจากนี้ “พรทิพย์” ยังได้นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ เพื่อต่อสู้กับสภาพอากาศ แสงแดด และอุณหภูมิในฤดูหนาวที่ยาวนานถึง 5 เดือนของเบลเยี่ยม ซึ่งปกติจะไม่สามารถทำการเพาะปลูกพืชผักได้

โดยโรงเรือนที่ใช้ปลูกผักนั้น จะมีการติดตั้งเครื่องทําความร้อนเพื่อควบคุมอุณหภูมิให้มีความเหมาะสมกับพันธุ์พืชไทย และใช้ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อควบคุมการรดน้ำและใส่ปุ๋ยในปริมาณที่เหมาะสม
ขณะเดียวกันเธอ ยังได้ทำการตลาดบนโลกออนไลน์ ผ่านสื่อโซเชี่ยลอย่าง Facebook ในชื่อ “ทิพย์สวนผัก ไทย อิสาร อินเตอร์”ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 1.3 หมื่นคน ทำให้สามารถสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น

“ทิพย์สวนผัก” ซึ่งนับเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดี ของการปรับตัวต่อยอดจากการการปลูกพืชผักไว้เพื่อรับประทานเอง สู่ธุรกิจสวนผัก โดยอาศัยโอกาสความต้องการของคนในพื้นที่ จนทำให้ “ผักไทย” ได้ “โกอินเตอร์” เป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติมากยิ่งขึ้น
เป็นแบบอย่างของธุรกิจที่มีการปรับตัวให้ทันยุคดิจิทัลและมีชื่อเสียงจากการใช้ประโยชน์ของแพลตฟอร์มออนไลน์

ข้อมูล : กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ
ภาพ : เพจเฟซบุ๊ก “ทิพย์สวนผัก ไทย อิสาร อินเตอร์”

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ

ทีเส็บเปิดตัว 10 เมืองไมซ์ ดึงนักเดินทางต่างชาติ รับเปิดประเทศ